“เจนนิเฟอร์ โลเปซ” และหวานใจ “มาร์ค แอนโทนี” ถูกล่าวหาว่า ปล่อยปะละเลยให้สุนัขเฝ้ายามที่พฤติกรรมดุร้าย ไปทำร้ายคนบนเครื่องบิน โดยคู่สามีภรรยาคนดังทราบถึงปัญหาข้อนี้ของมันอยู่แล้ว แต่ก็ยังไม่ยอมหาวิธีป้องกัน
เจโล ต้องมีเรื่องวุ่นวายทางกฎหมายมาให้ปวดหัวอีกแล้ว หลังจากสุนัขพันธ์เยอรมันเชพเพิร์ดของเธอ ที่ถูกฝึกแบบทหารสำหรับการเฝ้ายาม เกิดไปทำร้ายพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว ระหว่างการเดินทางเมื่อ 3 ปีก่อน ที่ทำให้สาวเคราะห์ร้ายรายนั้นไม่สามารถทำงานได้จนถึงวันนี้ จนต้องเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 5 ล้านเหรียญ
สัตวแพทย์ คาเรน โอเวอร์ออล ที่ได้รับหน้าจากทีมกฎหมายของ ลิซ่า วิลสัน แอร์โฮสเตส ผู้เสียหาย อ้างว่าพบอาการไม่ปกติของ ฟลอยด์ สุนัขตัวดังกล่าว ซึ่งมีพฤติกรรมดุร้ายควบคุมไม่ได้ และเจ้าของอย่าง เจนนิเฟอร์ โลเปซ และ มาร์ค แอนโทนี รู้เรื่องนี้อยู่แล้ว แต่ไม่ได้พยายามป้องกันอะไร
“มันชัดเจนว่า ฟลอยด์ สุนัขของคุณแอนโทนี มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมอย่างรุนแรง และมีนิสัยมุ่งร้ายต่อมนุษย์” ข้อความส่วนหนึ่งจากรายงานความยาวถึง 8 หน้าของหมอโอเวอร์ออล เกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว
ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ขึ้น แอร์โฮสเตสสาว กำลังปฏิบัติหน้าที่ของเธอบนเครื่องบิน ในการเสริฟอาหาร ซึ่งสัตวแพทย์สงสัยว่า เหตุที่เจ้าฟรอยด์เกิดคลั่งขึ้นมานั้น เพราะเห็นของมีคมของกุ๊กบนเครื่องบิน ที่กำลังประกอบอาหารในขณะนั้นด้วย ผู้เชี่ยวชาญยังอ้างถึงพฤติกรรมแปลกประหลาดของสุนัขตัวดังกล่าว ที่มักจะคลั่งเมื่อเห็นของอย่างช้อนส้อมกินอาหาร ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ส่อถึงความผิดปกติ
วิลสัน เล่าถึงเหตุการณ์ครั้งนั้น บนเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวของนักร้องชื่อดังว่า สุนัขตัวนี้ คำราม กระโจนใส่ และกัดเข้าที่ขา จนเธอหกล้มได้รับบาดเจ็บร้ายแรงที่หลัง และนำมาซึ่งการฟ้องร้องครั้งนี้
สาวผู้เคราะห์ร้ายรายนี้อ้างว่า เธอเคยถูกเตือนให้ระวังสุนัขตัวดังกล่าว มาร์ค แอนโทนี่ ยังเคยบอกว่า ไม่ให้สบตา หรือเรียกชื่อ เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องชี้ชัดว่า ทั้งเจโลและสามีรู้ดีถึงอันตรายจากสุนัขตัวนี้ “เห็นได้ชัดว่าสุนัขตัวนี้เป็นอันตราย และเราจะพิสูจน์ในชั้นศาลว่า มันสามารถทำร้ายใครก็ได้ทั้งนั้น” ทนายความของผู้เสียหายกล่าว
ขณะที่ฝ่ายทนายความของสองนักร้องชื่อดัง แจ้งต่อศาลว่า ลูกความของเขาต้องการหาผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมสัตว์ มาตรวจสอบสุนัขเจ้าปัญหาด้วยเช่นเดียวกัน