“ป๋าเทพ” ไม่พอใจศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ที่ดิน 13 ไร่ แทนที่เป็นบุคคลล้มละลาย ลั่นไม่คิดโกง ไม่ยอมใช้หนี้ ควรให้ความเป็นธรรม มีการยืดหยุ่นในการผ่อนชำระ ด้านภรรยาเผยต้องนัดเคลียร์กับธนาคารอีกรอบ เพราะสงสัยในความไม่โปร่งใส นำบ้านไปขายทอดตลาดโดยไม่แจ้งให้ทราบ
เกี่ยวกับกรณีตลกชื่อดังนาย “สุเทพ โพธิ์งาม” หรือ “เทพ โพธิ์งาม” เคยโดนศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ ในคดีที่เจ้าตัวไปกู้เงินกับทางธนาคารกรุงไทย เป็นจำนวนเงิน 7 แสนบาท เพื่อซื้อทาวน์เฮ้าส์ ย่านหนองปรือ จังหวัดชลบุรี แต่ผลปรากฎทางตลกชื่อดังไม่เคยผ่อนส่งคืนธนาคารเลยสักงวด ทำให้ดอกเบี้ยบานปลายกลายเป็นติดหนี้ธนาคารถึง 3 ล้านบาท จึงถูกยื่นฟ้องให้เป็นบุคคลล้มละลาย
ความคืบหน้าล่าสุดวานนี้ (3 พ.ย.) “เทพ โพธิ์งาม” พร้อมภรรยา “จุ๋ม ภัสราวรรณ ทรงพีระพัฒน์” ได้เดินทางมายังศาลล้มละลายกลาง ย่านแจ้งวัฒนะ เพื่อฟังคำพิพากษาของศาลอีกครั้งว่า หลังโดนพิทักษ์ทรัพย์แล้วจะกลายเป็นบุคคลล้มละลายหรือไม่ ซึ่งศาลได้ตัดสินให้ถูกพิทักษ์ทรัพย์ต่อไป หลังตรวจสอบพบว่ามูลค่าทรัพย์สินที่ยึดไป มีมูลค่าน้อยกว่าเงินที่ต้องชำระกับทางธนาคาร แต่ถ้าหลังวันที่ 26 ม.ค.2553 ยังไม่มีการทยอยจ่ายเงินคืนในส่วนที่เหลือจำนวน 4.7 แสนบาท ก็จะโดนตัดสินให้เป็นบุคคลล้มละลายจริงๆ ภายหลังฟังคำพิพากษาตลกชื่อดังได้เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่พอใจคำตัดสินที่ออกมา ร้องขอความเป็นธรรม เพราะตนไม่มีทางโกงแน่นอน
“ป๋ากู้มา 7 แสนกว่าบาท 10 ปี ดอกประมาณเกือบ 3 ล้าน ที่เขาฟ้องเราตั้งแต่แรก เราให้อยู่แล้ว ไม่ไปโกงเขาหรอก แต่ว่าเราต้องการความเป็นธรรมเท่านั้นเอง ดีที่เป็นป๋า ถ้าเกิดคนจนๆที่โดนยึดทรัพย์ ยึดที่ดิน เขาจะอ๋อ...มันโดนอย่างนี้เองเหรอ เพิ่งมารู้นะ ธรรมดาไม่เคยมาถึงตรงนี้หรอก”
“คือเราอยากขอผ่อนผัน เงินเราหามาได้ ก็ไม่ได้เก็บไว้ใช้หนี้ธนาคารอย่างเดียว ผมก็มีลูก มีหลาน ไอ้เรื่องการใช้หนี้แน่นอนหลังจากที่เราพอเหลือเราค่อยใช้ได้ ตามปกติมันต้องอย่างนั้น ไม่ใช่ผมทำเท่านี้ คุณก็จะเอามาหมดเลยเหรอ มันไม่ใช่แล้วครับ”
“ถ้าเป็นอย่างนี้นะ ผมจะเอาอะไรมาหมุน ต่อไปผมก็กู้ธนาคารไม่ได้แล้ว ทำไมเขาต้องพิทักษ์ทรัพย์ผม เหมือนตัดแขนตัดขา แล้วจะให้ไปสู้เขายังไง เราน่าจะช่วยเหลือกัน ไม่ต้องมายึดอะไรขนาดนี้ บางครั้งทำให้ผมจนตรอก มันไม่รู้จะทำยังไง”
แสดงอาการไม่พอใจที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ทางธนาคารนำบ้านไปขายทอดตลาดโดยไม่แจ้ง
“เงินมันไม่เท่าไหร่ แต่ผมไม่ชอบที่ว่าเวลาจะขายของเรา ทำไมไม่บอกเรา แล้วบอกว่าฉันหายากเหลือเกิน แต่เวลาหมายศาลมากันถูกต้อง ทำไมมันเป็นอย่างนั้นล่ะ ก็น่าจะมาคุยว่าเราค้างเท่านี้ คุณจะส่งกี่งวดก็ว่าไป เราไหวขนาดไหน เราก็รู้กำลังเรา คือป๋าพูดตรงๆ นะเงินแค่นี้มันไม่มากมายหรอก ป๋าทำงานไม่ยาก เราไม่ชอบตรงที่ความเป็นธรรมไม่มี วันนี้นึกว่าจะมาตัดสินล้มละลายไป แต่เขาบอกว่าให้รอรับฟังคำสั่งอีก เลื่อนไปอีก แต่เราก็เคลียร์กับเขาอยู่แล้ว ไม่ได้โกง”
“เราอยากจะรู้ความจริงมันเป็นยังไง เรื่องเคลียร์จริงๆ ก็ต้องเคลียร์อยู่แล้ว ป๋าคงไม่ได้หนีอะไรเขาหรอก แต่ขอให้มันยืดหยุ่นกับเราหน่อย เพราะว่าเราไม่ได้เป็นคนพิมพ์เงินเองได้ที่ไหน เราทำงาน ใช้จ่ายทุกวันเหมือนกัน คงไม่โกงเขาหรอก”
“สำหรับผมถ้าจะสามารถผ่อนจ่ายได้ ก็คงได้สามสี่งวดก็พอไหว ตอนไปพูดครั้งแรกว่าเราต้องให้ทีเดียวเป็นก้อน เราก็บอกว่าผมหาเงินได้ก็จริง แต่เป็นก้อนๆ มันหายาก เพราะต้องใช้หนี้เขาตลอด ผมเลยบอกว่าเป็นผ่อนได้มั้ย เป็นงวดๆ ไป ผมไม่ได้ตั้งใจไปโกงเขาอยู่แล้ว เขาก็บอกยังไม่ได้”
“เราก็ไม่รู้จะทำยังไง มันก็คุยกันไม่ได้ ก็เลยมาถึงศาล ไม่ชอบถ้ามันไม่ถูกต้อง อะไรมันถูกต้องเป็นหนี้ขนาดไหน ก็ต้องยอมรับ แต่อันไหนที่มันไม่ถูกก็ต้องพูดหน่อย ทั้งที่เราก็ต้องเสีย แต่ว่าเราอยากจะพูดให้สังคมเข้าใจ ผมไม่ได้เป็นคนที่ว่าจะไม่ใช้เลย ก็ต้องใช้ ถ้าเกิดมันถึงวันที่ 26 ม.ค. ปีหน้า เราไม่ให้อะไรเขา ต้องมีเส้นตายแน่ๆ”
ด้านภรรยา “จุ๋ม ภัสราวรรณ” เผยต้องมีการนัดคุยกับธนาคารอีกรอบ เนื่องจากติดใจความไม่โปร่งใส
“ที่มาวันนี้มาฟังคำสั่งว่า ป๋าจะถูกพิทักษ์ทรัพย์ต่อไปหรือเปล่า ปรากฏว่ายังต้องถูกพิทักษ์ทรัพย์ต่อไปมูลค่าล้านกว่าบาท หลังจากขายอะไรไปเรียบร้อยแล้ว หักลบกลบหนี้แล้ว คงได้ใช้หนี้เขาที่ต้องเสียเปล่าๆโดยที่ไม่ได้ทรัพย์สินอะไรอีกประมาณ 5 แสน ส่วนทรัพย์ที่ถูกพิทักษ์มีไร่ สัตว์ รถกระบะหนึ่งคัน”
“สำหรับเรื่องการคุยกับทางธนาคาร จริงๆ คือต้องนัดคุยอีกรอบนึงว่า คุยเจรจาเรียบร้อยหรือยัง ถ้าคุยกันไม่เรียบร้อยก็ตกลงว่า คุณล้มละลาย คือติดใจที่ตรงบ้านทรัพย์สินที่เราไปกู้ ว่าเวลาขายเมื่อไหร่ เวลาไหน ใครซื้อ คนซื้อเป็นใคร จัดการกันยังไงว่าราคาจะต้องเป็นเท่านี้”
“คือเขามีสิทธิ์จัดการหมดแล้ว ต่อไปทรัพย์สินของเรา เขาคงจัดการขายได้ตามที่เขาตัดสิน เราเป็นลูกหนี้ก็อยากจะรู้ว่าคุณขายทอดเมื่อไหร่ เราก็ถามว่าใครเป็นคนบอกว่าจะขายวันไหน เขาก็บอกว่าอาจจะไปแปะหน้าบ้านไว้ หรือว่าประกาศทางหนังสือพิมพ์ เราก็ยังไง ประกาศไว้เล่มไหน ไม่เห็นเลย เราก็ติดใจตรงนี้แหละว่า ทำอะไรมันก็น่าจะโปร่งใสนิดหนึ่ง ไม่ใช่มาทำอะไรแบบนี้ มาบอกว่าขายหรือไม่ขายอะไร อยากให้ตรงนี้เราได้รับรู้บ้างค่ะ”
เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |