“อาร์” เลิก “เป้ย” ลดสถานะเหลือเพียงเพื่อน เผยเหตุตนติดเพื่อนเกินไป และไม่เป็นผู้ใหญ่เพียงพอในสายตาของฝ่ายหญิง โต้ติดสาวในบีบี ยันรักร้าวไม่เกี่ยวกับมือที่ 3 บอกพยายามง้อแล้ว แต่ฝ่ายหญิงไม่ยอมคืนดี ขอถอยห่างคนละก้าวดูใจตัวเอง พร้อมอวยส่งหาก “เป้ย” เจอใครที่ดีกว่า
หลังจากที่นางร้ายเจ้าแม่สตอเบอร์รี่ “เป้ย ปานวาด เหมมณี” ออกมาร้องห่มร้องไห้ ประกาศสะบั้นรักฟ้าผ่ากับแฟนหนุ่ม “อาร์ อาณัตพล ศิริชุมแสง” ทั้งที่คบหาดูใจกันมานานกว่า 3 ปีแล้วนั้น แถมเจ้าตัวยังไปตัดพ้อเล่าให้คนสนิทฟังถึงสาเหตุว่า ฝ่ายชายออกอาการติดเพื่อนขนาดหนัก ว่างไม่ได้เป็นต้องแชทบีบี (Blackberry) คุยกับสาว จากนั้น “เป้ย” ก็เก็บตัวเงียบเอาแต่ร่ำไห้ ไม่เป็นอันทำงาน ต้องยกเลิกคิวโชว์ตัวหลายต่อหลายเจ้าทำให้สูญรายได้ไปไม่น้อย
ล่าสุดผู้สื่อข่าวมีโอกาสเจอหนุ่มอาร์ที่กองถ่ายละคร “จับตายวายร้ายสายสมร” เจ้าตัวจึงได้ชี้แจงถึงสาเหตุที่แท้จริง ที่ทำให้สวมคอนเวิร์สทางใครทางมันกับแฟนสาว โดยรับว่าได้ลดสถานะเหลือเพียงเพื่อนกับ “เป้ย” มาได้อาทิตย์กว่าแล้ว ซึ่งตนก็พยายามง้อขอคืนดี แต่อีกฝ่ายยืนยันจะเลิก ทำให้ตนลำบากใจที่จะยื้อ
“คือตอนนี้เราก็อยู่ในสถานะเพื่อนกัน ใช้คำว่าแฟนเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว เพราะเราก็ถอยกันมาคนละก้าวแล้ว ตอนนี้ก็ห่างกันมาอาทิตย์กว่าๆแล้วมั้งครับ ส่วนสาเหตุเป็นเพราะอะไรนั้น จริงๆแล้วเราไม่ได้ทะเลาะอะไรกันเลย เราก็เหมือนปกติทุกอย่างแต่หลังๆมานี่อาร์จะใช้ชีวิตของอาร์เยอะเกินไป อาร์มีโลกของอาร์เยอะ แล้วอาร์ก็ใช้เวลาอยู่กับมัน ก็มีติดเพื่อนบ้าง เลยไม่ค่อยได้ดูแลเอาใจใส่เขาเท่าไหร่”
“แต่ก่อนเป้ยเข้าใจ แต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่า พอเราอยู่ด้วยกันนานๆ รายละเอียดบางอย่างมันหายไปสำหรับตัวผมเองนะ ผมเองก็รู้สึกว่าแย่....(หัวเราะ) จริงๆแล้วเราเองก็พยายามปรับตัวกันมาหลายครั้งมากๆแล้ว ทั้งเปิดอกเปิดใจคุยกันค่อนข้างบ่อย เราก็ครึ่งๆ อาร์ติดเพื่อนเยอะ เป้ยเองก็พยายามเข้าใจ ตัวเป้ยเองก็ต้องการคนที่จะคอยมาดูแล คนมาเอาใจใส่ คนที่จะมาเป็นผู้นำ ตัวผมเองก็พยายามเปลี่ยนด้วยเหมือนกัน แล้วอีกอย่างผมเพิ่งเล่นละครเวทีมา แล้วมันไม่ได้เจอเพื่อนมานานมาก ประมาณ 7 เดือน ผมไม่ได้ไปสังสรรค์ ไม่ได้ไปเฮฮาเลย พอจบมาผมก็เลยปลดปล่อยซะหน่อย งานการก็แทบจะไม่ได้รับกันเลยช่วงนั้น ส่วนใหญ่ก็จะเอาเวลาไปเจอเพื่อน”
“ช่วงที่เป้ยบอกเลิก ผมก็ง้อเขาเหมือนกันนะ ก็ไม่อยากให้เขาไป ก็มีง้อๆเขาบ้าง แต่มันเป็นการตัดสินใจของเป้ย ผมก็เคารพการตัดสินใจของเขา ซึ่งเขาก็เลือกแล้ว เขาตัดสินใจแล้ว เขาย้ำเลยนะ (เน้นเสียง) ว่าเขาตัดสินใจแล้ว เราก็แบบ...ไม่รู้จะยังไงดี เราก็คิดอยู่นานเหมือนกันกว่าจะคุยกันลงตัว กับครั้งนี้เฮิร์ทหนักมั้ย มันก็เป็นธรรมดา เห็นเป้ยเขาร้องๆไห้ อาร์เองก็มีเหมือนกันครับ เป็นธรรมดาปกติ มันก็มีบ้าง ก็คบกันมาตั้ง 3 ปี อาร์ก็บอกเขาว่าจะปรับตัว เขาก็บอกว่าให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ถ้าเกิดอาร์พร้อมเมื่อไหร่ก็กลับมาได้”
เผยสาเหตุหลักที่ทำให้รักขาดสะบั้น เป็นเพราะตนไม่เป็นผู้ใหญ่พอสำหรับอดีตแฟนสาว ยันยังรักเหมือนเดิม แต่ยังไม่พร้อมปรับตัวและฝืนตัวเอง ให้เป็นอย่างที่ฝ่ายหญิงต้องการได้
“สาเหตุหลักที่ทำให้เลิกกันจริงๆ คงจะเป็นเพราะตัวอาร์ยังไม่เป็นผู้นำ ไม่เป็นผู้ใหญ่พอ ยังเด็กๆ ยังอยู่ในโลกของอาร์เยอะเกินไป ด้วยอายุเราห่างกัน ความคิดเราก็เลยคนละอย่าง แต่ไม่ใช่ว่าอาร์ไม่คิดถึงเรื่องอนาคตนะ แต่อาร์เป็นคนที่อยู่กับปัจจุบัน ทำปัจจุบันให้ดี มันคือพื้นฐานอนาคตที่ดีอยู่แล้ว คือถ้าจะไปกันต่ออาร์ต้องทำตัวแบบที่เป้ยอยากให้อาร์เป็น ซึ่งมันจะกลายเป็นไม่ธรรมชาติ มันไม่ใช่ตัวของอาร์ ถ้าเกิดเราค่อยๆปรับตัวเรา เมื่อไหร่เราพร้อม เราสามารถทำตัวได้แบบนั้น โดยที่เราไม่ฝืน เราไม่เฟค ตอนนั้นแหละคือพร้อมแล้ว ถามตัวผมพร้อมที่จะปรับมั้ย ผมพร้อมนะ แต่ไม่อยากที่จะไปหักดิบแบบนั้น มันจะดูฝืน”
“การที่เราอยู่ด้วยกัน มันก็ต้องมีความรู้สึกอยากจะรักษาเขาไว้ให้นาน แต่ถ้าเกิดไปต่อตอนนี้ มันจะไม่มีอะไรกระเตื้อง มันจะไม่มีอะไรพัฒนา ยิ่งโดยเฉพาะกับตัวอาร์เอง อาร์จะยิ่ง...อยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ บางทีอาร์ไม่ค่อยเอาใจใส่เขาเท่าที่ควร อย่างบางทีเลิกจากงานอาร์ก็เข้าฟิตเนส ถ่ายละคร ถ้าเกิดว่าอาร์ว่างจริงๆก็จะอยู่กับเพื่อน อาร์ชอบติดเพื่อนสั่งซื้อของจากเขา"
"อย่างเมื่อก่อนอาร์ไปไหนมาไหนกับเขา บางทีเขาอยากไปซื้อของโดยที่ไม่ได้นัดหมายกันก่อน แต่อาร์อยากไปหาเพื่อน และได้นัดเพื่อนไว้แล้ว เขาก็จะมีงอนนิดนึงตามประสาผู้หญิง แต่จริงๆแล้วที่เป้ยบอกสาเหตุที่เลิก ไม่ใช่เรื่องติดเพื่อนเลย มันเกี่ยวกับตัวอาร์เองเพราะเป้ยเข้าใจว่าทำไมอาร์ถึงไปกับเพื่อนเยอะ เพราะอาร์เล่นละครเวทีมา มันไม่ได้เที่ยวเลยก็เลยไปบ่อย ตรงนี้เป้ยเข้าใจ แต่ด้วยตัวอาร์เองมันไม่มีอะไรพัฒนา(หัวเราะ)”
“ถามว่าทำไมอาร์ไม่เลือกที่จะปรับตัว คือถ้ามันไปกันต่อตอนนี้มันไม่มีอะไรพัฒนา มันไม่มีความเคลื่อนไหว ตัวอาร์เองก็จะอยู่แต่แบบนี้ สู้อาร์ออกมาคนละก้าว แล้วเรามาค้นหาตัวเองก่อนมั้ยว่า เราต้องการอะไรจริงๆ เราปรับตัวได้พร้อมที่จะดูแลเขารึยัง อย่างนี้ดีกว่า มันจะได้เห็นการพัฒนาของเรา ถามว่าตอนนี้อาร์พร้อมที่จะดูแลเขามั้ย อาร์พร้อมนะ แต่ว่ามันยังไม่พอสำหรับเป้ย (หัวเราะ) ยังไงอาร์ก็ยังรักเป้ยอยู่แน่นอน”
คอนเฟิร์มเปล่าเลิกกันเพราะมือที่ 3 โต้ติดจีบสาวในบีบี ส่วนโอกาสรีเทิร์นคงปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคต
“โนๆๆๆที่เลิกกันไม่ได้เกี่ยวกับมือที่ 3 หรือว่าใครเลย ผมไม่ได้คุยกับใครเลย ใครจะมามองผม เพราะเขาก็รู้ๆกันอยู่ว่าผมคบกับเป้ย เปิดเผยซะขนาดนี้ ไม่มีใครเลยจริงๆผมอยู่กับเพื่อนตลอดเวลา เรื่องสาวในบีบีไม่มีเลยครับ อาร์ซื้อบีบีมาสนุกกับมันก็จริง แต่คืออาร์คุยกับเพื่อน อาร์ชอบสั่งของ จริงๆแล้วอาร์แอดเพื่อนยังไม่เป็นเลย ส่งข้อความพิมพ์ยังไม่เป็นเลย อาร์ส่งข้อความเสียงอย่างเดียว อาร์ไม่มีสาวในบีบี ถ้าจะคุยก็เป็นเพื่อนจริงๆ อย่างชมพู่ (ก่อนบ่ายฯ), อุ้ม ลักขณา, น้องผึ้ง หทัยวรรณ ที่อยู่ในนัดกับนัด แค่นั้นเองไม่มีอะไรเลย ที่อาร์ชอบคุยบีบีเพราะมันใส่อารมณ์ได้ มันด่าเพื่อนได้ อย่าง......ไอ้สัตว์ มึงทำไรอยู่วะ อาร์ก็คุยสนุกๆไปเรื่อย อาร์ไม่เคยคุยกับสาวทำเสียงเล็กเสียงน้อย”
“สำหรับเรามันเป็นการถอยออกมา เพื่อที่จะปรับความเข้าใจกันมากกว่า ถ้าเกิดเราพร้อมแล้ว อาร์พร้อมเป้ยพร้อมแล้ว ต่างคนต่างไม่มีใคร ก็อาจจะกลับมาคุยกันได้เหมือนเดิม แต่ระหว่างนี้เราก็ยังคุยกัน เราไม่ได้เกลียดหรือว่าโกรธกัน เรายังเป็นห่วงซึ่งกันและกันอยู่ อย่างเมื่อ 4 วันที่แล้วผมก็ไปคุยกับเขา แต่มันก็ไม่เหมือนเดิม เราก็คุยกันในฐานะเพื่อน แต่มันก็ไม่สนิทใจ มันไม่เหมือนตอนที่เราคบกัน ส่วนจะกลับมารีเทิร์นกันมั้ย ตรงนี้ผมเองคงตอบอะไรไม่ได้ เพราะมันเป็นเรื่องของอนาคต”
ลั่นไม่เข็ดคบสาวอายุมากกว่า พร้อมอวยส่งหากฝ่ายหญิงเจอคนที่ดีกว่า ยันยังสามารถร่วมงานกันได้
“ถ้าถามว่าผมจะเปิดโอกาสให้กับรักครั้งใหม่มั้ย ก็คงไม่ครับ ผมก็คงทำตัวปกติของผมอยู่อย่างนี้ เข็ดมั้ยกับการมีแฟนอายุมากกว่า ผมเลือกที่จะปล่อยตัวตามน้ำดีกว่า ตรงนี้ผมว่ามันแล้วแต่โอกาสว่า คนที่เข้ามาจะถูกชะตา ถูกโฉลกกับเรามากแค่ไหน แต่ถ้าเป้ยเจอคนที่ดีๆ ที่ดีกว่า แล้วเป้ยมีความสุขก็โอเค ก็ดีใจด้วย ส่วนการที่เราเลิกกันไปแล้วจะมีผลกระทบกับงานมั้ย ยังรับงานคู่กันอยู่ได้มั้ย ผมคิดว่าเราแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวออก คือตอนนี้มีงานรับคู่กันมั้ย ก็มีรับไว้เหมือนกัน”
“เรื่องเป้ยแคนเซิลงานเพราะร้องไห้ตาบวม ก็พอทราบบ้างเล็กน้อยว่า เขาแคนเซิลงาน บางวันจำได้ว่าเขามีงานวันนี้ แต่พอโทรไปก็งง ก็ถามเขาว่าวันนี้ไม่ทำงานเหรอ เขาก็บอกว่าไม่ทำแล้ว ขี้เกียจ แคนเซิลไปแล้ว เพราะว่าไปแล้วเดี๋ยวงานเขาจะเสีย ก็บอกเขาว่าอย่าทำแบบนั้นเลย เพราะมันเสียการเสียงานเรา เดี๋ยวคนอื่นเขาจะมองเราไม่ดี แยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวให้ออก ตอนนี้ผมอาจยิ่งติดเพื่อนมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ เพราะตอนนี้เวลาที่เราอยู่คนเดียว มันจะฟุ้งซ่าน มันจะเหงาๆ”