“ทนายปุ๊” เปิดใจเหตุว่าความให้ “นาธาน” มั่นใจช่วยคนไม่ผิด แต่ถ้าโดนหลอกจะถอนตัว ซัดแม่บ้านก็เคยโกงแถมมีลูกติดยา

“ทนายปุ๊” เปิดใจเหตุรับว่าความให้ “นาธาน” มั่นใจช่วยคนไม่ผิด แต่ถ้าจับได้ว่าโดนหลอกจะถอนตัวทันที จวก “แม่บ้าน” เล่นละคร แฉเคยมีหนี้โกงคนอื่นมาแล้ว แถมมีลูกเล่นการพนันติดยา ส่วนเรื่องปลอมประวัติบอกเป็นเรื่องระหว่างอาร์เอสกับพม.เพราะไม่มีลายเซ็นนาธาน สันนิษฐานลูกความอาจแจ้งเกิดช้า ญาติเอามาใส่ชื่อในทะเบียนบ้าน แต่ไม่ใช่พ่อแม่ที่แท้จริง

ตั้งแต่ทนาย “ปุ๊” พิราวรรณ ชลพิทักษ์พงษ์ ปรากฏตัวในฐานะทนายความผู้ขันอาสาสู้คดีให้กับอดีตนักร้องอาร์เอส “นาธาน โอร์มาน” ในกรณีที่นาธานถูกอดีตแม่บ้าน "เต็ม สมาน สุขเสริม”“ แจ้งความดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงเงินจำนวน 7.5 แสนบาท ทนายปุ๊ก็ถูกสังคมตั้งคำถามว่า ไปช่วยนาธานทำไม ประกอบกับตนเองก็ชอบทำตัวลึกลับไม่ยอมเปิดเผยชื่อเสียงเรียงนาม ก็ยิ่งทำให้คดีนี้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไปทั่ว ทนายปุ๊เป็นใคร ? ทำไมมารับว่าความให้นาธาน ? ไปหาคำตอบพร้อมๆ กัน

“ที่มาว่าความให้ครั้งนี้เพราะสนิทกับคนใกล้ชิดปุ๊กกี้(ปริศนา พรายแสง) และในวันที่ 18 มกราคมนี้เรานัดนักข่าวทางโน้น(อำนาจเจริญ) เพราะเรามีข้อเท็จจริงบางส่วน แต่ยังไม่ทราบว่าจะเป็นการแถลงข่าวหรือเปล่า เพราะยังไม่ได้ปรึกษากัน แต่ว่าจะต้องมีอะไรบางอย่างในวันนั้น ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าตอนไหนกี่โมง เพราะยังไม่รู้ว่ายัยเต็มจะมาแสดงละครตอนไหนอีก เพราะอย่างข่าวที่ออกไปบอกว่าวิ่งหนี ทั้งที่ไม่ได้วิ่งหนีเลย ก็เดินไปเรื่อยๆ แต่ยัยเต็มมาแสดงละคร อย่างนี้ก็ไม่อยากพูดด้วยแล้ว เพราะพูดก็พูดไม่รู้เรื่องไม่รู้จะพูดทำไม ก็เดินขึ้นรถ แต่กลับมาหาว่าเราวิ่งหนี เจ้าหน้าที่ศาลเป็นคนอนุญาตให้เรากลับนะ”

“ทุกครั้งไม่เคยหนีสักครั้งเดียว ครั้งแรกศาลนัด 9 โมงยัยเต็มไปสิบโมง แล้วจะเจอกันมั้ยเนี่ย แล้วมาบอกว่าเราหนี ข่าวออกไม่เคยตรงสักครั้งเดียว อยากให้ไปคุยทีเดียววันที่ 18 สาดโคลนกันไปสาดโคลนกันมาเราไม่ชอบ”

“ดิฉันเป็นทนายถ้าอยากดังคงประกาศชื่อไปแล้ว ดิฉันดังมาพอแล้วสิบกว่าปีที่เป็นทนายและทำรายการมา อย่างทำรายการก็เพราะเป็นการเผยแพร่ความรู้ เป็นการให้คำแนะนำเรื่องกฎหมายมาตลอด แต่คนฟังบางส่วนที่ดูสื่อแล้วเขาไม่เข้าใจ ก็มาถามว่าเราไปช่วยเขาทำไมอะไรอย่างโน้นอย่างนี้ เราก็บอกเราเป็นทนาย การช่วยโจรหรือช่วยคนดีๆ หรืออะไรก็แล้วแต่ ตราบใดที่ศาลยังไม่พิพากษาเราต้องสันนิษฐานก่อนว่าเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่เมื่อเราเข้าไปแล้วเราก็มีหน้าที่รวบรวมทำความจริงให้ปรากฏว่าความจริงมันเป็นยังไงแน่”

“ในชีวิตที่ว่าความมาเคยถอนตัวกลางคันมาแล้ว ถ้าเข้าไปแล้วรู้ว่าลูกความโกหกพี่จะถอนตัวเลย ยังเคยบังคับด้วยซ้ำไป คุณไม่ถอนฉันหรือฉันไม่ถอนคุณ คดีนี้คุณแพ้นะ ถ้ามาหลอกกันอย่างนี้ (แสดงว่าตรวจเช็ครายละเอียดเรียบร้อยแล้วถึงได้มั่นใจว่านาธานไม่ได้โกหก?) บางส่วน อีกบางส่วนมันต้องอยู่ที่แบงค์ คืออีกบางส่วนเราต้องรอให้อัยการสั่งฟ้องใช่มั้ยคะ หลังจากนั้นพอเราทำเรื่องเข้าไปแล้วเราระบุบัญชีพยานแล้ว เราถึงจะขอหมายจากศาลไปค้นได้ เพราะคดีฉ้อโกงมันลิงค์ถึงกันหมดแหละ เงินมาจากตรงไหนไปตรงไหน”

“จุดแรกที่พิจารณาก็คือ สมมุติคุณจะไปกู้เงินใคร โดยที่ไม่ใช่ญาติกัน แล้วยังมีหนี้มีสินอยู่เป็นแสน จะใช้หนี้ก่อนหรือว่าจะให้คนอื่นยืมก่อน ผู้จัดการ(ASTVผู้จัดการ) รู้มั้ยว่าแม่บ้านมีหนี้คนอื่นมาแล้วยังโกงเขามาอีก เคยทราบเรื่องนี้มั้ย โดยนิสัยคนน่ะ จะใช้หนี้ก่อนหรือให้คนอื่นยืมก่อน ประเด็นที่สองแม่บ้านมีลูกที่เล่นการพนันติดยา คนพวกนี้ล้างผลาญพ่อแม่เท่าไหร่ คนติดยาถึงขนาดติดคุก 6 เดือน ประวัติมันมีนะคุณ มันไม่ใช่เรื่องจะมากล่าวอ้างลอยๆ ได้”

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า อะไรที่ทำให้เชื่อมั่นในตัวนาธาน ถึงได้ตัดสินใจดูแลคดีให้ เจ้าตัวก็บอกว่า….
“ไม่ใช่เชื่อมั่นในตัวนาธาน แต่เราดูจากเอกสารดูทั้งพยานบุคคลแวดล้อม ซึ่งได้มาบางส่วนแล้วแต่มันยังไม่ครบ เราอยากรอให้ครบแล้วถึงจะว่ากันไป แต่วันที่ 18 นี่มันอาจจะเปิดเผยได้บางส่วน ซึ่งมันเป็นหลักฐานที่จะแสดงว่าความจริงที่ออกมาทางสื่อมันเป็นจริงตามนั้นหรือไม่ เราไม่เอาหลักฐานมาหักล้างเพราะการหักล้างคือขั้นตอนในศาล แต่นี่ยังไม่เข้ากระบวนการ ศาลยังไม่รับฟ้อง ศาลยังไม่มีคำสั่งประทับรับฟ้อง แต่ในเมื่อสื่อถามเราก็จะให้ดูบางส่วนเท่าที่ให้ได้ ที่ไม่ทำให้เสียรูปคดี แต่ส่วนใหญ่จะเก็บไว้สู้ในคดี”

“ดิฉันมีวิชาชีพทนายความนะ ว่าความให้ทุกคนทุกชั้นทุกวัยถ้าอยู่ในวิสัยที่จะทำได้ เคยช่วยคนมามากว่านี้ ช่วยหมด ไม่ต้องการหรอกช่วยคนเพื่อสร้างความดังให้ตัวเอง ดิฉันเป็นทนายคอยให้คำปรึกษาเรื่องคดีความต่างๆ ทำตรงนี้มาสิบกว่าปีแล้ว อย่างตอนนี้นาธานก็ให้มาดูคดีฉ้อโกงอย่างเดียว ก็เอาเป็นเรื่องๆ ไป ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็ค่อยว่ากัน เราต้องให้เสร็จเป็นเปราะๆ”
ทนายปุ๊(ใส่เสื้อสีขาวขวามือ)