มหาวิทยาลัยในฮ่องกงหวังสร้างกระแส เชิญนางแบบบิกีนี่ “Chrissie Chau” มาให้ทัศนะเกี่ยวกับธุรกิจ ที่อาศัยเสน่ห์เพศมาช่วยในขายของ แม้นักศึกษาจะแห่เข้ามาฟังกันเต็มห้องประชุม แต่งานวิชาการดังกล่าวก็ถูกวิจารณ์ว่า เสียทั้งเวลา ทั้งเงิน ไปแบบเปล่าประโยชน์รึเปล่า
ในวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งฮ่องกง (Hong Kong University of Science and Technology - HKUST) ได้จัดให้มีงานสัมมนา และบรรยายพิเศษทางวิชาการ ในหัวข้อที่ชื่อว่า "วิเคราะห์ปรากฏการณ์ Chrissie Chau" ('Interpretation of Chrissie Chau Phenomenon') กับงานบรรยายที่บอกว่าจะเกี่ยวข้องกับ ‘เซ็ก, การเมือง และสังคม’
สำหรับเมืองไทยชื่อของสาวคนนี้อาจจะไม่ได้เป็นที่รู้จักมากนัก แต่ในฮ่องกง Chrissie Chau คือดาวเด่นคนหนึ่งที่ใครๆ ก็พูดถึงกันอย่างต่อเนื่องในช่วงระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา จนถูกจับตามองในฐานะปรากฏการณ์ทางสังคมที่น่าสนใจ
ที่นั่งจำนวนทั้งสิ้น 400 ที่ และเก้าอี้เสริมอีก 200 ถูกจับจองหมดไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งในข่าวยังบอกด้วยว่า ผู้เข้ามาฟังส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย และมารอกันตั้งแต่ 6 โมงเช้า โดยเนื้อหาที่นำมาถกกันนั้น เป็นเรื่อง ธุรกิจ กับโฆษณาขายสินค้าที่ใช้เรื่องเซ็ก และเรือนร่างของผู้หญิงขึ้นมาเป็นจุดขาย
การบรรยายครั้งนี้ ถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ช่วงแรกเป็นการอภิปราย ถึงมุมมองทางวัฒนธรรมต่อเรื่องดังกล่าวโดยนักวิชาการ ช่วงที่สองเป็นการสนทนา แลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัย และ Chrissie Chau ก่อนจะเปิดท้ายด้วยการเปิดโอกาสให้ผู้เข้าฟัง ได้ตั้งคำถามกับนางแบบสาวสวยผู้ทำหน้าที่วิทยากรพิเศษในการบรรยายครั้งนี้
งานบรรยายดังกล่าวอาจจะดูมองว่าเป็นการสร้างข่าว เรียกกระแสความสนใจจากสื่อมวลชน แต่ประเด็นที่ตั้งเอาไว้ก็ไม่ได้ไร้สาระ หรือไม่น่าสนใจเสียทีเดียว ความน่าสนใจเกี่ยวกับสาวร้อนคนนี้ยังมีอยู่ไม่น้อย ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าความโด่งดัง และเรื่องราวของเธอเป็นสิ่งน่าสนใจ และสามารถนำมาศึกษาเชิงสังคม วัฒนธรรมได้จริงๆ
แต่เอาเข้าจริง หลายเสียงเห็นตรงกันว่า งานนี้ดูจะไม่ค่อยจะได้เนื้อหาสาระจากการบรรยายครั้งนี้สักเท่าไหร่ เป้าที่ถูกตำหนิมากที่สุดก็คือ นางแบบสาวคนดังนางเอกของงาน ที่ดูจะขาดการเตรียมพร้อม จนแสดงความไม่ฉลาดออกมาหลายๆ ครั้ง อย่างไม่เข้าใจคำถาม, ตอบไม่ตรงคำถาม และในบางครั้งเธอต้องขอทวนคำถามถึงสามครั้ง หรือใช้เวลาคิดนานจนผิดปกติ จนถูกนักศึกษาหลายๆ หัวเราะเยาะและดูถูกว่าแม่นี่ก็แค่สาวสวยสมองน้อยอีกคนเท่านั้น
ในทางตรงกันข้าม มหาวิทยาลัยก็ถูกโจมตีไม่น้อยหน้าไปกว่ากัน กับข้อหาว่าจัดงานบรรยายทางวิชาการครั้งนี้มาเพื่อฆ่านางแบบสาว ป้อนคำถามยากจนเกินความจำเป็น บางช่วงอาจารย์ผู้ดำเนินการบรรยายยังออกอาการโชว์ออฟ ด้วยการใช้คำวิชาการหรูๆ การร่ายวรรณกรรมโบราณ ความรักในหอแดง หรือหยิบส่วนหนึ่งจากงานของ เชกสเปียร์ มาอ่านเป็นเวลายาวนานกว่า 5 นาที นักศึกษาหลายๆ คนถึงกับยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูอยู่เป็นระยะ
ที่แย่ไปกว่านั้นในงานดังกล่าวยังมี คำผิดในพาวเวอร์พอยท์ประกอบคำบรรยาย และรวมถึงมีการเรียกแซ่ของเธอผิด จนหลายๆ คนมองว่าไม่ใช่เพียงฝ่ายนางเอกสาวที่ขาดการเตรียมตัวที่ดี
คงจะพูดได้ยากว่างานบรรยายของ มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งฮ่องกง ครั้งนี้ประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว ในแง่หนึ่งมีคนให้ความสนใจอย่างมหาศาล แต่ทางวิชาการก็ไม่ได้เนื้อหาสาระอย่างที่ทางคณะผู้จัดตั้งเป้าหมายเอาไว้ แต่ถ้าจะมีใครได้ประโยชน์จากงานบรรยายครั้งนี้ ก็คงหนีไม่พ้นนางแบบสาวคนดัง ที่กลายเป็นที่สนใจของสื่ออีกครั้ง และชาวฮ่องกงอีกครั้ง
ในรอบปีที่ผ่านมาที่ฮ่องกง ดูเหมือนจะไม่มีใครได้รับการสนใจเกินหน้าเกินตาสาวสวยที่ชื่อว่า “Chrissie Chau” นางแบบบิกีนี่ผู้สร้างชื่อขึ้น จนกลายเป็นสาวร้อนที่สุดแห่งปีของฮ่องกง จนความโด่งดังของเธอถูกขนานนามว่าเป็นปรากฏการณ์
Chrissie Chau (หรือชื่อจีนว่า เชาซิ่วนา) สาววัย 24 ปีชาวกวนตง ที่ย้ายมาอยู่ฮ่องกงตั้งแต่อายุได้ 10 ขวบ เธอก็เหมือนกับสาวรุ่นจำนวนมาก ที่หวังจะหาอาชีพในวงการบันเทิง เริ่มต้นด้วยการประกวดนางงามในเวทีท้องถิ่นที่เรียกว่า X-Game Surfer Girl ที่แม้จะได้แค่ตำแหน่งรองชนะเลิศมาครอง แต่ก็พอจะหาโอกาสต่อยอด หางานในวงการบันเทิงได้รับบทเป็นตัวประกอบเล็กๆ ในหนังอยู่หลายเรื่อง
ดูอย่างนี้สาวคนนี้ก็ไม่ได้ต่างอะไรจากสาวตะกายฝันคนอื่นๆ ที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป มีคนใหม่เข้ามาอยู่เรื่อยๆ แต่เธอสามารถสร้างความแตกต่าง ไม่ปล่อยให้ตัวเองต้องถูกลืมไปในเวลาอันรวดเร็วๆ เหมือนกับดาราสาว ชื่อเสียงระดับรองอีกจำนวนมาก โดยเริ่มต้นเรียกเสียงฮือฮาจากโฆษณาของสถานลดน้ำหนักแห่งหนึ่ง ที่เซ็กซี่จนเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นเรื่อยๆ
หากเป็นแค่โชว์หุ่น เธอก็คงไม่แตกต่างจากสาวเซ็กซี่อีกจำนวนมาก แต่ความโด่งดังของสาวคนนี้ ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อต้นปี 2009 ที่ผ่านมานั้น มันแตกต่างออกไป Chrissie ไม่ได้มีผลงานเพียงแค่การถ่ายภาพนิ่ง หรือโฆษณาประเภทที่อวดรูปร่างธรรมดาๆ แต่เธอเลือกที่จะส่ง สินค้า และกิจกรรมอันหลากหลาย ที่ล้วนแต่เรียกเสียงครางฮือจากทั้งชาวฮ่องกง และสื่อมวลชน และกลายเป็นเรื่อง อื้อฉาวได้แทบทุกครั้งไป
ในต้นปี 2009 เกิดความโกลาหลขึ้นที่ งานหนังสือประจำปีของฮ่องกง เมื่อนางแบบสาวได้เลือกที่นี่เป็นสถานที่เปิดตัวอัลบั้มรวมรูปของตัวเอง เธอถูกรุมล้อมด้วยนักข่าว และเหล่าหนุ่มๆ ที่ตามมาดูตัวจริง สร้างความรำคาญในแก่คนที่มาเพื่อซื้อหนังสือจริงๆ ในงานวันนั้นนางแบบสาวยังเปิดบู๊ตแจกลายเซ็น พร้อมกับประกาศว่าอาจจะแจกจุมพิต หากหนังสือของเธอขายได้เกิน 10,000 เล่มด้วย
หลังจากนั้นไม่นานนัก สาวเซ็กซี่คนนี้ก็ออกสินค้าน่าหวาดเสียวมาเรียกเงินจากหนุ่มๆ อีกครั้ง หมอนใบใหญ่ ที่พิมพ์ภาพของ Chrissie Chau ในขนาดใหญ่ตัวจริงในชุดบิกินี่เอาไว้ วางจำหน่ายด้วยราคาเหยียบ 600 เหรียญฮ่องกง (3,000 บาท) แต่เหล่าหนุ่มๆ ก็บ่ยั่นจนมันขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เด็กอายุ 13 ปีคนหนึ่งยอมทุ่มทุนเงินเก็บ 4 เดือน เพื่อให้ได้หมอนใบนี้มานอนกอดที่บ้าน
สำหรับตัวเอง เองแล้ว Chrissie Chau บอกว่าไม่รู้สึกอะไร หรือคิดว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะสมที่หนุ่มๆ ฮ่องกงจำนวนมากจะนอนหลับไปกับหมอนของเธอ “มันน่ากอด แล้วก็นุ่มสบายมากๆ บริษัทของฉันแทบจะผลิตมันไม่ทัน เลยละค่ะ”
ตอนนี้ไม่ว่าจะขยับตัวทำอะไร ก็ดูเหมือนจะเป็นข่าวเป็นเงินเป็นทองไปหมด เธอสามารถขายได้ทุกอย่างตั้งแต่ ศูนย์ลดน้ำหนัก, แปรงสีฟัน, ไก่ทอดเคเอฟซี จนไปถึง แฟรชไดร์ว มีการประมาณการว่าจนถึงเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา Chrissie Chau ทำเงินไปแล้วทั้งสิ้น 4 ล้านเหรียญฮ่องกง ในระยะเวลาการทำงานเพียงไม่นานนัก
บางคนบอกว่าเธอเป็นผู้นำกระแส ‘นางแบบเก๊ - Pseudo Model’ ที่ไม่ได้เดินกรีดกรายหรูหราอยู่บนแคทวอล์ค หรือถ่ายภาพนิ่งในหน้านิตยสาร และสินค้าสุดหรู เหมือนกับนางแบบจริงๆ
แต่หมายความไปถึงสาวๆ ที่สวยน้อยเกินไป, ขาสั้น, มีส่วนสูงไม่พอ หรือมีความสามารถจำกัด แต่อาศัยความใจกล้า ใช้เสน่ห์ทางเพศบุกเข้าโจมตีผู้บริโภคโดยเฉพาะเพศชาย แบบไม่เหนียม ที่บางคนอาจจะเรียกว่าไร้ยางอาย แต่ก็ต้องยอมรับว่ามาถึงวันนี้สาวที่ใครๆ ก็หมั่นไส้ และรำคาญ อย่าง Chrissie Chau ได้กลายเป็นความหมายใหม่ของอาชีพนางแบบในฮ่องกงไปแล้ว และเธอก็เป็นปรากฏการณ์ไปแล้วจริงๆ