“โจอี้” บอกเป็นนัยไม่หวั่นคนมองตามรอยหวิวรุ่นพี่นส.ไทย "บุ๋ม-หมิง"

“โจอี้” นางสาวไทย ปี2552 รับอยากเข้าสู่วงการบันเทิง เหตุกลัวคนจำไม่ได้ เจ้าตัวเผยมี "บุ๋ม-หมิง" เป็นไอดอล บอกเป็นนัยไม่กลัวหากคนจะมองว่าเดินตามรอยเท้ารุ่นพี่ที่หลังๆ หันมาขายความเซ็กซี่มากขึ้น

ค่อนข้างจะถูกลืมง่ายทีเดียวสำหรับเวทีนางสาวไทยซึ่งส่วนหนึ่งก็เพราะเวทีนี้ไม่มีงานในวงการบันเทิงให้ทำ ส่งผลให้ตอนนี้สาวงามที่เพิ่งจะคว้ารางวัลนี้มาครองเมื่อปีที่แล้วอย่าง “โจอี้ อรวิภา กนกนทีสวัสดิ์” เลยต้องขยันออกทำกิจกรรมเป็นพิเศษ

“ถามว่ากลัวไหมที่คนจะลืมเราว่าเราเป็นนางงามเพราะเราไม่ได้ไปประกวดต่อเวทีไหน ก็มีบ้างนะค่ะ แต่ถึงแม้ว่าเวทีนางสาวไทยจะไม่ได้ไปประกวดต่อเวทีระดับโลกก็จริงอย่างที่บอกว่าเราก็จะได้เป็นฑูตวัฒนธรรมการท่องเที่ยวและก็เป็นเหมือนกับตัวแทนผู้หญิงไทยที่มีความกล้า มีความสามารถรอบๆ ด้าน"

"แต่ถ้าถามว่าตั้งได้รับตำแหน่งนี้ไม่มีผลงานอะไรในวงการบันเทิงเลยกลัวคนลืมไหม ก็กลัวนะค่ะ อาจจะเป็นเพราะว่าปีก่อนๆ ไม่ค่อยได้ออกสื่อ และก็อาจจะมีเรื่องการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองนิดๆ ซึ่งตอนนี้โจอี้ก็จะพยายามออกสื่อตลอดเลย และก็พยายามทำกิจกรรมเพื่อสังคม"

"ก็คิดว่าจะเอากิจกรรมเหล่านี้ทำให้คนจดจำเราได้ ตอนนี้อะไรที่เป็นกิจกรรมดีๆโจอี้ทำหมดเลยนะ ไม่ได้ปฏิเสธสักงานเลย พยายามทำงานให้มากที่สุด ยิ่งเราอยู่ช่อง 9 ด้วย ไม่มีผู้จัดไม่มีรายการอะไรรองรับ"

ออกปากยอมรับอยากเข้าวงการบันเทิง
"แต่ว่าด้วยความที่ว่าการเป็นนางสาวไทยอาจจะทำอะไรมากไม่ได้ เดินแบบโป๊ๆ ไม่ได้ แต่ถ้าเข้าวงการมาแล้วก็ไม่ได้คิดว่าจะเซ็กซี่อะไร คงไม่มีมากไปกว่านี้เหตุผลแรกของการประกวดเวทีนี้ก็คือการไม่ต้องใส่ชุดว่ายน้ำ ดังนั้นก็เลยเราเป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้น เราไม่ได้พยายามว่าเราได้เข้าวงการแล้ว ปีหน้าจะต้องเปิดนมอะไรแบบนี้”

“แต่ถามว่ารอให้พ้นตำแหน่งไปหรือเปล่าก็ใช่ค่ะ อยากทำงานในวงการบันเทิง เพราะว่ามันเป็นความท้าทายใหม่ๆ ผู้ใหญ่ก็ไม่ได้ห้ามว่าการเป็นดาราเป็นสิ่งที่ไม่ดีนะ โจอี้ว่าวงการบันเทิงมันมีอะไรที่น่าสนุกเยอะพิธีกรถ่ายแบบ แสดงหนังแสดงละคร"

"ซึ่งเหมือนกับทุกๆ ด้านมันต้องใช้ความสามารถของตัวเราเองทั้งหมด และโจอี้ก็ยังไม่เคยได้ทำเลย ยังพูดตะกุกตะกัก และก็ไม่ได้มองว่าตำแหน่งนาวสาวไทยมันเป็นบันได แต่ในทางกลับกันโจอี้รู้สึกว่าตำแหน่งนางสาวไทยมันคือจุดสูงสุด มองว่าถ้าเกิดเราเข้ามาในสื่อแล้วคนจะจำเราได้มากขึ้นมากกว่า ที่เหลือก็เป็นกำไร”

เจ้าตัวรับ “บุ๋ม ปนัดดา” และ “หมิง ชาลิสา” เป็นไอดอล พร้อมเผยเป็นนัยๆ ไม่หวั่นหากใครมองจะเดินตามรอยเท้ารุ่นพี่ที่พักหลังๆ หันมาจับงานเซ็กซี่ถี่ขึ้น บอกให้รอดูต่อไป
“ถามว่า กลัวไหมกับภาพลักษณ์ตรงนี้ว่าพอพ้นจากเวทีนางงาม อย่างพี่บุ๋ม ปนัดดา พี่หมิง ชาลิสา ที่เค้าเข้าวงการบันเทิงและก็มาถ่ายชุดว่ายน้ำเซ็กซี่ๆ หรือหันมาเน้นเซ็กซี่และก็มีข่าวมากขึ้น คือโจอี้ยอมรับนะค่ะว่าไอดอลของโจอี้ คือพี่ทั้งสองคน คือปลื้มในความสามารถของพี่เขา พี่เขาทั้งสวยและเก่ง"

"แต่หากเรื่องแบบนี้โจอี้ว่าแต่ละคนเขาน่าจะมีแนวทางในการใช้ชีวิตไม่เหมือนกัน ตำแหน่งนี้มันเหมือนกับว่าช่วงที่เขาอยู่ในตำแหน่งเขาทำงานได้ดีสมบูรณ์แบบหรือเปล่า แต่ในเรื่องของที่เขาจะพรีเซนท์รูปแบบของตัวเองเป็นแบบไหนมันเป็นเรื่องส่วนตัว"

"และก็มองว่าแล้วแต่คนจะมองในแต่ละคนมากกว่า เขาคงแยกแยะได้ว่าไม่ได้มองภาพรวมนางสาวไทยจะไม่ดีไปทั้งหมด ถามว่ากลัวไหมคนจะมองเราว่าพ้นตำแหน่งแล้วอาจจะถ่ายชุดว่ายน้ำเซ็กซี่ๆ อันนี้ต้องคอยดูมากกว่า เราเองก็ห้ามความคิดคนไม่ได้อยู่แล้วก็รอดูละกันว่าจะยังไง”

“ตอนนี้โจอี้เหลือเรียนอีก 1 ปี และจะต้องเรียนให้จบตามที่ตั้งใจ หลังจากนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้ใหญ่จะให้โอกาสว่าจะให้ทำอะไร แต่ก็คิดว่าหลังจากหมดตำแหน่งแล้วจะเข้าวงการแน่นอน ถ้าผู้ใหญ่ให้โอกาส อยากเล่นละครแต่ก็ยังไม่รู้ว่าความสามารถของตัวเองมีพอไหมก็อยากได้ประสบการณ์จากตรงนี้ด้วยค่ะ”

เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก