"Avatar" ผลงานของ "เจมส์ คาเมรอน" ทำรายได้ในการฉายในประเทศได้เอาชนะ "Titanic" เป็นหนังที่ทำเงินสูงสุดตลอดกาลที่ฉายในสหรัฐอเมริกาแล้ว พร้อมกันนี้ผู้อำนวยการสร้างของหนัง “จอห์น แลนเดา” ยังออกมาให้ความเห็นถึง กรณีที่ว่า “Avatar” ไม่ได้เป็นหนังทำเงินอันดับ 1 อย่างแท้จริง ถ้าเป็นการจัดอันดับแบบปรับค่าเงินด้วย
เมื่อวันอังคารที่ 2 ก.พ. ที่ผ่านมา Avatar สามารถทำรายได้ในการฉายที่สหรัฐฯ ไปแตะระดับ 601.1 ล้านเหรียญฯ แล้ว เป็นการทำลายสถิติ 600.8 ล้านเหรียญฯ ของ Titanic ที่ทำไว้เมื่อปี 1998 ได้สำเร็จ ขณะที่ในการนับรายได้รวมทั่วโลก Avatar ทำเงินผ่านหลัก 2 พันล้านเหรียญฯ เป็นหนังที่ทำเงินสูงสุดตลอดกาลไปตั้งแต่สัปดาห์ก่อนแล้ว
"สายฟ้า มักจะไม่ผ่าที่เดิมซ้ำๆ 2 ครั้ง แต่มันก็เป็นไปแล้ว มันกดดันเหมือนกันที่ได้ยินว่าเรากำลังจะทำลายสถิติพวกนี้ เป็นเรื่องนอกเหนือจากสิ่งที่เราจะจิตนาการกันได้" จอห์น แลนเดา ผู้อำนวยการสร้างของหนัง กล่าวกับนักข่าว หลังจาก Avatar ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ 9 สาขา แลนเดา ถึงความสำเร็จของเขา กับผู้กำกับ เจมส์ คาเมรอน ที่ร่วมงานกันมาตั้งแต่หนังเรื่อง Titanic และสามารถย้อนรอยความยิ่งใหญ่ได้อีกครั้งกับ Avatar
แลนเดา ยังกล่าวต่อไปว่า ตอนนี้ คาเมรอน และเขากำลังคุยถึงภาคต่อกันแล้ว อย่างไรก็ตามยังไม่ได้ตัดสินใจอะไรตอนนี้ทั้งสิ้น ด้าน คาเมรอน ซึ่งเป็นผู้เขียนบท และกำกับ กล่าวถึงเรื่องภาคต่อของ Avatar ตั้งแต่หนังเพิ่งจะเข้าฉายในเดือน ธ.ค. แล้ว ซึ่งผู้กำกับชื่อดังยังเผยว่า หนังอาจจะมีตอนต่ออีกสัก 2 ภาค แต่ว่าทั้งหมดเป็นแผนการระยะยาว ... "หนังมีศักยภาพที่จะมีภาคต่ออยู่แล้ว แต่ไม่ใช่ว่าผมมีบทหนังภาค 2 และ 3 เตรียมพร้อมอยู่แล้ว สามารถเริ่มต้นสร้างมันได้ตั้งแต่ปลายเดือน ม.ค. อะไรแบบนั้นหรอกนะครับ แต่แน่นอนว่าทุกอย่างอยู่ในแผนการแล้ว"
ตอนนี้ Avatar ยังเหลือเวลาในโรงภาพยนตร์อีกนาน หนังทำรายได้ถึง 600 ล้านเหรียญในการฉายเพียงแค่ 47 วัน ขณะที่ในปี 1998 Titanic ทำรายได้ไปทั้งสิ้น 311 ล้านเหรียญ ในเวลาเท่ากัน ซึ่งการเข้าชิงรางวัลออสการ์ 9 สาขา ก็อาจจะช่วยให้หนังได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นไปอีก
หลายคนแสดงความเห็นเกี่ยวกับปรากฏการณ์กวาดรายได้ของ Avatar ว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้หนังเก็บเงินได้เร็วเช่นนี้ ก็คือราคาตั๋วหนังในยุคปัจจุบัน และโรงภาพยนตร์สามมิติ
เพราะถึงตอนนี้ถ้านับเฉพาะจำนวนคนดู Avatar ยังไม่สามารถเอาชนะ Titanic ได้ ซึ่งหนังทั้งสองเรื่องก็ยังเป็นรองในเรื่องจำนวนตั๋วที่ขายได้ทั้งหมด และเมื่อเทียบรายได้ของหนัง แบบที่มีการปรับค่าเงิน กับงานคลาสสิคอย่าง Gone With the Wind, Star Wars และ The Sound of Music หนัง 3 อันดับแรก ที่ทำรายได้สูงสุดหลังปรับค่าเงินแล้ว
สำหรับ เลนเดา ซึ่งเป็นผู้อำนวยการสร้างของทั้ง Titanic และ Avatar ออกความเห็นว่าเขาไม่เห็นด้วยกับการจัดอันดับหนังทำเงิน โดยเอาเรื่องค่าตั๋ว หรือการปรับค่าเงินมาเป็นเครื่องชี้วัด และกล่าวว่า ทุกช่วงเวลาต่างมีข้อได้เปรียบเสียเปรียบกันอยู่แล้ว " Gone With the Wind ไม่ต้องแข่งกับโทรทัศน์ ขณะที่ Star Wars ฉายตอนที่ยังไม่มีแผ่น DVD และ Titanic ไม่ต้องมีคู่แข่งเป็นแผ่น Blu-rays และทีวีดาวเทียม"
"เรื่องการปรับค่าเงินทำให้ผมขำ เวลาพูดถึงทุนสร้าง หรือค่าใช้จ่าย ผมไม่เคยเห็นพวกเขาเอาเรื่องนี้มาพูด แต่ชอบเหลือเกินเวลามันเกี่ยวข้องกับบ็อกซ์ออฟฟิศ" แลนเดา แสดงความคิดเห็น
อันดับหนังทำเงินตลอดกาลในสหรัฐฯ โดย Boxoffice Mojo (หน่วยเป็นล้านเหรียญสหรัฐฯ)
1. Avatar (2009) - $601.1
2. Titanic (1997) - $600.8
3. The Dark Knight (2008) - $533.3
4. Star Wars (1977) - $460.9
5. Shrek 2 (2004) - $441.2
6. E.T.: The Extra-Terrestrial (1982) - $435.1
7. Star Wars: Episode I - The Phantom Menace (1999) - $431.0
8. Pirates of the Caribbean: Dead Man's Chest (2006) - $423.3
9. Spider-Man (2002) - $403.7
10. Transformers: Revenge of the Fallen (2009) - $402.1
อันดับหนังทำเงินตลอดกาลในสหรัฐฯ แบบปรับค่าเงินแล้ว โดย Boxoffice Mojo (หน่วยเป็นล้านเหรียญสหรัฐฯ)
1. Gone with the Wind (1939) - $1,537.5(รายได้ที่ทำได้จริง $198.6)
2. Star Wars (1977) - $1,355.4 ($460.9)
3. The Sound of Music (1965) - $1,083.7 ($158.6)
4. E.T.: The Extra-Terrestria (1982) - $1,079.5 ($435.1)
5. The Ten Commandments (1956) - $996.9 ($65.5)
6. Titanic (1997) - $976.7 ($600.7)
7. Jaws (1975) - $974.6 ($260.0)
8. Doctor Zhivago (1965) - $944.6 ($111.7)
9. The Exorcist (1973) - $841.4 ($232.6)
10. Snow White and the Seven Dwarfs (1937) - $829.4 ($184.9)
21. Avatar (2009) - $601.1 ($601.1)
เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |