xs
xsm
sm
md
lg

“บอย” เผยเหตุห่างคอนเสิร์ตเพราะกลัวคนเอียน ไม่เกี่ยวกับคบ “เจี๊ยบ” แล้ว “เจ๊ฉอด” ไม่ป้อนงาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“บอย พีชเมกเกอร์” เผยที่หายไป 5 ปีเพราะกลัวคนฟังเอียน ยันงานน้อยไม่เกี่ยวกับคบ “เจี๊ยบ” แล้ว “เจ๊ฉอด” ไม่ป้อนงาน เผยปลายปีเตรียมจัดคอนเสิร์ตเดี่ยว พร้อมเตรียมสร้างบ้านอยู่ใกล้เจี๊ยบ

หายหน้าไปหลายปีเลยทีเดียวสำหรับ “บอย พีชเมกเกอร์” อนุวัฒน์ สงวนศักดิ์ภักดี ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยได้ชื่อว่าเป็นลูกรักของ “เจ๊ฉอด สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา” มีงานคอนเสิร์ตให้เล่นไม่ขาดสาย แต่ล่าสุดบอยก็กลับมาทวงบัลลังค์ลูกรักอีกครั้งประกาศจัดคอนเสิร์ตเดี่ยว PLAY BOY CONCERT BY BOY PEACEMAER” ภายใต้การสนับสนุนของเอไทม์เจ้าเก่า

“สำหรับคอนเสิร์ตนี้ก็ห่างจากครั้งที่แล้วประมาณ 4 ปีกว่าๆ ครั้งที่แล้วรู้สึกจะเป็นพาโนราม่าคอนเสิร์ต ตอนนั้นยังไม่ได้ออกอัลบั้มเดี่ยว ตอนนั้นน่าจะสักปี 2005 น่าจะสัก 5 ปีพอดีครับ แต่หลังจากนั้นก็จะมีขึ้นคอนเสิร์ตกับทางเอไทม์บ้าง มีคอนเสิร์ตของพี่นิ่ม สีฟ้าบ้าง เป็นแขกรับเชิญบ้าง ก็เลยรู้สึกว่าไม่ได้ห่างหายจากเอไทม์ไปสักเท่าไหร่ ก็ยังทำกิจกรรมร่วมกัน ทั้งกิจกรรมในส่วนของคลื่นวิทยุต่างๆ อยู่ด้วยครับ”

คนจะมองว่าเป็นลูกรักตกกระป๋องมั้ย มันแล้วแต่คนจะคิดนะครับ แต่ตัวผมเองไม่ได้คิดอย่างนั้น เพราะว่าระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านไป เราก็ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ และได้ขึ้นคอนเสิร์ตเรื่อยๆ อยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าหายไป 5 ปีแล้วไม่ได้มีงานเลย มันก็ยังมีงานอยู่เรื่อยๆ แล้วทางเอไทม์ก็เรียกใช้บริการเราอยู่เรื่อยๆ อยู่แล้ว ซึ่งกับที่ว่าผมไม่ได้เป็นลูกรักพี่ฉอด จริงๆ แล้วผมว่าการทำงานของคนเรามันต้องมีการเลี่ยน การเอียนบ้าง ถ้าเกิดเป็นเราตลอดผมว่าคนดูก็คงจะรู้สึกเอียนบ้าง วันนึงก็คงไม่มาดูแล้ว แต่ก็มีเว้นวรรคให้ได้รู้สึกว่าเอ๊ะเริ่มอยากดูแล้ว ตัวผมเองถ้าให้ผมมีคอนเสิร์ตเดี่ยวๆ บ่อยๆ ตัวคนเล่นเองผมเชื่อว่าก็จะรู้สึกไม่อินมากกับคอนเสิร์ตเดี่ยวของตัวเองสักเท่าไหร่ ก็จะมีช่วงเว้นบ้าง”

ปัดไม่เคยมีปัญหากับ “เจ๊ฉอด” ตามข่าว และไม่เกี่ยวกับที่ตนคบกับดาราสาว “เจี๊ยบ พิจิตตรา สิริเวชชะพันธ์” ทำให้ความเอ็นดูลดลง
“ผมไม่เคยมีปัญหาอะไรกับพี่ฉอดเลยครับ ข่าวไม่จริงเลย เพราะยังเจอกับพี่ฉอดอยู่ตลอด แล้วไปที่เอไทม์ก็ยังแวะเข้าไปสวัสดีแกตลอด ถ้าเกิดว่ามีปัญหาปีที่แล้วก็คงไม่มีโอกาสไปขึ้นคอนเสิร์ตของพี่นิ่มใช่มั้ยครับ ความจริงแล้วไม่เลยครับ ไม่เกี่ยวกับเรื่องเจี๊ยบด้วยครับ ถ้าเกิดคนคิดว่าผมมีเจี๊ยบแล้วพี่ฉอดไม่รัก ไม่เอ็นดูคือมันเสียถึงพี่ฉอดเลย ผมว่าไม่ดีมากๆ เพราะว่าพี่ฉอดเป็นผู้ใหญ่พอ และผมเชื่อว่าพี่ฉอดเป็นคนที่มีคนต้องทำงานด้วยเยอะมาก ถ้าจะมาคิดแบบนี้ผมว่าไม่ยุติธรรมสำหรับตัวพี่ฉอดนะครับ ตัวเราเองมีหน้าที่ทำงานตรงนี้ให้ดีที่สุด”

“ส่วนทางพี่ฉอดหรือทางเอไทม์เรียกใช้งาน ผมว่าอยู่ที่ผลงานมากกว่า ถ้าช่วงที่เราได้รับมอบหมายทำหน้าที่มาเราก็ทำตรงนั้นให้เต็มที่ ถ้าเขาเห็นผลงานดีเขาก็เรียกมาใช้อีกครับ กับพี่ฉอดก็ยังดีครับ เมื่อกี้ยังยืนเม้าท์กันอยู่ อย่างที่พี่ฉอดบอกว่ายังไม่ถึงคอนเสิร์ตเลยยังมาถามอะไรเยอะแยะ คือไอเดียผมตอนนี้มันเยอะมาก เพราะคอนเสิร์ตนี้ผมเตรียมงานมานาน แล้วก็จะถามตลอดว่าพี่ฉอดตรงนี้ ตรงนั้นทำยังไงดีก็ยังถามแกอยู่ พี่ฉอดก็หันมาบอกว่านี่คอนเสิร์ตมันเดือน 10(หัวเราะ) จะรีบเตรียมไปไหน ไม่ได้มีขัดเคืองอะไรกันเลยครับ”

ส่วนความสัมพันธ์กับสาว “เจี๊ยบ” ที่คบมากว่า 5 ปีแล้วก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร และไม่กลัวอาถรรพ์เพราะยังคุยกันอยู่ตลอดเกือบตลอดเวลา
“กับเจี๊ยบก็ดีครับ เรื่อยๆ เรื่องการแต่งงานมันเป็นเรื่องของเวลามากกว่า ถ้าเรารีบเร่งเร็วไปก็ไม่ได้เจอกันอยู่ดี เพราะต่างคนก็ยังต้องทำงานกันอยู่ ผมก็ทำงานทางสายดนตรี เขาก็เป็นเรื่องของการแสดง เวลาที่เจอกันมันก็ค่อนข้างจะน้อย แต่ก็มีการคุยกันบ้างครับ แต่ว่าสุดท้ายแล้วมันก็เป็นเรื่องของเวลา ถ้าเกิดแต่งไปแล้วไม่ได้อยู่ด้วยกันมันก็ไม่มีประโยชน์ ไม่มีเวลาอยู่ด้วยกัน”

“ตอนนี้คบกันเข้าปีที่ 5 แล้วครับไม่ได้รู้สึกกลัวเรื่องอาถรรพ์ เพราะว่าทุกวันเราก็จะถามไถ่กันเสมอ คือเวลาที่ไม่ได้เจอกันก็ไม่รู้สึกว่ามันห่างกัน รู้สึกว่าเราก็ยังมีการสื่อสารกันอยู่ตลอดเวลา แต่ที่ไม่ค่อยมีข่าวคงเพราะเราไม่ค่อยได้ออกสื่อด้วยกันมากกว่า คือไม่ค่อยได้มีภาพว่ามางานด้วยกันก็เลยอาจจะมีคนเข้าใจว่าเลิกกันหรือเปล่า”

“ถ้าถามว่าแพลนงานแต่งไว้มั้ย คือถ้าจะเป็นเดือนไหน เมื่อไหร่นี่ยังไม่ได้แพลนนะครับ คือเราไม่อยากจะไปผูกมัดด้วยคำพูดแบบนี้ แต่ผมเชื่อว่าในใจถ้าพร้อมทั้งคู่ตรงนั้นมันไม่ใช่เรื่องใหญ่อยู่แล้วเรื่องแพลนเรื่องอะไร แต่มีการคุยกันว่าถ้าพร้อมนะ ให้เขาดูแลที่บ้านเขาจนเรียบร้อย เราดูแลที่บ้านเราจนทุกอย่างพร้อมแล้ว ให้เราบริหารเวลาของทั้งคู่ได้ ตรงนี้ก็คงไม่มีปัญหา”

“เรื่องเรือนหอ จริงๆ แล้วอย่าไปเรียกว่ามันเป็นเรือนหอเลยครับ คือเขาเองกำลังจะหาซื้อบ้านให้คุณแม่ และตัวผมเองก็อยากจะสร้างบ้านขึ้นมา ก็เป็นโปรเจ็คนึง แต่บ้านใครบ้านมันครับ ยังไม่ได้สร้างร่วมกัน เขาก็อยากซื้อบ้านให้คุณแม่ก่อน ไม่งั้นมันก็คงดูเป็นลูกที่ไม่ค่อยน่ารักสักเท่าไหร่ ถ้าอยู่ดีๆ ไปซื้อบ้านเองยังไม่ซื้อบ้านให้คุณแม่เลย แต่ถ้าซื้อก็คงพยายามดูให้มันอยู่ในโลเกชั่นที่มันใกล้ๆ กันไว้ เวลาไปมาหาสู่กันมันจะได้ไม่ลำบาก ก็พยายามช่วยกันดูครับ”


กำลังโหลดความคิดเห็น