กำกับ
โจนาธาน มอสโทว์
นักแสดง
บรูซ วิลลิส
ราดาห์ มิทเชล
โรซามุนด์ ไพค์
วิง ราห์มส์
แจ็ค โนสเวิร์ธตี้
เรื่องราวในโลกอนาคตที่มนุษย์อยู่กันอย่างเป็นเอกเทศและติดต่อกันผ่านหุ่นยนต์ตัวแทน เมื่อตำรวจ FBI "เกียร์ " (บรูซ วิลลิส) ต้องออกมาเพื่อสืบสวนเรื่องราวลึกลับของการฆาตกรรมนักศึกษาคนหนึ่ง ที่เกี่ยวโยงกับผู้ที่ช่วยในการสร้างปรากฏการณ์หุ่นยนต์ตัวแทนสุดไฮเทค ที่ทำให้ทุกคนสามารถซื้อหุ่นยนต์ที่เหมือนตัวเองอย่างไร้ที่ติ ซึ่งสามารถควบคุมได้จากที่บ้าน แถมยังสามารถรับรู้ความรู้สึก รวมถึงประสบการณ์ที่หุ่นยนต์ของตนได้สัมผัส การฆาตกรรมที่เกิดขึ้นเป็นการค้นหาคำตอบที่ว่า ในโลกภายใต้หน้ากากนี้ ใครคือตัวจริงและใครที่จะเชื่อได้
กำกับ
ก้องเกียรติ โขมศิริ
นักแสดง
ฉัตรชัย เปล่งพานิช
อารักษ์ อมรศุภศิริ
สนธยา ชิตมณี
เจสสิกา ภาสะพันธุ์
เกิดคดีฆาตกรรมต่อเนื่องสุดสยอง เมื่อเหยื่อทุกรายถูกฆ่าหั่นศพ และนำชิ้นส่วนแยกไปทิ้งคนละแห่ง ศพแล้วศพเล่า ตำรวจมืดแปดด้านไม่อาจหาตัวฆาตกรได้ ไท นักโทษชั้นหนึ่ง อดีตมือปืนรับจ้างกลับใจ เขาพยายามที่จะบอกเรื่องความสงสัยที่เขารู้ว่าใครคือฆาตกรรายนี้กับ ชิน นายตำรวจใหญ่ที่ใช้เขาทำงานลับ แต่ชินไม่ใส่ใจฟัง แต่เมื่อเหตุสยองเกิดขึ้นอีกคราวกับลูกชายรัฐมนตรี ตำรวจต้องพยายามทำทุกวิถีทางในการจับฆาตกรมาลงโทษให้ได้ และไทก็ถูกนำตัวมาจากเรือนจำ การต่อรองเกิดขึ้น ไทขอให้ปล่อยตัวเขาโดยไม่มีข้อแม้ และขออิสระในการทำงานทุกอย่าง โดยภายใน 15 วัน เขาจะต้องนำตัวฆาตกรมาลงโทษให้ได้ โดยจับตัวภรรยาของเขาไว้เป็นตัวประกัน ถ้าเขาไม่กลับมาพร้อมฆาตกร ให้ฆ่าภรรยาเขาทันที ไทแกะรอยจากความทรงจำของเขาในอดีต และแล้วความจริงจากอดีตก็เริ่มฉายภาพชัดขึ้นฆาตกรมืออาชีพ และฆาตกรต่อเนื่อง ถูกกำหนดให้เผชิญหน้ากันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อะไรคือบทสรุปที่มาแห่งการฆาตกรรม
กำกับ
บรรจง สินธนมงคลกุล
สุทธิพร ทับทิม
นักแสดง
ปานวาด เหมมณี
อาชิรญาณ์ ภีระภัทร์กุญช์ชญา
แอนนา รีส
ภัณฑิลา ฟูกลิ่น
อธิศ อมรเวช
ปองสิชม์ พิศิษฐการ
หมวย นักศึกษาสาว ใช้เวลาว่างช่วงปิดเทอมในการฝึกงานโดยตัดสินใจเลือกที่จะเข้ามากรุงเทพและทำงานกับมูลนิธิกู้ภัย กลับต้องเจอเรื่องผวาสั่นประสาทตั้งแต่คืนแรกในการปฏิบัติงาน เมื่อเธอได้รับแจ้งเหตุให้ไปในมหาลัยแห่งหนึ่ง เมื่อหนุ่มสาวสุดซ่าอยากลองดีกับศาลในตำนานที่ไม่มีใครกล้าหือ จนเกิดเรื่องราวไม่คาดฝัน เพราะนั่นคือศาลในห้องน้ำหญิงที่ได้รับการดูแลอย่างดีแต่ไม่มีใครย่างกรายเข้าใกล้ เพราะในห้องน้ำมีศาลตั้งอยู่ บางคนว่าเป็นศาลนางไม้ บางคนว่าเป็นศาลของนักศึกษาหญิงที่ผูกคอตาย.... ในคืนนั้นเองหมวยยังมีโอกาสช่วย นกน้อย นักศึกษาหญิงคนหนึ่งที่ถูกรุ่นพี่เหม็นขี้หน้า ข้อหาไม่ยอมทำตามคำสั่ง เลยถูกกลั่นแกล้งให้ไปติดอยู่ในลิฟท์สุดเฮี้ยนเพียงลำพัง ลิฟท์ที่มีนักศึกษาถูกยิงกราดก็ไม่สามารถล้างคราบเลือดสีแดงออกได้ จึงต้องทาสีทั้งลิฟท์เป็นสีแดงทั้งหมด มักมีคนได้ยินเสียงเคาะจากในลิฟท์ แต่เมื่อลิฟท์เปิดกลับไม่พบใครอยู่ บางครั้งเมื่อเข้าลิฟท์คนเดียวไม่นานก็พบว่ามีคนมากมายมายืนเป็นเพื่อนด้วย... เพียงวันถัดไปเหตุการณ์ประหลาดก็เกิดขึ้นอีกเมื่อ ทีมกู้ภัยของหมวยจำเป็นต้องส่งศพหญิงสาวนิรนามที่ถูกฆ่าตายแล้วถูกโยนศพลงน้ำ ไปที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด นักศึกษาแพทย์ที่ฝันอยากจะเป็นทันตแพทย์มือหนึ่งที่กลัวผีจนขึ้นสมองถูกอาจารย์มอบหมายให้มาเฝ้าห้องดับจิต และคืนนั้นเขาจะต้องเฝ้าศพหญิงสาวนิรนามที่ถูกฆ่าตายอย่างทารุณเพียงคนเดียว.... เรื่องราวสุดผวายังคงวนเวียนอยู่กับหมวย แต่คราวนี้มันกลับพุ่งเป้ามาที่คนใกล้ตัวของเธอ นั่นคือสา ซึ่งอยู่ในหอพักที่มีเรื่องเล่าสุดสยองของผีสาวรักเพื่อน ซึ่งทำให้หมวยได้พบกับความจริงที่เกิดขึ้น
กำกับ
ยู นากาอิ
นักแสดง
เท็ตสึจิ ทามายามะ
ไมโกะ
เรียว คัตสึิจิ
อากิโอะ ( เท็ตสึจิ ทามายามะ ) ผู้ชายซื่อ ๆ ไม่ค่อยพูดเขาอาศัยอยู่บนเกาะเล็ก ๆ ใน โอกินาว่า อากิโอะ อายุ 28 ใช้ชีวิตแบบเรื่อยเปื่อยกับสุนัขชื่อ คาฟุ ( Kafoo ) ที่เขาช่วยชีวิตมันไว้ โดยมี คุณย่า ที่รักเขามากคอยดูแลเรื่องอาหารการกินและซักเสื้อผ้าให้ อากิโอะ เปิดร้านค้าเล็ก ๆ โดยติดป้ายหน้าร้านไว้ว่า ร้านเปิดเฉพาะเวลา ( ซึ่งหมายถึงเวลาที่เขาอยากจะเปิดร้านนั่นเอง ) ทุกวันช่วงเย็น อากิโอะ จะพา คาฟุ ไปเดินเล่นที่ริมหาด และเดินกลับบ้านอย่างโดดเดี่ยว เป็นแบบนี้มาตลอด แต่ อากิโอะ ก็ดูมีความสุขดีที่จะอยู่แบบเหงา ๆ ในแบบที่เขาเป็น วันหนึ่งในขณะที่ อากิโอะ ไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ และนั่นเป็นครั้งแรกที่เขายอมแสดงความรู้สึกตัวเองออกมาด้วยการเขียนคำอธิษฐานขอพร ให้มีใครสักคนมารักเขาด้วยข้อความที่ว่า "แต่งงานกับผมเถอะ .. แล้วผมจะทำให้คุณมีความสุข" คำอธิษฐานที่เขียนทิ้งไว้ของ อากิโอะ นำ ซาจิ สาวสวย ที่มีอดีตอันลึกลับเดินทางมาหาเขา ... ซาจิ ( ไมโกะ )เดินทางมาพร้อมป้ายคำอธิษฐานเพื่อมาเป็นเจ้าสาวของ อากิโอะ และคอยยืนเคียงข้างเขาในวันที่เขาไม่มีใคร .... และนับตั้งแต่วันที่ได้พบ ซาจิ อากิโอะ ก็ได้พบว่า มือข้างซ้ายของเขาไม่ต้องการถุงมืออีกต่อไป