xs
xsm
sm
md
lg

“ป๊อบ” โต้ลาวงการ เผยซุ่มทำรายการทีวี โวหนัง “เด็กโต๋” กระแสยังดี ขายตปท.ฟันกำไร 30 เท่า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ป๊อบ” โต้อำลาวงการ บอกยังรับแต่ขอเลือกงานมากขึ้น เผยกำลังซุ่มทำรายการทีวีออกม.ค.ปีหน้า แย้มเป็นรายการมุมมองใหม่ที่ไม่เคยมีในประเทศไทย ยันถึงไม่มีโฆษณาก็อยู่ได้ ถือเป็นกำไรชีวิต คุยโวหนัง “เด็กโต๋” กระแสยังดีไม่มีตก ขายต่างประเทศได้กำไรกว่า 30 เท่า ส่วนภาคต่อขอเวลาศึกษาดูข้อมูลก่อน

หายหน้าหายตาจากจอทีวีไปนาน สำหรับอดีตนางสาวไทย “ป๊อบ อารียา สิริโสดา” ที่ก่อนหน้านี้ยังพอมีงานแสดง ถ่ายแบบและโฆษณาให้ได้เห็นหน้าค่าตากันบ้าง แต่ตั้งแต่ไปจับมือกับเพื่อนซี้ “นก นิสา คงศรี” ลงทุนสร้างหนังสารคดีเรื่อง “เด็กโต๋” แล้วได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ดีเกินคาดทั้งในไทยและต่างประเทศ เจ้าตัวจึงหันไปทุ่มเทกับงานภาพยนตร์ และยังคงจับมือกับเพื่อนซี้คนเดิม ลงพื้นที่หาข้อมูลเพื่อทำหนังเรื่องใหม่ต่อ ซึ่งจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับปักษ์ใต้บ้านเรา

อย่างไรก็ตามวันก่อนมีโอกาสเจอหน้า “ป๊อบ อารียา” จึงได้เข้าไปสอบถามถึงเหตุผลที่แท้จริงที่ทำให้หายหน้าไปจากวงการ เจ้าตัวจึงเผยให้ทราบว่ากำลังซุ่มทำรายการใหม่ ที่จะออกอากาศทางช่องไทยพีบีเอสราวม.ค.ปีหน้า

“เราไม่ได้หายหน้าไปไหน คือยังไม่มีงานที่ถูกใจติดต่อเข้ามา และตอนนี้ก็ทำรายการชื่อเมล็ดพันธุ์ไทย น่าจะออกอากาศประมาณเดือนมกราคมปีหน้า เป็นเรื่องเกี่ยวกับคนในประเทศ อาจจะเป็นมุมมองที่ยังไม่เคยเห็นในประเทศของเรา อะไรที่เป็นที่สุดจริงๆ ของที่ทำกับมือและใส่ใจทำจริงๆ ซึ่งก็ทำกับบริษัทเล็กๆ ของเรา ที่คิดทำเพราะทุกคนตอนนี้ทำเพื่อหวังกำไร และคนที่ทำด้วยใจจริงๆ หายาก เราก็เลยอยากยกตัวอย่างของความเป็นไทย ซึ่งทุกอย่างก็ตัดต่อเสร็จแล้ว จะออกอากาศกับทางไทยพีบีเอส”

“ที่เลือกทำกับทางช่องนี้ เพราะไม่มีโฆษณา เราก็ไม่อยากหาโฆษณาอยู่แล้ว ยังไม่อยากจะใส่สินค้าอะไรเข้าไปในรายการ เพราะเรายังไม่ได้ทำอะไรใหญ่ขนาดนั้น แต่เราไม่ได้แอนตี้โฆษณานะ แค่เรายังไม่อยากทำอะไรที่ยุ่งยาก ไม่อยากจะเดินเข้าไปหาทางช่องเพื่อซื้อเวลา ซื้อเวลาเสร็จก็ต้องขายโฆษณา แต่กับทางช่องไทยพีบีเอสก็ไปคุยอย่างเป็นขั้นตอนนะคะ ซึ่งตอนนี้ทางช่องสนใจมากๆ ที่เราทำไปก็ออกเงินไปก่อน เดี๋ยวค่อยไปหาเอาทีหลัง”

“ซึ่งการที่ไม่ได้ขายโฆษณา ไม่ได้กลัวว่าทำไปแล้วจะเสียเปล่า ยังไงมันก็เป็นกำไรชีวิตอย่างหนึ่ง ที่เราได้ไปเจอคนที่เก่งๆ และตัวเองก็ไม่ได้เป็นคนที่ทำเพื่อกำไร เราอยากทำสารคดี และก็ทำมานานแล้ว เลยไม่ได้กลัวเลยไอ้เรื่องเสียเปล่า”

โวหนัง “เด็กโต๋” กระแสยังดีแม้ผ่านมา 5 ปีแล้ว ขายต่างประเทศได้กำไรกลับมา 30 เท่า ซึ่งเงินทั้งหมดไม่เคยเอาเข้ากระเป๋าตัวเอง แต่นำไปเป็นทุนการศึกษาให้เด็กๆ

“สำหรับหนังเรื่อง เด็กโต๋ ก็เหมือนกัน ผลการตอบรับดีมากๆ ถือว่าเป็นหนังสารคดีที่ประสบความสำเร็จสูงสุดแล้วมั้งในประเทศไทย มันไม่ได้ขาดทุนอะไรเลย ที่ลงทุนไปแล้วได้กลับมา มันมีมูลค่ามากกว่าเงินทองซะอีก มันอาจจะเล็กๆ แต่เราก็ภูมิใจ อาจจะไม่ได้เงินเยอะแยะมากมายมหาศาล แต่ก็ไม่ได้ขาดไม่เคยขาดเลย และได้เอาจดหมายของเด็กที่เขียนมาถึง มาทำเป็นหนังสือที่วางขายอยู่ตอนนี้ ก็เอาเงินที่ได้ทั้งหมดไปเป็นทุนการศึกษาให้กับน้องๆ ที่นั่น เพื่อทำให้เด็กๆได้เรียนต่อ ได้มีข้าวกิน”

“หนังเรื่อง เด็กโต๋ ผ่านมา 5 ปีแล้วแต่ก็ยังได้รับผลตอบรับที่ดีอยู่ อย่างต่างประเทศก็ติดต่อมาขอซื้อ เราก็ขายไปมีประเทศเกาหลี อเมริกา ซึ่งก็ได้กำไรเกินกว่า 10 เท่าที่เราลงทุนไปด้วยมั้ง คิดว่าน่าจะเกินเป็น 30 เท่าได้ เพราะลงทุนไปไม่กี่แสนบาทเอง แต่ได้กลับมาเป็นล้านๆ แต่ที่ได้กลับมาก็ไม่ได้เข้ากระเป๋าเรา ก็ทำเป็นกองทุนเด็กโต๋ เพื่อให้น้องๆ ได้ศึกษาต่อเหมือนกัน”

“ถามว่าเราจะทำต่ออีกมั้ย ก็นานนะกว่าจะเป็นหนังเรื่องนี้ได้ เพราะใช้เวลาตั้ง 15 ปีสำหรับหนังเรื่องนี้ แต่ถ้าเราไม่ทำก็เหมือนกับว่านอนตายตาไม่หลับ แต่เรายังไม่รู้ว่าจะเจออะไรแบบนี้อีกมั้ย ที่มันโดนใจเราสุดๆแบบนี้ ซึ่งการที่จะทำมันต้องใช้เวลา และต้องใช้พลังงานเยอะมาก”

เผยเหตุไม่รับงานอีเว้นท์หรือละคร เพราะต้องเดินทางบ่อยและไม่มีเวลา ย้ำยังรับอยู่ แต่ขอเลือกงานมากขึ้น จะทำเฉพาะสิ่งที่ไม่เคยทำ และสนุกคุ้มค่าที่จะทำมากกว่า

“งานอีเว้นท์ก็หายไปเยอะนะ แต่ก็มีติดต่อมาเรื่อยๆ ไม่ใช่ว่าไม่รับ แต่บางทีเราต้องเดินทางบ่อย และบางทีต้องเลื่อนงานออกไป เราก็ไม่อยากปฏิเสธ แต่ด้วยความที่เคยเป็นนักข่าว เป็นนักเขียนมาก่อน และก็เป็นคนที่อยากเรียนรู้ และยังไม่มีงานไหนที่เสนอมาแล้วคิดว่าอยากทำ น่าสนุก ยังไม่มีเลย ถ้ามีเข้ามาเสนอก็อยากจะทำ”

“ส่วนงานละครถ้าติดต่อมาก็ต้องขอดูบทอีกทีว่า น่าสนใจมากแค่ไหน ตอนนี้เราก็ไปเรื่อยๆ ของเรา ทำสิ่งที่ตัวเองชอบ คือเราต้องดูงานนิดหนึ่งว่าชอบอะไร และเรื่องของเวลาด้วย เราก็อยากทำอะไรที่มันสนุกสนาน เพราะอยู่วงการนี้มานาน 15 ปีแล้ว เราก็อยากทำอะไรที่เราเลือกทำแล้วสนุกมากกว่า คืองานติดต่อมาก็ยังรับ แต่เราไม่ได้ทำเพื่อเงินทอง เราแค่อยากทำอะไรที่ทำแล้วคุ้มค่ะ”







เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย
ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540
ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก
ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000
*ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก


กำลังโหลดความคิดเห็น