xs
xsm
sm
md
lg

เมื่อ "เชอร์ล็อค โฮล์มส์" เป็นกิ๊กกับ "หมอวัตสัน"/ไก่ อำนาจ

เผยแพร่:   โดย: อำนาจ เกิดเทพ

"ฉันเองไม่ได้รู้สึกไม่ดีกับโฮโมเซ็กชวลนะคะ แต่รู้สึกไม่ดีกับ ผู้ที่บิดเบือนความซื่อตรงต่อจิตวิญญาณที่แท้จริงของ เชอร์ล็อก โฮล์มส์ เท่านั้น"

"หวังว่านี่จะเป็นแค่มุมตลกร้ายๆ อีกครั้ง ซึ่งมันอาจจะรุนแรงไปสักหน่อย แต่ดิฉันคงจะต้องถอนสิทธิ์การสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ ถ้ารู้สึกว่าพวกเขาต้องการใส่โครงเรื่องแบบนี้ลงไปในหนัง"


สองย่อหน้าแรกคือประโยคที่ออกมาจากปากของ "แอนเดรีย พลังเก็ต" ผู้ถือลิขสิทธิ์นิยาย และตัวละคร "เชอร์ล็อก โฮล์มส์" ในสหรัฐฯ หลังมีข่าวออกมาว่านวนิยายเชิงสืบสวนที่เป็นตำนานของโลกอย่าง Sherlock Holmes ซึ่งถูกนำมาทำเป็นภาพยนตร์ครั้งล่าสุดจะให้ตัวเอกของเรื่อง และคู่หูอย่างหมอวัตสันเป็นกิ๊กกัน!

ฟังดูอาจจะเป็นเรื่องตลก แต่หากใครไปดูหนังเรื่องนี้มาแล้วก็จะรู้ว่า สิ่งที่แอนเดรียกังวลนั้นก็ไม่ใช่จะไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย

เพียงแต่ว่า...
...
กลับมาโลดแล่นบนแผ่นฟิล์มอีกครั้งสำหรับ "ตัวละคร" ที่ได้รับการบันทึกจากนิตยสารกินเนสส์บุ๊คว่า "มีผู้แสดงมากที่สุด" อย่าง "เชอร์ล็อค โฮล์มส์" นักสืบเชลยศักดิ์ในโลกนวนิยายแนวสืบสวน(รหัสคดี) ที่ว่ากันว่าทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลก ภายใต้การกำกับของ "กาย ริชชี่" (Guy Ritchie) โดยมี "โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์" (Robert Downey Jr.) มารับบทนักสืบผู้เก่งกาจ

ขณะที่หนุ่มหล่อ "จูด ลอว์" (Jude Law) รับบทเป็น "ดร. จอห์น เอช. วัตสัน" หรือ "หมอวัตสัน" อดีตทหารผ่านศึกคู่หูคนสำคัญ โดยในครั้งนี้ทั้งสองจะต้องเข้าไปเผชิญกับการไขปริศนาต่างๆ และต่อกรกับศัตรูตัวฉกาจคนใหม่ "ลอร์ด แบล็กวูด" (มาร์ก สตรอง) ผู้ซึ่งฟื้นคืนชีพมาจากความตาย และต้องการที่จะปกครองประเทศอังกฤษด้วยพลังเวทย์ที่ลึกลับ

อาจจะดูไม่เป็นกลางนักเพราะโดยทรรศนะส่วนตัวที่ชื่นชอบหนังในแนวนี้อยู่แล้ว ผมว่านี่เป็นหนังแนวแอ็กชั่นคอมเมดี้ที่ดูสนุกมากๆ อีกเรื่องหนึ่ง ด้วยเรื่องราวที่ไหลลื่น คำเฉลยที่มีเหตุมีผล มุกตลกที่ลงตัว และฉากแอ็กชั่นที่สุดมัน (แม้ทุกอย่างจะเดินไปตามสูตรของหนังแนวนี้แบบไม่ออกนอกกรอบ คือต่อให้(ฝ่าย)พระเอก-นางเอกจะ(โคตร)เก่งขนาดไหน ก็จะต้องเสียทีเพลี่ยงพล้ำให้กับคู่ต่อสู้ที่สุดร้ายกาจจนเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด ทว่าในท้ายที่สุดทุกอย่างก็จะคลี่คลายและจบลงอย่างแฮปปี้เอนดิ้งโดยมีบทสรุปที่ว่าธรรมะย่อมจะชนะอธรรมอยู่วันยังค่ำ)

ที่น่าสนใจก็คือการตีความคาแรกเตอร์ของเชอร์ล็อค โฮล์มส์ ซึ่งสำหรับใครที่คิดว่าจะได้เห็นพระเอกหนุ่มมาดเนี้ยบแบบผู้ดีอังกฤษ สวมหมวก-คาบไปต์ (อันเป็นสัญลักษณ์คุ้นตาของตัวละครตัวนี้) แก้ไขปัญหาด้วยความคล่องแคล่ว สุขุม คงต้องผิดหวังนิดหน่อย

โดยในนวนิยายนั้น หมอวัตสันได้ระบุถึงอารมณ์ของโฮล์มส์ไว้ว่า มักจะมีอารมณ์แปลกๆ บางครั้งก็เศร้าซึม พูดน้อย บางครั้งก็ร่าเริง แต่สำหรับในภาพยนตร์นักสืบเชลยศักดิ์ผู้นี้ดูจะออกไปไกลกว่านั้นเยอะ จนบางครั้งก็ดูจะเพี้ยน ติ๊งต๊อง (ขณะที่บุคลิกพื้นฐานอื่นๆ ยังคงอยู่ อาทิ เล่นไวโอลิน เก่งทางด้านชกมวย มีวิธีสืบคดีด้วยหลักการอนุมาน ฯ) ซึ่งคงจะไม่ผิดอะไรมากนักหากคิดไปถึงเหตุผลของความจริงส่วนหนึ่งจากนวนิยายที่ระบุไว้ว่า โฮล์มส์ชอบเสพโคเคนกับมอร์ฟีน (ข้อดีของหนังก็คือไม่เคยพูดถึงข้อมูลในส่วนนี้เลย)

ที่น่าชื่นชมมากๆ อีกประการหนึ่งของหนังก็คือการดึงเอาตัวละครตัวสำคัญจากนวนิยายซึ่งมักจะอยู่ต่างกรรมต่างวาระเข้ามามีส่วนร่วมได้อย่างลงตัว และมีบทบาทสำคัญไม่แพ้กัน

ไม่ว่าจะเป็น "ไอรีน แอดเลอร์" (เรเชล แมคอาดัมส์) ผู้หญิงคนเดียวในความทรงจำที่สามารถเอาชนะเขาได้, ศาสตราจารย์เจมส์ มอริอาร์ตี้ ผู้มีมันสมองปราดเปรื่องในด้านอาชญากรรมและอยู่เบื้องหลังในหลายๆ คดีคู่ปรับตัวฉกาจของโฮล์มส์

หรือแม้กระทั่ง "แมรี มอร์สแตน" (เคลลี เรลลี) คู่หมั้นและภรรรยาของหมอวัตสันในเวลาต่อมา เรื่อยไปจนถึงมิตรทางตำรวจอย่างสารวัตร "เลสเตรด"

จะขาดก็แต่ตัวละครอย่าง "ไมครอฟต์ โฮลมส์" พี่ชายของโฮล์มส์ที่ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลาง แต่กระนั้นมันก็มิได้ให้ความรู้สึกว่าหนังขาดอะไรไปแต่อย่างใด

มาถึงเรื่องที่หลายคนให้ความสนใจก็คือ "ความสัมพันธ์" ของโฮล์มส์และคู่หูหมอวัตสัน

สาเหตุที่ทำให้ "แอนเดรีย พลังเก็ต" ผู้ถือลิขสิทธิ์นิยาย และตัวละคร เชอร์ล็อก โฮล์มส์ ต้องออกมาแสดงความเป็นห่วงต่อเรื่องที่ว่านี้ ก็เพราะก่อนหน้านั้นทางด้านของ "โรเบิร์ต ดาวนี่ย์ จูเนียร์" ผู้รับบทโฮล์มส์ ได้ออกมาพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครทั้งสองตั้งแต่ก่อนที่หนังจะเข้าฉายว่า "เราเป็นหนุ่มสองคนที่เป็นรูมเมทกัน กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันบ่อยๆ และนอนร่วมเตียงกันด้วย มันสุดยอดจริงๆ"

ขณะที่ จู๊ด ลอว์ ผู้รับบทหวอวัตสัน ก็เสริมว่า กาย ริชชี่ ผู้กำกับภาพยนตร์ ต้องการสร้างความสัมพันธ์ที่พิเศษลงไประหว่างตัวละครทั้งสอง "พวกเขามีความหมายต่อกัน และมันซับซ้อนมากๆ"

สำหรับใครที่ชมภาพยนตร์มาแล้ว ผมคิดว่าทั้งฉากที่ทั้งคู่สบตากัน งอนกัน ดูกุ๊กกิ๊ก หรือแม้กระทั่งความพยายามของโฮล์มส์ที่จะไม่ให้หมอวัตสันหมั้นและย้ายออกไปจากห้องเช่า หลายคนก็คงอดไม่ได้แหละครับที่จะคิดไปถึงความสัมพันธ์ในเชิง "อย่างว่า" ของทั้งสอง (ยิ่งใครถ้าคิดเลยเถิดไปถึงเนื้อหาของนวนิยายที่ระบุไว้ว่า ชีวิตการแต่งงานของหมอวัตสันกับแมรีต้องล้มเหลวกระทั่งเขาต้องย้ายกลับมาอยู่กับโฮล์มส์ผมว่าคงยิ่งไปกันใหญ่)

แต่ทั้งหลายทั้งปวงโดยส่วนตัวผมว่ามันคือมุกตลกที่เกิดจากความตั้งใจของผู้กำกับฯ มากกว่า

ต้องไม่ลืมนะครับว่าทั้งสองอยู่ด้วยกันมานาน รู้ใจกันเป็นที่สุด ร่วมหัวจมท้ายมาด้วยกัน เป็นแขนขาซึ่งคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกันชนิดที่ต้องบอกว่าขาดกันไม่ได้ ขณะที่ต่างคนต่างก็มีบุคลิกพิเศษที่น่าจะเข้ากับคนอื่นได้ยาก

ที่สำคัญเท่าที่ผมรู้สึก ผมว่าอารมณ์ของหนังมันไม่ได้สื่อสารออกมาในลักษณะที่ว่าอย่างจริงๆ จังๆ แม้สักนิดเดียว คืออาจจะดูเหมือนหยอกกัน งอนกัน น้อยใจกันบ้าง แต่ทั้งหมดจะออกแนวอารมณ์กวนๆ ซึ่งกันและกันมากกว่า

เหนือสิ่งอื่นใด ผมว่าหากต้องการจะสื่อให้โฮล์มส์กับหมอวัตสันเป็นคู่โฮโมเซ็กชวลกันจริงๆ ก็ไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องใส่ตัวละครที่เป็นคู่รักทั้งสองเข้ามาแต่อย่างใด

เอาเป็นว่าถ้าอยากรู้ว่าทั้งสองจะกิ๊กกันจริงหรือเปล่า? ก็ลองเข้าไปชมกันเอาเองเถิดครับ

แต่ที่ยืนยันได้ตอนนี้ก็คือ หนังสนุกครับ

เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย
ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540
ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก
ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000
*ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก

กำลังโหลดความคิดเห็น