โดนด่ายับ ผู้จัด “ซูเปอร์สตาร์” แถลงแจงเปล่าเขียนสคริปต์ ให้นักแสดง “เปิดก้น-กำไข่-จูบปาก” กลางเวที เพื่อสร้างกระแสให้รายการ แต่เป็นเซอร์ไพร์สที่แต่ละคนเตรียมมาเอง วอนเห็นใจภาพแรงเพราะเป็นภาพนิ่ง ยันโชว์จริงไม่หวือหวา รับโดนสถานีติง เตรียมฟันดาบลงโทษเหล่าผู้แข่งขัน ไม่ให้ทำอุตริโชว์บนเวทีอีก
เจอกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในด้านลบอย่างถล่มทลาย ถึงความไม่เหมาะสมของรายการเรียลลิตี้โชว์อย่าง “ซูเปอร์สตาร์ ซีซั่น 2” ที่มีภาพหวือหวาออกมาสร้างกระแสตลอดเวลา เริ่มตั้งแต่นางเอกสาว “กระแต ศุภักษร ไชยมงคล” ทำจุกโผล่กลางเวที หรือสดๆร้อนๆที่หนุ่ม “แมทธิว ดีน” ใจกล้า กำไข่-เปิดก้นโชว์ต่อหน้าคนดูทั่วประเทศ แล้วไหนจะสาว “กระแต” กับ “หมิง ชาลิสา บุญครองทรัพย์” โชว์ช็อตเด็ดจูบปากออกแนวเลสเบี้ยนกันอีก
พอทนกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไม่ไหว ล่าสุดวานนี้ (21 ต.ค.) 2 ผู้บริหารบริษัท ออเคสตร้า อินเวสเตอร์ กรุ๊ป จำกัด ในฐานะผู้ผลิตรายการ อย่าง “แพม ลลิตา ตะเวทิกุล” และ “เจ ภาณุพงษ์ วรเศรษฐการกิจ” พร้อมตัวแทนศิลปินดาราที่เข้าร่วมแข่งขันอาทิ “นาตาลี เดวิส”, “นิกกี้ สุระ ธีระกล”, “เปรม บุษราคัมวงศ์” และ “แมทธิว ดีน” ได้มาร่วมเปิดใจและชี้แจงว่า ทุกเหตุการณ์และทุกภาพที่เกิดขึ้นนั้น ทางรายการไม่ได้มีสคริปต์ให้ทำแต่อย่างใด และไม่เคยมีเจตนาที่จะสร้างกระแสในด้านลบเพื่อเพิ่มเรตติ้งของตัวเอง
แพม : “วันนี้อยากจะแถลงข่าวเรื่องรายการ เพราะมีกระแสข่าวที่ออกมาทางเน็ตค่อนข้างหนาตานิดนึง(หัวเราะ) เรื่องรายการซูเปอร์สตาร์ที่สุดแห่งดาว ซีซั่น2 ว่าเป็นรายการที่มีภาพไม่เหมาะสม ก็เลยอยากจะชี้แจงว่าจริงๆ แล้วมันเกิดอะไรขึ้น ก็มีหลายกระแสที่ออกมาว่ารายการจงใจสร้างกระแส หรือสร้างภาพที่ไม่เหมาะสมกับการถ่ายทอดเพื่อเยาวชน ก็อยากจะอธิบายให้ฟังว่าตอนที่เราซ้อมกัน วีคที่ผ่านมาเป็นการแข่งขันอินเตอร์เนชั่นแนล แดนซ์ เป็นการเต้นละติน”
“ซึ่งทางรายการมีความตั้งใจที่จะนำเสนอโชว์ที่ดีที่มีคุณภาพ การแสดงที่มันตระการตาด้วย และก็โชว์ศักยภาพของซูเปอร์สตาร์ทั้ง 10 คนจริงๆ แล้วก็มีการเชิญครูจั๊ก เอื้อพันธ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา มาเป็นเทรนเนอร์ ซึ่งเป็นเทรนเนอร์ระดับโลก เป็นแชมป์ระดับโลกมาสอนด้วย และน้องๆ ที่มาเต้นกับซูเปอร์สตาร์ทุกคนก็เป็นแชมป์ระดับโลกหลายคน และระดับเอเชียด้วยนะคะ ท่าเต้นก็เป็นท่าเต้นที่เขาใช้ในการประกวดระดับโลกกันอยู่แล้ว”
“มีบางภาพ บางช็อตที่อาจจะมีการถอดกางเกงหรือว่ามีจูบกัน ซึ่งในตอนซ้อมไม่มีเลยนะคะ และก็ไม่ได้วางแผนที่จะให้มี แต่ว่าพอถ่ายทอดสดแล้ว เหมือนกับซูเปอร์สตาร์เขาก็อยากให้โชว์มีสีสัน ทำให้คนดูมีเซอร์ไพรส์ได้สนุกกับการชมรายการจริงๆ ก็อาจจะมีเล่นมุกบางอย่างที่อาจจะดูเกินเลย และไม่เหมาะกับเยาวชนบ้าง เราก็เลยอยากจะออกมาชี้แจงและก็ขอโทษว่า จริงๆ แล้วทุกคนตั้งใจจะทำรายการให้ดี ให้สนุก เป็นการแสดงที่ตื่นตาตื่นใจ แต่ว่าอาจจะเกินขอบเขตไปบ้าง ก็ต้องขอโทษด้วยจริงๆ สำหรับผู้ชมบางท่านที่อาจจะมองว่ามันไม่เหมาะสม ก็พยายามจะแก้ไขตรงนี้”
“เราก็มีการประชุมกันกับซูเปอร์สตาร์ว่า เราจะไม่ทำอย่างนั้นอีก ก็จะอยู่ในขอบเขตที่ว่าชมแล้วบันเทิง สนุก อยู่ในขอบเขตที่น่ารัก วันนี้ก็เลยอยากจะชี้แจงอันนี้ เพราะว่ามีข่าวออกมาค่อนข้างแรง ก็เลยอยากจะให้รู้ว่าเราไม่ได้ตั้งใจ เราอยากให้โชว์มันสนุกเฉยๆ และก็จะคอยระมัดระวัง อยากให้รายการมีคุณภาพค่ะ”
“อีกเรื่องหนึ่งภาพที่ลงในเว็บไซด์ต่างๆ ซึ่งเป็นภาพที่ดูหวือหวา หรือว่าดูไม่เหมาะสม ก็อยากจะอธิบายว่าจริงๆ แล้วทุกชุดที่เราดีไซน์มา ไม่ได้โป๊นะคะ อาจจะมีเซ็กซี่นิดหน่อย แต่ว่าอยู่ในขอบเขตของความสวยงาม และก็ไม่ได้ดูโป๊ แต่เวลาเต้นมันมีการเหวี่ยงตัวกลางอากาศ แน่นอนถ้าสมมติว่าหุ่นของดาราเป็นหุ่นที่สวย คือเป็นหุ่นผู้หญิงจริงๆ บางทีมันก็อาจจะมีโป๊บ้างในจังหวะที่โดนหมุน แต่ในทีวีจะดูไม่โป๊เลย เพราะมันเร็วจนมองไม่เห็น”
“แต่ถ้าเป็นภาพนิ่งถ่ายในจังหวะนั้นพอดี และก็ไปขึ้นเว็บไซด์ คนก็จะเข้าใจผิดว่า รายการนี้จงใจที่จะเผยแพร่ภาพที่ไม่เหมาะสมในรายการรึเปล่า ซึ่งอยากจะอธิบายว่าไม่ใช่ มันเป็นมุมกล้อง มันเป็นจังหวะของการถ่ายมากกว่า ในเน็ตคนจะพูดโจมตีรายการค่อนข้างรุนแรงเหมือนกันว่า ทำไมทำรายการแบบนี้ ไม่มีคุณภาพ อันนี้ก็เลยอยากจะชี้แจงให้เข้าใจว่า ถ้าคนที่เห็นว่าภาพมันไม่เหมาะสมจริงๆ ให้มาดูรายการ ถ้ามาดูในเนื้อรายการ ดูตอนถ่ายทอด มันไม่ได้ดูโป๊ ไม่ได้ดูน่าเกลียดเลย มันเป็นศิลปะที่สวยงามด้วยซ้ำ”
เจ : “นอกจากนี้ก็อยากจะอธิบายว่า เราต้องการทำรายการที่เป็นคุณภาพ วัตถุประสงค์อีกอย่างนึงของรายการซูเปอร์สตาร์คือ การเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมของการแสดงต่างๆ ให้กับคนดูทางบ้าน เป็นการให้ความรู้กับคนทางบ้านด้วย ถ้าสังเกตและได้ดูในรายการเรา จะมีหลายๆ ท่อนที่จะอธิบายถึง อย่างสัปดาห์ที่แล้วเราพูดถึงอินเตอร์เนชั่นแนล แดนซ์ ก็จะพูดถึงที่มาของการเต้นต่างๆ ในแต่ละประเทศว่าเป็นอย่างไร การเต้นละติน การเต้นแบบบราซิล การเต้นแบบอียิปต์ รวมไปถึงการเต้นแบบอินเดีย ซึ่งตรงนี้เราให้ความรู้กับคนดูเต็มที่”
แพม : “เพราะปีนี้เราต้องการให้เป็นรายการที่มีสาระ และก็มีความบันเทิงด้วยควบคู่กันไป เพราะหลายๆ คนมักบอกว่ารายการนี้ไร้สาระ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย เราอยากให้คนดูได้เห็นศิลปะต่างๆ ที่มา การฝึกซ้อม เจาะลึกเบื้องหลังอย่างแท้จริง และก็ได้เห็นว่าซูเปอร์สตาร์ทุกคนเขาทุ่มเท กว่าจะไปถึงชัยชนะได้มันต้องมีทีมเวิร์ค มันต้องมีความอดทน ต้องมีความขยัน สิ่งเหล่านั้นคือสาระที่คนดูจะได้ไปจากรายการ”
เจ : “คณะกรรมการที่เราเชิญมา ก็จะเป็นคณะกรรมการระดับประเทศทั้งสิ้น ซึ่งเป็นคณะกรรมการที่เป็นคนคัดเลือกระดับทีมชาติ หรือเป็นคนคัดเลือกระดับแชมป์เอเชีย ดังนั้นการให้คะแนนของคณะกรรมการแต่ละท่าน ก็เป็นการให้คะแนนจริงเหมือนกับการแข่งละตินระดับโลกเลย และนอกเหนือจากนั้นเราพยายามที่จะสอดแทรกเรื่องของการทำประโยชน์เพื่อสังคมเข้าไปด้วย”
แพม : “ปีนี้รายการมีการทำหนังสือปกทอง 60 ล้านดวงใจถวายพ่อด้วยนะคะ ซึ่งเป็นภาพถ่ายของในหลวงตามบ้านคนต่างๆ และก็มีของคุณอนุชัย ศรีจรูญภู่ทอง ช่างภาพระดับโลก และก็มีคำบรรยายจากนักเขียนซีไรต์อีก 8 ท่าน ซึ่งหนังสือมีคุณค่ามากและรายได้ทั้งหมดเราจะนำขึ้นทูลเกล้าถวาย เหล่าซูเปอร์สตาร์ก็มาช่วยกันโปรโมตโครงการดีๆ แบบนี้ด้วย”
เจ : “หรือแม้แต่ในรายการก็มีการถ่ายทอด ที่ซูเปอร์สตาร์ไปร่วมลงนามถวายพระพรให้ในหลวงที่โรงพยาบาลศิริราชด้วย คือทั้งหมดมันจะมีเนื้อหาสาระต่างๆ ที่เราพยายามจะนำเสนอให้กับคนดูทางบ้าน แต่บางทีอินเตอร์เน็ตอาจจะพรีเซนท์ไปแต่แง่มุมที่ขายข่าวได้”
แพม : “แต่เราก็เข้าใจว่านักข่าวก็ต้องการจะขายภาพที่คนสนใจ ถ้าภาพที่เรียบๆ สวยๆ มันอาจจะไม่ตื่นเต้น ก็เลยต้องเลือกภาพที่มันดูหวือหวาหน่อย ก็เลยอยากให้ผู้ชมรายการเข้าใจวัตถุประสงค์ของรายการด้วย ว่าจริงๆ แล้วเราทำเพื่ออะไร และก็เข้าใจมุมมองของเราด้วยค่ะ”
ด้าน “แมทธิว” เผยเหตุเปิดก้นโชว์ เพราะต้องการสร้างกระแสให้ตัวเอง ยันไม่ใช่สคริปต์จากทางรายการ
แมทธิว : “ถ้าบอกว่ารายการมีสคริปต์ให้ทำ ผมจะบอกว่าไม่เลยครับ ตั้งแต่เริ่มมาไม่เคยมีใครเขียนสคริปต์ หรือบอกว่าให้คุณทำตัวยังไง หรือให้เราสร้างข่าวคนโน้นคนนี้ยังไง ไม่มีเลย เข้าใจว่าคนที่เข้ามาในรายการนี้เขาก็อยากจะดีที่สุด อยากจะทำผลงาน อยากจะเต้นออกมาให้ดูดี และก็สร้างกระแสให้ตัวเองด้วยอันนี้แน่นอน เหมือนเป็นการเพิ่มเรตติ้งให้กับตัวเองบ้าง”
“ยิ่งมันมีดารา 10 คน คุณจะทำยังไงให้ตัวเองเด่นล่ะ คือเราต้องสแตนด์เอาท์ ถ้าเกิดเราทำไปธรรมดา ขึ้นร้องเพลงไปวันๆ คือไม่มีใครเห็นเรา เราก็อยากจะทำให้มันมีเซอร์ไพรส์ เพิ่มความตื่นเต้น เพิ่มความฮือฮา ให้คนตื่นมาอีกวันแล้ว เฮ้ยกูเห็นแม่งวันนั้น โอ้โห ตูดแม่งอย่างนี้เลย คือมันเรียกความสนใจจริงๆ นะ เราก็ต้องยอมรับตรงนี้ ทุกคนก็ต้องการอย่างนั้น แต่ว่าไม่ได้ตั้งใจจะทำอนาจารหรือไปทำอะไรลามกต่อหน้าทีวีถ่ายทอดสด คือเราก็อยากจะทำอะไรที่มันตื่นเต้น อยากให้ทุกคนออกมาดูดี อยากให้ดูสนุก ดูแล้วมัน เฮ้ย มันมีอะไรแปลกๆ มันไม่ธรรมดา มันเต้นดีนะ มันมีอย่างนั้นอย่างนี้เข้ามา”
“ถามว่าตั้งใจมั้ย คือจริงๆ แล้ววันนั้นผมกร่างๆ เพราะผมเคยมีประวัติ(หัวเราะ) แต่จะเป็นการตอกย้ำรึเปล่าก็คงต้องแล้วแต่จะคิด แต่เพราะผมมีประวัติอยู่แล้วเรื่องอย่างนี้ และตอนซ้อมก็สนุกกันนะ ไอ้เต้นของผมมันไม่ได้เป็นลีลาศที่เน้นสวยงาม มันเป็นแบบมันส์ๆ เถื่อนๆ เป็นคนป่าเลย ผมก็อยากจะดิบ จริงๆ แล้วการเต้นในครั้งนี้มันยากมากสำหรับผม เพราะผมเต้นไม่เก่ง เต้นไม่เป็น ทางครูจั๊กที่สอนเรา เขาก็ฝึกให้จนผมเปิดตัวเอง เขาบอกเฮ้ยแมทธิวไม่ได้มันต้องอย่างนี้ ต้องทำหน้าแบบบ้ากาม จริงๆ เขาพูดอย่างนี้กับผม คุณต้องสนุกมากกับตรงนี้ ผมต้องการจะเปิดใจ ต้องอินนะ แล้วมันยาก ฝึกกันเป็น 2 อาทิตย์นะกว่าจะได้ประมาณนั้น”
เจ : “คือการฝึกระดับโลกก็จะเป็นประมาณนั้น เพราะแซมบ้าจังหวะที่เขาเต้น คือจังหวะที่จะต้องเป็นคนป่า ซึ่งมันก็เหมือนการแสดงแอ็คติ้งในภาพยนตร์ มันก็ต้องเข้าถึงบทบาท”
แมทธิว : “มันเหมือนเรากลายเป็นสัตว์ป่าจริงๆ และเข้าไปอยู่ตรงนั้นแล้ว และตอนซ้อมก็คือน้องผู้หญิงเขาเป็นคนอินโดนีเซีย ซึ่งก็น่ารัก เต้นดี และเขาก็อินนะ ซ้อมกันอยู่ดีๆ ก็ดึงกางเกงผมปั้ง แล้วก็ตีตูดปั๊บ ผมก็โว้ เฮ้ย มันส์นะเนี่ย ทุกคนมองแล้วก็แบบมันส์ได้อารมณ์จริงๆ นะ”
“ถ้าจะบอกว่ามันดูเกินเลยไป ผมว่าคนดูรายการนี้ก็ไม่เด็กมากนะ แต่ไอ้บางคนที่ออกมาด่า คือผมเข้าใจว่าคนพวกนี้เวลาเขาดูหนังฝรั่งแล้ว มีผู้ชายเรียนอยู่มหาลัย แล้ววิ่งเปิดก้นอยู่ในมหาลัย เขาก็คงดูแล้วขำเหมือนกัน คือผมไม่ได้ไปเดินเปิดตูดในชีวิตประจำวันบ่อยสักเท่าไหร่นะครับ(หัวเราะ)”
“อย่างการเต้นของกระแตกับหมิง มันก็ไม่ได้มีอะไรมาก ก็แค่เราอินกับสตอรี่ไลน์นี้ที่วางไว้ มันเป็นเนื้อเรื่องไปตามนั้น ผู้หญิง 2 คนแย่งผู้ชายกัน แต่สุดท้ายผู้ชายไม่เอา เราก็เอากันเองดีกว่าอะไรอย่างเนี้ย ก็เฮ้ยเราจูบกันเลย ซึ่งมันก็เข้ากับตรงนั้น และอารมณ์ที่ผมทำ ผมว่ามันก็เข้ากับอารมณ์ของเพลง และก็อารมณ์ของการแสดงที่เขาวางไว้ให้ผม แต่ฟีดแบคผมก็ไม่เห็นว่ามันจะเป็นในแง่ลบสักเท่าไหร่นะครับ คนก็ชอบ เพราะจริงๆ มันเร็วมาก”
โบ้ยสาเหตุที่รายการถูกด่า เป็นเพราะภาพนิ่งที่ลงในอินเตอร์เน็ตดูหวือหวาเกินจริง
แพม : “จริงๆ แล้วฟีดแบคจากคนที่ดูรายการที่พบเจอนะคะ ก็จะบอกว่าสนุกดี น่ารักดี แต่ว่าถ้าในเน็ตก็จะลบเป็นพิเศษอยู่แล้ว เพราะคนในเน็ตส่วนใหญ่ก็จะเข้าไปเพื่อวิจารณ์รุนแรงเกี่ยวกับทุกเรื่อง”
แมทธิว : “คือถ้าจะให้ดีก็ไม่เขียนดีกว่าครับ และช็อตที่เห็นในเว็บนั้น คือในชีวิตจริงมันเกิดขึ้นแว่บเดียว เร็วมาก 2-3 วินาที และเขาก็ไปเจาะเป็นภาพๆ พยายามจะเจาะไปตรงนั้น พอเป็นภาพนิ่งมันเลยดูแย่ ทำให้ดูว่าผมโหอะไรเนี่ย แต่ว่าจริงๆ แล้วมันปุ๊บปั๊บก็ผ่านไป”
รับโดนผู้บริหารโมเดิร์นไนน์ ติงเรื่องความไม่เหมาะสม รับปากว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นอีก
แมทธิว : “ก็ถ้ามันมีผลกระทบกับทางช่อง ผมก็ขอโทษทางช่องแล้วกันที่ทำให้เขาเดือดร้อน ผมไม่ได้ตั้งใจอย่างนั้นหรอก แต่คิดในอีกแง่นึงก็เพิ่มความสนใจให้กับทางช่องเขา(หัวเราะ)”
แพม : “คือทางผู้ใหญ่ก็ได้เตือนมาเหมือนกันค่ะว่า อยากให้รายการอยู่ในขอบเขตที่เหมาะสำหรับทุกวัยดู ซึ่งแพมก็ได้ตอบรับไปว่า แพมก็เห็นด้วย โอเคเราต้องคำนึงถึงว่ามันมีเยาวชนดูอยู่นะ และอะไรเหมาะสม อะไรไม่เหมาะสมเราต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ แต่ก็เข้าใจนักแสดงด้วยว่า ที่เขาทำไปเพราะอยากให้คนสนุกกับการดูโชว์ เพราะว่าจริงๆ แล้วสมมติว่าไม่มีอะไรเซอร์ไพรส์เลย คนดูก็บ่นอีกว่ารายการนี้แห้ง ไม่มีอะไรน่าติดตาม แต่พอทำก็โดนวิจารณ์ว่าทำเกินไป”
“การจะทำรายการให้ดี และอยู่ในกรอบพร้อมๆ กันมันก็ยากด้วย มันเป็นเส้นบางๆ และก็เข้าใจนักแสดงด้วยค่ะ แต่เราก็เข้าใจช่องด้วยว่ามันเป็นภาพลักษณ์ของช่อง 9 และของรายการ เราก็พยายามที่จะปรับตรงนั้นให้มันอยู่ในขอบเขตที่มากกว่านี้ เราก็มีการคุยกันแล้วว่าเราเข้าใจตรงนั้น และก็จะไม่ทำอีก ก็จะให้อยู่ในขอบเขตที่ดูน่ารักแล้วกัน บันเทิงด้วย น่ารักด้วยค่ะ”
เจ : “ก็ขอยืนยันอีกครั้งนึงว่า ไม่มีเรื่องของการเตี๊ยมนักแสดงให้ทำในลักษณะเช่นนี้มาก่อน จริงๆ แล้วรายการเรามีการถ่ายทอด 24 ชั่วโมงนะครับ ทุกช่วงเวลาของการซ้อมท่านสามารถเข้าไปดูออนไลน์ได้เลยทาง www.superstartvshow.com และก็มีการเพลให้ดูย้อนหลังได้ด้วยในแต่ละสัปดาห์ คือถ้าเข้าไปดูตอนซ้อมของแต่ละคน จะเห็นทันทีเลยว่าไม่มีซีนเหล่านี้”
แพม : “อย่างของน้องหมิงกับน้องกระแตตามบทแล้วจริงๆ เขาจะต้องทะเลาะกัน คือกล้องซูมเข้าไปเพราะว่าจะเป็นบทสนทนาว่าทะเลาะแย่งฟาโรห์กัน และก็เดินงอนออกไปทั้งคู่ จากนั้นฟาโรห์ก็ต้องวิ่งตามสาวทั้ง 2 คน แต่พอมาหน้างานจริงๆ ก็มีการเตี๊ยมกันของนักแสดงว่าเราเปลี่ยนบทดีมั้ย ให้เซอร์ไพรส์ทีมงาน ให้เซอร์ไพรส์คนดู ให้มันสนุกยิ่งขึ้น น้องหมิงกับน้องกระแตก็เลยตัดสินใจเปลี่ยนบทเองหน้างานเลย แม้แต่นักแสดงทีมเดียวกันก็ยังไม่รู้”
เปรม : “คือทั้ง 10 คนก็จะเก็บความเซอร์ไพรส์ของตัวเองไว้จนขึ้นเวที ไม่งั้นถ้าบอกไปมันก็ไม่เซอร์ไพรส์ ทุกคนก็จะรู้แล้วว่าไม่มีอะไร อย่างส่วนของผมพูดได้เลยว่า ก่อนผมขึ้นเวทียังใจสั่นเลย พอขึ้นไปปุ๊บแม้จะเป็นเด็กใหม่ก็ตาม แต่มันมีความรู้สึกบางอย่างที่เราจะต้องสวมคาแรคเตอร์นั้นให้เต็มที่ อย่างผมเป็นสกอร์เปี้ยนคิงจะให้ไปเต้นธรรมดาก็ไม่ได้ มันต้องทำให้คนเชื่อว่าบ้าๆ ออกมา”
แพม : “อย่างของน้องเปรมเอง ตอนซ้อมก็ไม่มีว่าจะต้องฉีกเสื้อ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาจะทำ”
เปรม : “มันอินครับ พอเราได้เต้นกับเพลงอย่างนี้บ่อยๆ มันยิ่งซ้ำๆ เข้าในหัวสมอง พอเราไปขึ้นเวทีจริง มันมีทั้งแสง สี เสียง มีทั้งคนดู มันยิ่งอยากให้เราทำดีขึ้นไปอีก แต่ต่อไปคงไม่มีแล้วล่ะครับ ก็คงจะมีอะไรเซอร์ไพรส์ที่เด็ดน้อยลงกว่านี้ แต่ก็ยังให้รายการมีสาระ มีความสนุกอะไรทุกอย่างอยู่”
เจ : “คือผมเชื่อว่านักแสดงทุกคนจะพยายามมากขึ้นๆ นะครับ แต่แน่นอนทุกคนรู้กรอบ และรู้เส้นของตัวเองว่าอะไรที่เหมาะสมไม่เหมาะสม ก็จะเห็นทุกคนพยายามมากขึ้นในเรื่องของการแสดง เพื่อที่จะให้ความสุขกับผู้ชมทางบ้าน”
เผยได้เตรียมบทลงโทษเหล่าซูเปอร์สตาร์ หากหลังจากนี้มีการขโมยซีน แสดงอะไรแผลงๆออกจอทีวีอีก
แพม : “ตอนนี้ก็มีการคุยกันแล้วค่ะว่า ถ้ามีหลุดออกมาอีกก็คงต้องมีบทลงโทษ”
เปรม : “มันต้องมีบทลงโทษอยู่แล้ว แต่บางทีเราก็โทษนักแสดงอย่างเดียวไม่ได้ คือผมไม่ได้ว่าพวกพี่ที่ถ่ายภาพนะ บางทีก็แอบถ่ายช้อน ใช้มุมกล้อง เพราะเราก็ไม่ได้จะตั้งใจให้มันเป็นอย่างนั้นนะ แต่เราถูกทำอย่างนั้น แล้วเราจะทำยังไงได้ล่ะครับ มันก็ไม่แฟร์สำหรับเราเหมือนกัน แต่ 10 คนเราก็คุยกันแล้วว่า เราจะมีคำว่าลิมิต อะไรทำได้อะไรไม่ควรทำ”
แพม : “ก็อาจจะมีการปรับหรือหักคะแนน หักแต้ม ถ้าจะไล่ออกจากบ้านก็คงจะต้องดูที่ความรุนแรง คงต้องดูเป็นกรณีไป ว่าเขาทำอะไรและเขาตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ หรือว่ามันเกิดอะไรขึ้น ต้องดูหน้างานอีกทีนึง”
ยอมรับกระแสวิจารณ์ด้านลบทำให้ท้อ วอนคนดูให้มองในมุมที่ดีมีสาระบ้าง
แพม : “ก็ไปอ่านดูในเน็ตเหมือนกันค่ะ คนที่เข้ามาเขียนเขาก็พูดรุนแรงอยู่แล้ว เพราะเราไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร เขาสามารถพูดอะไรก็ได้ ในฐานะที่เป็นคนที่ได้เข้าไปอ่าน ก็โดนผลกระทบด้วย ก็อยากจะพูดแทนซูเปอร์สตาร์ทุกคนนะคะ ว่าอยากให้รักษาความรู้สึกของคนอ่านบ้าง เพราะว่าทุกคนก็เข้าไปอ่าน และเข้าไปเขียนว่ารุนแรงมาก บางทีก็ว่าถึงพ่อถึงแม่ ทุกคนเขาทำด้วยความตั้งใจดีว่า อยากให้การแสดงออกมาดี เขาทำอาชีพที่สุจริตที่ดี”
“อยากให้ผู้ชมเข้าใจว่า ภาพถูกถ่ายในจังหวะที่ดูโป๊หรือดูน่าเกลียด แต่ถ้าดูในรายการจริงๆ ไม่มีอะไรน่าเกลียด ไม่มีอะไรโป๊เลยค่ะ แต่ว่ามันคือจังหวะหรือมุมกล้องเท่านั้นเอง ที่ทำให้ดูน่าเกลียด กับพาดหัวข่าวแรงๆ แต่เราก็ไม่ได้ว่านักข่าว เพราะเราก็เข้าใจว่าข่าวมันคือข่าว แต่ก็อยากให้คนดูเข้าใจนักแสดงด้วย และเวลาเขียนอะไรคือติได้ เราอยากให้ติ เราอยากให้ชม แต่ว่าไม่อยากให้ใช้คำพูดแรงๆ ที่มันบั่นทอนความตั้งใจของเขา ที่เขาตั้งใจจะทำรายการดีๆ และทำสุดฝีมือ เพราะบางทีมันก็อาจจะทำให้ท้อได้ ก็อยากจะฝากไว้สำหรับคนที่เขียนแรงๆ ค่ะ”
เจ : “ก็อยากจะให้ลองกลับไปดูเทปของการถ่ายทอดจริงๆ สำหรับทุกท่านที่ยังไม่ได้ดู อยากให้ดูว่ามันน่าเกลียดเหมือนที่คิด เหมือนที่วิจารณ์กันรึเปล่า พอไปดูแล้วก็จะเข้าใจดีเองว่า จริงๆ แล้วโชว์มันไม่ได้ออกมาเป็นเหมือนที่หลายๆ คนคิด คนส่วนใหญ่ที่วิพากษ์วิจารณ์ อาจจะเป็นเพราะไม่ได้ดูโชว์ในภาพรวมมากกว่า เห็นแต่ภาพนิ่ง ซึ่งสามารถเข้าไปดูได้ที่เว็บไซด์เรา เราเปิด 24 ชั่วโมง ดูเมื่อไหร่ก็ได้ ลองเข้าไปดู พอดูแล้วก็จะเข้าใจเองว่าจริงๆ แล้วมันไม่ได้เป็นเหมือนอย่างที่คนวิพากษ์วิจารณ์ในอินเตอร์เน็ตเลย”
แพม : “ใช่ค่ะ ทุกคนเขาซ้อมกันแทบเป็นแทบตาย เลือดจะกระเซ็นออกมาจากตัวอยู่แล้ว และพอโดนวิจารณ์แรงๆ มันก็ไม่แฟร์ด้วย ก็เลยอยากให้ความเห็นใจกับซูเปอร์สตาร์ทุกคนด้วยค่ะ”
แพม : “ไม่ใช่ว่าเราอยากจะให้รายการถูกติดภาพว่า ต้องเป็นรายการแรงๆ นะคะ เพราะรายการเรามีช่วงที่ดีที่มีสาระที่สนุกเป็นภาพสวย เป็นภาพตลก มีตั้งหลายภาพแต่คนมักจะไม่พูดในเรื่องดีๆ คนมักจะจับจ้องแต่ในจุดที่มันอาจจะผิดพลาดไป หรือว่าเกินขอบเขตและก็เอาประเด็นนั้นมาขยาย แต่ในจุดที่รายการเราดี เราสอนคนดูเรื่องของความอดทน ความขยัน เรื่องทีมเวิร์คก็มักจะไม่มีใครพูดถึง หรือว่าเวลาเราสอนเรื่องศิลปะการแสดง เจาะลึกเบื้องหลังคนก็มักจะเบื่อและไม่อยากพูดถึง”
“แต่พอมีภาพหวือหวาขึ้นมาภาพนึง ก็โอ้โหพูดกันใหญ่เลย มันก็เลยทำให้คนที่อ่านข่าวเข้าใจไปว่า รายการนี้ขายอะไรที่มันไม่มีสาระ ซึ่งมันไม่จริง เพราะว่าทีมงานเราตั้งใจทำรายการมาก ไม่ว่าจะคิดโชว์ ทำคอสตูม ทำซีจี เซ็ตเสียง เซ็ตไฟ ทุกคนซ้อมเต็มที่ และคิดงานมาล่วงหน้า จริงๆ เราอยากจะบอกว่าคนไทยทำรายการได้ขนาดนี้ มันสู้ฝรั่งได้เลยนะคะ”
“เคยมีฮอลลีวู้ดไดเรคเตอร์บินมาจากเมืองนอกถึง 3 คนด้วยกัน มาดูรายการ และชมว่าไม่น่าเชื่อว่า คนเอเชียจะทำสู้ฝรั่งได้ขนาดนี้ อันนี้มันคือความภาคภูมิใจของคนไทยที่ทำสู้ฝรั่งได้ และมันคือลิขสิทธิ์ความคิดของคนไทย ซึ่งผลงานทุกชิ้นไม่ว่าจะเป็นนักแสดงเอง ซูเปอร์สตาร์เราสู้ซูเปอร์สตาร์ระดับโลกได้ ในเรื่องของการเต้น ร้อง แสดง ซึ่งโดยปกติดาราในเมืองไทยเวลาร้องเพลง จะต้องลิปซิงค์ด้วยซ้ำ แต่ของเราไม่เลย ลุยเลย เต้นก็เต้นสด ผิดก็ผิด และมีเวลาซ้อมน้อยมาก คนอื่นเขาฝึกกันอย่างเต้นละติน 3 ปี เรามีแค่ 1-2 อาทิตย์ไม่เกินค่ะในวีคนั้น ซึ่งมันสุดยอดมาก”
“แต่ทำไมสิ่งเหล่านี้ คนดูไม่เคยพูดถึงหรือไม่เคยสนใจเลย มันก็น่าท้อใจสำหรับคนทำงานทั้งทีมเลย ที่ตั้งใจกันทำมาก อันนี้ก็เป็นประเด็นนึงที่อยากจะฝากไปถึงผู้ชมด้วย แต่สำหรับผู้ชมที่ชอบรายการและติดตามชมก็ขอขอบคุณมากๆ ด้วยค่ะ”
“จริงๆ จากผู้ผลิตสำหรับคนทำรายการ คุ้มมั้ยที่จะทำรายการนี้ ไม่คุ้มเลย เพราะว่าลงทุนสูง ความเสี่ยงสูง และพูดตามตรงว่าปีนี้เศรษฐกิจไม่ดี เราไม่ได้กำไรอะไรเลย เราอาจจะขาดทุนด้วยซ้ำ แต่ทำไมเราถึงทำ เพราะว่าเราอยากให้เมืองไทยมีรายการเจ๋งๆ แบบนี้ออกมา ลงทุนสูงๆ กล้าเสี่ยง กล้าทำ ให้คนที่เป็นซูเปอร์สตาร์ได้แสดงความสามารถแบบสุดยอดเลย ให้คนที่ทำซีจี ให้คนที่ทำคอสตูม ให้คนที่ทำโชว์ ทำเต้นแสดงออกมาให้แข่งกับฝรั่งไปเลย ให้เห็นว่ามันมีรายการนึงที่ทำได้ นี่แหละคือทำไมเราถึงทำ”
ฟาก “นาตาลี” เผยผู้เข้าแข่งขันทุกคน ฟิตซ้อมกันหนักอย่างเต็มที่ โวยคนที่โพสด่าในอินเตอร์เน็ต คงไปทะเลาะกับใครมา เลยมาเขียนระบายอารมณ์ใส่พวกตน
นาตาลี : “ก็อยากให้โฟกัสในเรื่องความพยายาม และความอดทน ความกลมเกลียวของทั้ง 10 คน ถึงจะเป็นการแบ่งเป็น 2 ทีม แต่ถ้าเกิดทีมงานหรือคนที่ได้ใกล้ชิด กับพวกเราทั้ง 10 คนก็จะได้เห็นความรักที่มีให้กัน คือตัวเองก็ยังรู้สึกว่า เฮ้ยมันจะสนิทอะไรกันได้เร็วขนาดนั้น กับเวลาแค่ 1-2 อาทิตย์ในวีคแรกๆ แต่มันอยู่ด้วยกันอาทิตย์ละแค่ 3 วัน แต่รู้สึกว่ามันสนิทกัน และก็ความเอื้ออาทรต่อกัน การพึ่งพาอาศัยกันมันมีขึ้นมาโดยอัตโนมัติ”
“อย่างวีคละตินสมมติว่าเป็นเราดูเต้นรำ ก็รู้สึกว่ามันจะยากขนาดไหนกัน มันอาจจะง่ายๆ ไปเรียนเต้นก๊อกแก๊กๆ 3-4 วันก็คงได้แล้ว แต่พอได้มีโอกาสสัมผัสจริงๆ มันยากมากจริงๆ และสำหรับบางคนที่ไม่มีเบสิกในการเต้นเลย มันจะเหนื่อยมากๆ จริงๆ คือคนภายนอกดูไม่รู้หรอก อาจจะคิดว่าเป็นดาราสบาย เต้นอะไรก็ไม่รู้ ซ้อมไม่กี่วันก็ได้แล้ว ไม่กี่วันน่ะจริง เพราะว่าเวลาจำกัดมาก เพราะต้องมาออนแอร์สด แต่การที่ไปซ้อมอันนี้ กลับบ้านเที่ยงคืน ตีหนึ่ง ไม่มีใครมานั่งรู้กับเรา และความเหนื่อย ความทุ่มเท ความสนุกสนาน เฮฮาแบบที่เราเล่น เราแสดง เราทำกันมันมีมากจริงๆ ก็อยากจะให้โฟกัส”
“เรื่องข่าวเรื่องภาพโอเคลงได้ แต่ก็ให้มันซอฟๆ หน่อย เพราะว่าอย่างคอมเม้นท์ก็อย่างที่คุณแพมบอก คนในเน็ตคือพวกคนที่ไม่มีใครรู้จักว่าเขาคือใคร คืออาจจะโมโหทะเลาะกับใครมา แล้วก็มานั่งพิมพ์อยู่ในคอมเม้นท์ ซึ่งนั่นก็เป็นสิทธิ์ของเขาที่จะทำ จริงๆ พวกคนที่มาคอมเม้นท์มองอีกแง่นึงก็คือ เขาดูรายการเรานี่แหละ เขาถึงสามารถไปคอมเม้นท์อย่างนั้นได้”
“ก็ไม่ได้มาเรียกกระแสใดๆ ทั้งสิ้น แต่ทางเราก็มีจุดยืนของเราว่าอยากให้คนดูสนุก ถึงของหนูจะไม่มีเซอร์ไพรส์อะไรน่ากลัว แต่ลึกๆ ก็คืออยากให้คนดูมีความสุข และเราคนที่แสดงเองก็มีความสุข ก็อยากให้ช่วยกันโปรโมตด้วยในทางที่ดี อาจจะมีภาพที่มันหวือหวาบ้าง มันก็เป็นธรรมดาเหมือนแฟชั่นโชว์ ยุคสมัยมันก็เปลี่ยนไปด้วย แต่จิตใจพวกเราไม่มีใครต่ำทรามกันสักคนเลยนะ(หัวเราะ)”
แมทธิว : “ผมก็ไม่มีอะไรมากครับ ประมาณนี้แหละว่าทางรายการไม่มีสคริปต์แน่นอน เชื่อว่าถ้าเกิดเขาพยายามจะเซ็ตสคริปต์ หรือพยายามจะตั้งให้พวกเรา ก็คงจะไม่ทำแน่ เพราะว่ามันไม่ใช่พวกเราอยู่แล้ว เราต้องฟีลธรรมชาติ ถ้าโดนบังคับก็จะไม่ทำ อย่าลืมว่าพวกผมได้รับโจทย์ใหม่ทุกสัปดาห์ ซ้อมกันวันละ 6-8 ชั่วโมงทุกวันเลย และพอถึงวันโชว์จริงๆ ทุกคนเขาก็อินจัด อยากจะเต็มที่มาก ปลดปล่อยทุกสิ่งที่เราเรียนมา เรารับรู้มาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา บนเวทีก็ได้โอกาสครั้งเดียว ถ้าพลาดก็พลาดเลย ถ้าดีก็ดีไปเลย เราก็ใส่เต็มแม็ก พยายามให้ผลงานมันออกมาดีที่สุด”
“แพม” ยันศิลปินที่เข้าแข่งทุกคนเป็นซูเปอร์สตาร์ ตามคอนเซ็ปต์รายการ บอกใครก็เป็นได้ ขอแค่ให้เจ๋งในอาชีพที่ทำอยู่
แพม : “อีกอันนึงที่คนชอบวิจารณ์ว่า 10 ซูเปอร์สตาร์ไม่เห็นจะเป็นซูเปอร์สตาร์ตรงไหนเลย ไม่เห็นมีงานอะไรเลย แต่อยากจะบอกว่าใครๆ ก็เป็นซูเปอร์สตาร์ได้ แม่ค้าขายกล้วยปิ้งก็เป็นได้ นักข่าวก็เป็นได้ถ้าคุณคือคนที่ทำงานสุดฝีมือของคุณแล้ว และคุณก็เจ๋งในสายอาชีพของคุณ แค่นี้ใครๆ ก็เป็นได้ อันนี้คือวัตถุประสงค์ของรายการ อยากให้คนคิดแบบนั้น ไม่ใช่คนที่ดังที่สุดในประเทศถึงจะเป็นซูเปอร์สตาร์ได้อยู่คนเดียว อันนี้คือสิ่งที่เราอยากจะทำ และทุกคนแสดงตรงนี้เพื่อนำเสนอว่า นี่แหละคือคำว่าซูเปอร์สตาร์ ไม่จำเป็นต้องชนะก็เป็นได้ค่ะ”
เปรม : “อันนี้จริงๆ ครับ อย่างที่ผมเข้ามารายการนี้ ไม่ใช่อยากจะเป็นซูเปอร์สตาร์ แต่อยากมาได้ประสบการณ์ ถ้าพูดจริงๆ ว่ารางวัลที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 มันไม่จำเป็นครับ ผมให้โรงแรมไปหา หรือที่บ้านหายังได้เยอะกว่า เรามาทำตรงนี้เพื่ออยากให้ประสบการณ์ที่ดี”
แพม : “อย่างนั้นก็ขอค่าตัวคืนด้วยนะคะ(หัวเราะ) ไหนๆ ก็ไม่อยากได้แล้ว”
เปรม : “ไม่ๆ อันนี้คือพูดเปรียบเทียบ และก็อีกอย่างนึงที่เปรมคิดว่ามันดีนะครับ อย่างอาทิตย์ที่แล้วถือว่าทำได้โอเค และเสียงตอบรับมามันดี มันเหมือนให้กำลังใจเยอะมากจริงๆ ผมว่าทุกคนที่ได้ยินเสียงกรี๊ดมันให้กำลังใจเรา ทำให้เราอยากจะทำวีคนี้ให้ดีที่สุด ทำให้เราต้องทำดีให้ได้ ให้กับคนที่เขาคาดหวังกับเรา”
นิกกี้ : “ส่วนผมถ้าพูดแบบซีเรียสไม่เอาขำๆ นะครับ ผมว่ารายการนี้ดีจริงๆ ปกติถ้านิกไปรายการไหน เขาก็จะมีขอบเขตให้นิก นิกก็ไม่ได้แสดงความเป็นตัวเองเต็มที่ แต่รายการนี้ก็มีขอบเขต แต่เหมือนกับเขาอยากให้ศิลปิน หรือนักแสดงทุกคนได้แสดงความเป็นตัวเองให้เต็มที่ ก็อยากให้ทุกคนได้ดูชีวิตความเป็นอยู่ในบ้านของดาราแต่ละคน หรือว่าการแสดง”
“อย่างผมก่อนหน้าที่จะมาออกรายการนี้ หลายๆ คนก็จะกลัวผมเยอะ ไม่ว่าจะเป็นคนในสังคม หรือว่าศิลปินด้วยกัน ก็จะกลัวว่านิกกี้เป็นคนประหลาดๆ ไม่ค่อยกล้าเข้าใกล้ หรือเขาสร้างภาพรึเปล่า ทำตัวเป็นผู้ร้ายรึเปล่า แต่พอผมได้มารายการนี้ก็กลายเป็นว่าสิ่งตอบรับสำหรับผมดีนะครับ ไม่ใช่ว่าไม่ดี ปกติผมถูกด่าตลอด ผมไม่เคยโดนชมอยู่แล้ว แต่เดี๋ยวนี้มีแต่คนชมครับ รายการนี้ทำให้ชีวิตผมดีขึ้น ความเป็นอยู่ดีขึ้นครับ”