'นางร้ายนมไม่ต่อเนื่อง' หรือ 'นางร้ายนมไม่คอนตินิว (Continue)' เป็นฉายาใหม่ล่าสุดที่ ‘เป้ย - ปานวาด เหมมณี’ นักแสดงสาวสุดเซ็กซี่ได้ไปครอง เพราะเหตุที่มีหลายคนสังเกตเห็นว่ารูปลักษณ์หน้าอกของเธอไม่มีความคงเส้นคงวา บางวันก็อวบใหญ่ผิดมนุษย์ บางครั้งก็เบี้ยวเป๋ ไม่เทียมเท่ากันทั้งสองเต้า
ฉายาดังกล่าว สื่อให้เห็นว่า 'จุดสนใจ' ของเป้ยที่สังคมพุ่งไปหา คือ ก้อนเนื้อที่อยู่ใต้คาง เหนือสะดือของเธอมากกว่าที่จะเพ็งเล็งไปที่ฝีมือการแสดง ทั้งๆ ที่เธอก็เป็นนักแสดงคนหนึ่ง
หากมองย้อนกลับไป นักแสดงสาวผู้นี้ก็ป้อนอุปทานสนองอุปสงค์ของผู้ชมมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายแบบที่เปิดเผยให้เห็นส่วนสัดจนแทบไม่ต้องจินตนาการ การแสดงละครที่เธอรับบทนางร้ายซึ่งมีปอดเป็นตำแหน่งวางโฟกัสของช่างกล้อง ตลอดจนการแสดงภาพยนตร์ที่ผ่านมาทั้งสองเรื่อง(Bangkok Dangerous กับ หอ แต๋ว แตก) ซึ่งแม้จะมีบทบาทที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่ก็ยังคงนำเอา 'เนื้อนม' ของเธอมาเป็นจุดขายไม่ต่างกัน
เมื่อเป็นเช่นนี้ ภาพการออกมาปรากฏตัวในฐานะ 'เซ็กซี่สตาร์' จึงไมใช่สิ่งแปลกใหม่ มิหนำซ้ำยังอาจจะเป็นสิ่งเบื่อเอียนสำหรับผู้ชมที่เสพนมของเธอมาจนชินตาอีกด้วย
ล่าสุดเป้ยเพิ่งจะแสดงภาพยนตร์เรื่อง มหาลัย’ สยองขวัญ ให้กับค่ายสหมงคลฟิล์ม เธอออกมาบอกกับใครต่อใครว่าภาพของเธอที่อยู่ในภาพยนตร์เรื่องนี้ "ไม่ใช่เป้ยแบบที่ทุกคนคุ้นชิน" และถ้าใครหวังที่จะไปชุมนุมกันในโรงภาพยนตร์เพียงเพื่อ 'ชมนม' ของเธอ สิ่งเดียวที่เป้ยจะให้กับทุกคนได้ก็คือรอยยิ้มและคำว่า "เสียใจ"
- เพราะอะไรคุณถึงสนใจบทของตัวละครที่คุณแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้?
"มันเป็นอะไรที่ปกติธรรมดา เป็นเด็กต่างจังหวัดธรรมดาทั่วๆ ไปที่เป็นเด็กต่างจังหวัดจริงๆ ไม่ต้องแต่งหน้า เป็นคนปกติทั่วไป แล้วมาฝึกงานในกรุงเทพฯ ฝึกงานในอาชีพปอเต็กตึ๊ง(หัวเราะ) แล้วจริงๆ เป้ยเป็นคนค่อนข้างจะกลัวผีอยู่แล้วน่ะ ก็เลย เฮ้ย น่าเล่นๆ อยากเล่น
"พอได้อ่านบท ก็สนใจมาก น่าติดตาม อีกอย่างนึงด้วยคาแรกเตอร์ต่างๆ น่าเล่นมาก เพราะว่ามันไม่ใช่ตัวเป้ยอย่างที่ทุกคนเคยเห็น นี่เป็นเป้ยในอีกคาแรกเตอร์หนึ่ง ที่ค่อนข้างจะท้าทายความสามารถทางด้านการแสดง แล้วเป้ยก็อยากให้ทุกคนได้เห็นตรงนี้ของเป้ย มากกว่าที่จะติดตากับเป้ยในตอนเล่นละคร เล่นหนัง เป้ยก็อยากจะเปลี่ยนไปในอีกรูปแบบนึงน่ะค่ะ"
- คุณรู้สึกอย่างไรที่เวลาคุณแสดงละคร แสดงหนัง หรือไปปรากฏตัวที่ไหนแล้วมีคนจ้องจะ ‘ดูนม’ ของคุณตลอดเวลา?
"ไม่แปลกใจค่ะ มันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว เพราะต้องบอกอย่างนึงว่า อยู่ในวงการนี้ มันเป็นเรื่องของลุ๊คส์น่ะ ลุ๊คส์ที่คนส่วนใหญ่ชอบให้เราเป็นแบบนี้ ฉะนั้นคนก็จะจำภาพตรงนี้ไป เป็นเรื่องธรรมดามากสำหรับเป้ย แล้วเป้ยก็เคารพงานของเป้ยแต่ละชิ้นที่เป้ยทำอยู่แล้ว เป้ยก็ไมได้ไปดูถูกมัน เพียงแต่ว่า เออ ในเมื่อคนชอบตรงนี้ คนแฮปปี้ที่รู้จักเป้ยแบบนี้ แต่เป้ยก็อยากลองเสนอในแง่มุมอื่นบ้าง
"เป้ยก็เป็นนักแสดงคนหนึ่ง เป้ยก็อยากให้คนอื่นเห็นว่าเป้ยก็มีความสามารถเหมือนกัน ไม่ได้ขายเซ็กซี่ ฉะนั้นตรงนี้(หมายถึง ภาพยนตร์เรื่อง มหาลัย’ สยองขวัญ)ก็จะเป็นการพิสูจน์ฝีมือเป้ยในอีกรูปแบบนึง ให้คนอื่นได้เห็นว่า เป้ยก็มีความสามารถทางด้านการแสดง ไม่จำเป็นต้องเซ็กซี่ เป้ยก็สามารถทำได้"
- จริงๆ แล้วคุณตั้งใจจะเอาความเซ็กซี่มาเป็นจุดขายหรือเปล่า?
"ไม่นะ เพราะตัวเป้ยจริงๆ ไม่เซ็กซี่เลย เป้ยบอกใครๆ เสมอว่าเป้ยธรรมดามาก เป้ยเป็นคนที่ธรรมดา แล้วค่อนข้างจะบ้าๆ ด้วยซ้ำน่ะ ไม่มีความเซ็กซี่เลย ไมได้เป็นคนที่แต่งตัวเซ็กซี่ ไม่ได้หน้าตาเซ็กซี่อะไรเลย เป้ยก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน แต่ด้วยผู้ใหญ่เห็น แล้วก็มีหลายๆ คนบอก แววตาบ้าง นู่น นี่ นั่น ด้วยความที่เป็นคนที่แต่งหน้าขึ้นมานิดนึง ปัดขนตานิดเดียว มันก็จะดูเยอะไปหมดแล้ว(หัวเราะ) ก็เลยทำให้คนค่อนข้างติดต่องานประเภทนี้เยอะหน่อย เฮ้ย อยากให้เป้ยเป็นแบบนี้ อยากให้เป้ยรับบทแบบนี้ อะไรแบบนี้ มันจะเป็นอย่างนี้น่ะค่ะ แล้ว ณ ตอนนั้น ต้องยอมรับว่าคนดู คนที่ติดตามเขาชื่นชอบตรงนั้น แล้วอีกอย่างก็คือเราได้ฟีตแบคกลับมาดีน่ะค่ะ คนรู้จักเพิ่มขึ้น มากขึ้น จากจุดๆ นั้น ก็โอเค เราอาจจะเป็นแบบนั้น
"ผู้ใหญ่อาจจะเหมือนกระจกสะท้อนตัวเราน่ะ ซึ่งบางทีเรามองตัวเองเราไม่รู้ แต่คนอื่นมองเรา เขาจะรู้ว่า เออ ควรจะหยิบจับตรงไหนของเรา จุดเด่นของเรามันอยู่ตรงไหน แบบนี้น่ะค่ะ"
- ถ้าคุณบอกว่ามันไม่ใช่ตัวตนของคุณ แล้วที่คุณทำไปทั้งหมดนั่น รู้สึกฝืนไหม?
"ฝืนค่ะ(ตอบทันที) ช่วงแรกๆ ฝืนค่ะ ตอนนั้นเป้ยยังงง เป้ยก็ยังมีคำถามเกิดขึ้นเยอะแยะมาก ว่าทำไมไปงานต้องแต่งตัวเซ็กซี่ ทำไมไปงานต้องแบบนั้น แบบนี้ เป็นตัวของตัวเองไมได้เหรอ เขาก็บอกว่า ไม่ใช่ มันก็ต้องเข้าใจอีกแง่มุมในเรื่องงานน่ะค่ะ เป้ยก็ต้องปรับเหมือนกัน ใช้เวลาเหมือนกันนะ ไม่ใช่ว่า อยู่ๆ นึกจะเซ็กซี่ ก็จะทำได้เลย ไม่ใช่ ทุกวันนี้เป้ยก็ยังบอกว่าเป้ยไม่เซ็กซี่ ถ้าเป้ยล้างหน้า ล้างเมคอัพทุกอย่างออก เป็นเป้ยธรรมดา ตอนที่เป้ยอยู่บ้าน ไม่มีงานทำ(หัวเราะ) ก็จะเป็นอะไรที่ดูธรรมดามากๆ เป้ยยอมรับเลยว่า ทุกๆ อย่างทำให้เป้ยดูเซ็กซี่ขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายแบบ การแต่งหน้า หรือว่าการแต่งตัว ถ้าเป้ยไม่มีพวกนี้ เป้ยก็จะเป็นคนที่ปกติ ธรรมดามาก"
- คุณแยกเรื่องงานที่มีความเซ็กซี่กับชีวิตจริง ออกจากกันเลย?
"ใช่ค่ะ มันก็เลยเกี่ยวเนื่องกับหนังเรื่องนี้ด้วย เพราะหนังเรื่องนี้คาแรกเตอร์เป็นคนธรรมดามาก เป้ยก็เลยอยากให้คนที่รักเป้ย ก็จะได้รักเป้ยเพิ่มขึ้นในอีกแง่มุมนึง ว่าเป้ยเป็นธรรมชาติ เพราะว่ามันก็มีหลายๆ คนบอกว่า เฮ้ย ทำไมต้องเซ็กซี่ตลอดเวลา เป็ยก็อยากเสนอในแง่มุมนี้ ให้คนได้เห็นด้วยเหมือนกัน เพราะว่าเป้ยไม่ใช่ว่าอยากจะยัดเยียดความเซ็กซี่ให้ตลอดทุกอย่าง ไม่ใช่ เป้ยเป็นนักแสดงคนนึง ที่อยากจะให้คนอื่นได้เห็นว่า เออ เป็นนักแสดงจริงๆ ที่สามารถเล่นได้หลายบทบาท ไม่จำเป็นต้องเซ็กซี่ๆๆ อย่างเดียวค่ะ"
- คุณกำลังต้องการที่จะถอยออกมาจากภาพเซ็กซี่หรือเปล่า?
"เป้ยพยายามถอยมาเรื่อยน่ะค่ะ สามปีที่ผ่านมา เป้ยว่าเป้ยค่อนข้างจะเฟตขึ้นเยอะแล้ว ยกเว้น จะมีงานอีเวนท์ที่เขาจ้างเราอะไรแบบนั้น ถ้าโดยปกติธรรมดาทั่วไป เป้ยไม่ได้แต่งตัวเซ็กซี่ ออกงาน ถ้าเขาไม่ได้บอกว่าต้องเซ็กซี่ หรือไม่ใช่งานจ้าง เป้ยก็แต่งตัวของเป้ยปกติ ซึ่งไม่เซ็กซี่เลย แต่ถ้ามีงานอีเวนท์ ภาพจะต้องไปลงหนังสือ มันก็เลยทำให้เราค่อนข้างที่จะ เฮ้ย ยังไม่หายๆ แต่เอาเข้าจริงๆ น่ะ เป้ยไม่ได้ถ่ายแบบเซ็กซี่มาสามปีแล้ว แล้วแต่งตัวเซ็กซี่ๆ หวือหวาเหมือนเมื่อก่อน ก็แทบไม่มีแล้ว ฉะนั้นน้อยมาก แต่คนก็จะติดตาเท่านั้นเองแหล่ะ"
- ช่วงแรกๆ ที่คุณเข้ามาวงการ แล้วนำภาพเซ็กซี่ออกมาแสดง เคยมีคนเตือนคุณไหมว่า มันจะลบล้างออกไปยากมาก?
"มีค่ะ คนก็เตือน แต่ตัวเป้ยคิดว่า มันเป็นงานน่ะ ถ้าเราทำใจได้ ถ้าไม่คิดอะไรมาก เป้ยเข้ามาวงการนี้ เป้ยก็ต้องการทำงาน เป้ยถือว่า บทบาทเซ็กซี่ก็เป็นบทบาทหนึ่งที่นักแสดงอย่างเป้ยต้องทำ แค่นั้นเอง ถ้าถามว่าใช่ตัวเป้ยไหม ก็ไม่ใช่ เป้ยก็ต้องแสดง เป้ยก็ต้องเล่นเหมือนกัน เป้ยคิดว่าตัวเองเป็นนักแสดง ก็ทำตัวเองให้เซ็กซี่ อย่างคนคิดว่าเป้ยเซ็กซี่ ถ้าอย่างนั้นเป้ยก็เซ็กซี่แล้วกัน
"มันคิดง่ายๆ น่ะค่ะ ก็พยายามทำใจ ถามตัวเรา เราอยากมีคาแรกเตอร์ที่ดีอยู่แล้ว ภาพพจน์ที่ดี ดูดี เป็นนางเอก ทุกคนอยากเป็นอย่างนั้น เพียงแต่ว่าด้วยความที่เราเลือกเกิดไม่ได้ แล้วคาแรกเตอร์ที่คนติดตา คนชอบ มันเป็นแบบนี้น่ะ ในเมื่อมันเป็นแบบนี้เราก็ต้องยอมรับ ถามว่าใครไม่อยากมีภาพพจน์ที่ดูดี ไม่มีหรอก ถูกไหม ใครอยากโดนด่า ไม่มีหรอก ฉะนั้นต้องทำใจ ในเมื่อสังคมอยากให้คุณเป็นแบบนี้ แต่คุณก็ต้องประพฤติให้คนเห็นว่า คุณก็ไม่ใช่แบบนี้ตลอดเวลา เป้ยก็ยอมรับว่าเป้ยไม่ได้เซ็กซี่ตลอดเวลา"
- เข้าวงการบันเทิงมาได้เกือบ 9 ปีแล้ว รู้สึกอย่างไรกับวงการนี้บ้าง?
"ก็รักนะ ไม่ใช่ไม่รัก ทุกวันนี้มีกินมีใช้ได้ก็เพราะอยู่ในวงการนี้ ตั้งตัวได้ทุกวันนี้ ก็เพราะว่าเราอยู่ในวงการนี้ ก็รักมันอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่ว่าจะหลงใหลอะไร ทุกครั้งเป้ยจะย้อนกลับมาถามใจตัวเองตลอดว่า มันจริงไหม ในสิ่งที่คุณเห็น หรือในสิ่งที่คนมานู่น นี่ นั่น มาเอาใจเราสารพัด พูดดีกับเราสารพัด แต่เราต้องย้อนกลับมาดูว่า ความเป็นจริงคืออะไร แล้วเราต้องนึกถึงความเป็นจริง นึกถึงเมื่อก่อนที่เราเป็นด้วย เป้ยไม่เคยลืมชีวิตของเป้ย เมื่อก่อนที่เป้ยเคยเป็นอย่างไร เป้ยชอบอะไร เป้ยมีความสุขอย่างไร แฮปปี้อย่างไร เป้ยก็จะทำอย่างนั้น เป้ยก็จะไม่ทิ้งความเป็นเป้ยเหมือนกัน ในตัวเป้ยก็เหมือนกัน บางทีจะโดนด่า หรือโดนอะไร แต่เป้ยก็ยังคงเป็นตัวของเป้ยเอง จะให้เป้ยมานั่งพูดโกหกตลอดเวลา เป้ยก็พูดไม่ได้หรอก เป้ยก็ต้อง เออ ในเมื่อคุณถามมาอย่างนี้ เป้ยก็ต้องตอบไปแบบนี้ ความรู้สึกจริงๆ เป้ยก็ไม่เฟคน่ะ"
- คุณมองอนาคตของตัวเองเอาไว้อย่างไรบ้าง?
"เป้ยเป็นแบบนี้น่ะค่ะ เป็นประเภทไหลตามน้ำ มีงานเข้ามาเป้ยก็ทำ ไม่ได้ซีเรียสว่า ต้องมี ต้องได้ ต้องไปถึงที่สุด สุดยอด คือเป้ยเป็นอะไรที่เรื่อยๆ เป้ยถือว่าเป้ยรักตรงนี้มากกว่าที่จะไขว่คว้า มีชื่อเสียง โด่งดัง ติดอันดับ ไม่ใช่แบบนั้น ฉะนั้นเป้ยก็ขอยืนยันว่า ณ วันนี้ เป้ยก็ยังไปตามน้ำอยู่ ถ้ามีงานติดต่อเข้ามาเป้ยก็ทำ เป้ยเป็นอย่างนี้อยู่แล้วค่ะ ไม่ต้องไปไขว่คว้า ไปแข่งกับคนอื่นๆ ขอวัดที่ตัวเองดีกว่า ถ้ามีงานติดต่อมา เป้ยก็ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ยกเว้นจะไม่มีงาน เป้ยก็มีอาชีพสำรองของเป้ยอยู่แล้ว มีธุรกิจของเป้ยอยู่แล้ว ฉะนั้นเป้ยไม่คิดว่าจะต้องซีเรียสกับตรงนี้น่ะค่ะ (ทำธุรกิจอะไร?) พวกเสื้อผ้าของเป้ยน่ะค่ะ ถามว่าในวงการเป็นอาชีพหลักไหม ก็เป็นอาชีพหลัก แต่พยายามจะไม่ไปอะไรกับมันมาก เพราะว่าต้องยอมรับอย่างนึงว่า สักวันนึง มันก็ต้องลง สักวันเราก็ต้องแก่ตัว มันเป็นเรื่องธรรมชาติ ถ้าเรายิ่งไปซีเรียสว่าจะต้องเป็นอย่างนู้นอย่างนี้ มันก็ยิ่งทำให้เราคิดมาก"
- แล้วถ้ามีคนมาจ้างให้คุณไปแสดงบทแม่ล่ะ?
"ก็เล่นค่ะ เป็นบทบาทนึงน่ะ ท้าทายอีกต่างหาก (ไม่รู้สึกว่าจะทำให้เราดูแก่เหรอ?) ไม่ค่ะ ไม่เกี่ยว ด้วยตัวเรื่อง องค์ประกอบอะไรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวเรื่อง มันมีที่มาที่ไปอยู่แล้วค่ะ สมัยนี้คนอายุ 15 ก็เป็นแม่ได้(หัวเราะ) มันขึ้นอยู่กับตัวเรื่องว่าเป็นมาเป็นไปอย่างไร ไม่เกี่ยวว่าอยู่ๆ ทำไมมาติดต่อเป้ยไปรับบทเป็นแม่ ถ้าเขาเห็นความสามารถของเป้ย เขาเห็นว่าเป้ยแล้วเขาคิดว่าเป้ยน่าจะเล่นได้ แค่นี้ก็พอ ขอให้มองแค่ตรงนี้"
- คุณอยากให้คนทั่วไปจดจำคุณในฐานะอะไรมากที่สุด?
"ก็แค่นักแสดงคนหนึ่ง ไม่มีอะไรมากมายค่ะ"
.................................
ภาพโดย วรงค์กรณ์ ดินไทย