“ลีเดีย-แมทธิว” ไม่สะท้าน ส่งทนายยื่นเซย์โนไกล่เกลี่ยหมอดู “กฤษณ์ คอนเฟิร์ม” หนีไปฝึกขับเครื่องบินหน้าตาเฉย ทั้งที่ตกเป็นจำเลยถูกฟ้องหมิ่นเรียก 100 ล้าน ศาลนัดพิพากษาตัดสิน 2 ต.ค.นี้ หมอดูดังยังยันไม่เคยพูดนักร้องสาวทำแท้ง หรือท้องไม่มีพ่อ ฟ้องเพราะเสียหายสูญรายได้ แต่หลังออกรายการกู้ชื่อ โวได้อัพค่าตัวและเดินทางไปต่างประเทศบ่อย
เกี่ยวกับกรณีที่หมอดูชื่อดัง “กฤษณ์ คอนเฟิร์ม” หรือนายศุภกฤษณ์ ปทุมศรีวิโรจน์ ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนักร้องสาว “ลีเดีย ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา” และแฟนหนุ่ม “แมทธิว ดีน” คดีหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และเรียกค่าสินไหมทดแทนความเสียหาย 100 ล้าน และศาลก็ได้นัดให้คู่ความทั้งสองมาไกล่เกลี่ยกันวันที่ 25 ก.ย.นี้ที่ศาลอาญา รัชดา
ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (25 ก.ย.) หมอดู “กฤษณ์ คอนเฟิร์ม” ได้เดินทางมายังศาลอาญา พร้อมกับทนายความส่วนตัว นายสาคร ศิริชัย ฟาก "ลีเดีย" กับแฟนหนุ่มกลับหายจ้อยไม่มาตามนัด เพราะติดฝึกขับเครื่องบินอยู่ที่โครงการบ้านหรู 40 ล้านของนักร้องสาว ทั้งคู่จึงส่งทนายความส่วนตัวมา เพื่อยื่นความประสงค์ไม่ขอไกล่เกลี่ยกับหมอดูคอนเฟิร์ม ทางศาลจึงได้นัดให้คู่ความทั้งสองมาฟังคำพิพากษาในคดีดังกล่าววันที่ 2 ต.ค.นี้ เวลา 13.30 น. ที่ศาลอาญา รัชดา
ภายหลังออกมาจากห้องพิจารณาคดี “กฤษณ์ คอนเฟิร์ม” และทนายความส่วนตัว นายสาคร ศิริชัย จึงได้เปิดใจให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยทนายความหมอดูดังเผยว่า ฝั่งจำเลยได้รับปากเป็นมั่นเหมาะว่าจะมาไกล่เกลี่ย แต่สุดท้ายไม่ยอมมา ยันจะสู้เต็มที่ ส่วนผลจะออกมาอย่างไรก็รับได้ทั้งนั้น
“วันนี้เดิมเป็นนัดไกล่เกลี่ย เนื่องจากวันที่ 16 ที่ผ่านมา ฝ่ายโจทก์คือหมอกฤษณ์ได้ทำการไต่สวนมูลฟ้อง ในส่วนพยานของเราเองเสร็จสิ้น ซึ่งผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนคดีนี้เอง ท่านเป็นผู้พิพากษาอาวุโสที่ศาลอาญา ก็ได้เรียกและบอกกับทั้งฝ่ายโจทก์คือหมอกฤษณ์ และฝ่ายจำเลยทั้งสองคือทนายจำเลยว่า ทั้งคู่เป็นคนมีชื่อเสียงในอนาคต ที่มีการฟ้องร้องกันไปมามันไม่เป็นผลดีต่อทั้งสองฝ่าย แล้วก็ต่อกระแสสังคม ศาลก็ขอความร่วมือหาทางไกล่เกลี่ยเจรจาตกลงกันได้หรือไม่ ฝ่ายเราเองก็ยินดี และรับปากว่าวันนี้จะพาฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยมีบิดามารดาของหมอกฤษณ์มาด้วย ทางฝ่ายทนายของคุณลีเดียเอง ก็ได้มีการโทรศัพท์ติดต่อกับทางคุณลีเดีย และก็รับปากว่าจะมาทำการไกล่เกลี่ยในวันนี้ แต่พอถึงวันนี้เขาไม่มาเอง เราก็ต้องต่อสู้คดีกันอย่างเต็มที่ แต่ในส่วนเราเองก็ไม่ได้ติดใจอะไร”
“ถามว่าศาลรับฟ้องคดีนี้หรือยัง อันนี้ยังให้ความเห็นไม่ได้ แต่ว่า ข้อเท็จจริงที่หมอกฤษณ์ให้สัมภาษณ์ไป เราได้นำเสนอศาลไปครบถ้วน เราต้องการให้ทราบว่าสิ่งที่เราพูดมีแค่ไหน มีขอบเขตแค่ไหน และสิ่งที่เขานำไปตีความมีขอบเขตอย่างไร ที่ให้บุคคลอื่นฟังแล้วเข้าใจแล้วก็สำคัญผิด หรือว่ามีความรู้สึกไม่ดี ส่วนผลออกมาอย่างไรเราก็รับได้ ไม่มีปัญหาอะไร ก็สู้กันไปว่ากันไป คดีนี้จะใช้เวลา 7 ปี”
“หลังจากวันนี้ศาลก็จะนัดฟังคำพิพากษาหรือคำสั่งในวันที่ 2 ต.ค.เวลา 13.30 น. ซึ่งผลออกมาเป็นยังไง ฝ่ายเราเองยินดีน้อมรับ การสู้คดีเราก็ต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรีเหมือนกัน แต่คำว่าศักดิ์ศรีนั้น การเจรจาการให้ความร่วมมือกับกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคม ต่อประชาชนที่นำคดีมาพึ่งอาศัยบารมีศาล เราก็ยินดีให้ความร่วมมือ ซึ่งผมในฐานะทนายความก็ทำงานอย่างเต็มที่ ตามข้อเท็จจริง ผลออกมาอย่างไรเราก็ต้องน้อมรับ”
ด้าน “กฤษณ์ คอนเฟิร์ม” ยังคงยืนยันไม่เคยพูดนักร้องสาวจะท้องไม่มีพ่อ หรือไปรีดลูกทำแท้ง ตนถูกอีกฝ่ายใส่ความพร้อมหมิ่นว่า ทุเรศ ใช้ชื่อผู้หญิงหากิน เลยต้องฟ้องกลับเพื่อกู้ศักดิ์ศรีคืน
“ที่ฝั่งเขาไม่มาวันนี้ ผมก็ไม่มีอะไรหรอก อย่างที่บอกจริงๆแล้วเราก็สอบสวนไปตามหลัก เรายืนยันว่าสิ่งที่เขาพูดนั้น ผมไม่ได้พูดตามนั้น คือเวลาที่ให้สัมภาษณ์ ผมสัมภาษณ์จากดวงชะตา ไม่มีคำเพิ่มเติมว่าจะท้องไม่มีพ่ออย่างนั้น จะท้องไม่มีพ่ออย่างนี้ รวมถึงเกี่ยวพันกับเมียน้อยหรือไปรีดลูกทำแท้ง มันไม่เกี่ยวกับคำทำนายผม ซึ่งผมไม่ได้พูด ที่ผมต้องฟ้องเพราะต้องการให้ประชาชนเข้าใจว่า ผมทำนายจากดวงชะตา ดวงที่นักข่าวถามผมว่าดวงนี้ท้องหรือไม่ท้อง ผมก็มีคำตอบเพียงว่าใช่หรือไม่ ท้องหรือไม่ท้อง ผมมีคำตอบเพียงสองอย่าง”
“เราก็ต้องเอาตามดวงชะตา คือดวงชะตาว่าตามนั้น ผมก็ว่าตามนั้น ทีนี้ประเด็นหลังจากที่ได้ออกไปแล้ว กลายเป็นว่ามีการออกหนังสือเป็นคำสัมภาษณ์ ไม่ว่าจะเป็นของทางฝ่ายของจำเลย หรือว่าฝ่ายของลีเดีย- แมทธิว ที่พูดในทำนองว่า ผมไปยืนพูดตอนไปออกรายการว่า เขาจะท้องไม่มีพ่อ แล้วก็โยงไปเป็นถึงเรื่องอย่างว่า รีดลูก ทำแท้ง ซึ่งผมเรียนตรงๆว่าคำพูดนี้ไม่ใช่คำพูดของผม”
“แล้วก็อยากจะบอกกับทุกคนคือ ที่ผ่านมาผมไม่เคยออกมาแก้ตัวว่า ตัวเองไม่ได้พูดคำนี้ แต่ประชาชนหลายคนเข้าใจกันว่า ผมพูดคำนี้ จะเรียนว่าผมทำนายจากดวง แล้วไอ้คำพูดที่หมิ่นประมาทว่า ผมสุดทุเรศ ใช้ชื่อผู้หญิงหากิน หรือมีความประพฤติต่ำที่สุดในโลก หรือในลักษณะที่ว่าไม่มีหลักการ มีคำพูดอีกหลายคำ ซึ่งไม่ได้นำมาฟ้อง ต้องเรียนว่าเยอะมาก”
“ผมเป็นคนที่ทำแล้วยอมรับในสิ่งที่ทำ เราก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าไม่ได้พูด แต่ผมพูดว่าจากดวงชะตาดวงนี้ ณ วันเดือนปีเกิดที่ให้มา ดวงนี้ท้องนะครับ ผมไม่ได้บอกว่าเขาจะท้องกับใคร ท้องยังไง แต่ที่ผ่านมาหลายคนพูดว่าผมไปพูดได้ยังไงเขาจะท้องไม่มีพ่อ พูดได้ยังไงว่าเขาไปเป็นเมียน้อย พูดได้ยังไงว่าเขาไปทำแท้ง ผมจะเรียนว่านั่นไม่ใช่คำพูดจากปากของผม แต่เป็นคำพูดของฝ่ายไหนผมก็ไม่ทราบ ผมก็เลยนำมาฟ้องว่าผมไม่ได้พูด ผมถือว่าข้อความนี้เป็นการใส่ความ เป็นการกล่าวความเท็จ ซึ่งจะเป็นยังไงนั้นก็ต้องต่อสู้กันไป อย่างที่บอกครับว่ายาว”
รับช่วงแรกสูญรายได้มหาศาล แต่หลังจากกู้ชื่อด้วยการโชว์ความแม่นในการทำนายผ่านรายการต่างๆ โวมีลูกค้าเพิ่มจนกล้าอัพค่าตัว และไปต่างประเทศบ่อยจนแอร์ฯ จำหน้าได้
“ตอนแรกลูกค้าลดลงเละเลย ผมไม่ได้ฟ้องอะไร ผมฟ้องเพราะเสียหาย ซึ่งเรากำลังจะไปได้ดี แต่ว่าโดนเหตุการณ์อย่างนี้ ช่วงแรกเสียหายมาก แต่ตอนนี้พอดีขึ้นมาแล้ว ความเชื่อถือของเราก็กลับมาดีมากเหมือนเดิม จะมีเกี่ยวข้องกับพวกต่างประเทศ คือมีลูกค้าจากเยอรมัน ฮ่องกง สิงคโปร์ รวมถึงกำลังจะไปอิตาลี ในการที่จะไปดูสถานที่ในการสร้างสิ่งใหญ่ๆ ให้กับประเทศของเขา ซึ่งประเทศเขาให้ผมไปทำนายให้”
“อย่างที่บอกความจริงเป็นสิ่งไม่ตายอยู่แล้ว ผมพูดทุกอย่าง พูดจากดวงชะตา จะถูกหรือผิดไม่รู้ แต่ที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นการออกรายการ หรือรายการที่เราไปทายดวง ประชาชนส่วนใหญ่ก็รับทราบว่ามันเป็นความจริง แล้วมันมีความแม่นยำอยู่ในระดับไหน ล่าสุดผมทายเรื่องคุณมดดำ (คชาภา ตันเจริญ) วันที่ไปเจอตอนอัดรายการตีท้ายครัว ผมก็ยังพูดว่า พี่จะเจออุบัติเหตุนะ แล้วเขาก็เกิดขึ้น หรือตอนที่ผมทายชื่อดาราอักษร ว จะเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งผมก็ไม่ทราบว่าเป็นใครนะ ตอนแรกก็ปักใจว่าจะเป็นพระเอก ก็น่าจะเป็นคุณเวียร์ (ศุกลวัฒน์ คณารส) ซึ่งสื่อก็ตีความอย่างนั้น แล้วผลมันก็เป็นความจริง”
“ดาราทุกคู่ที่ผมได้ทำนายก็แต่งงานกันทุกคน ทายล่วงหน้าบางคน 2-3 ปีก็ได้แต่งตามที่ผมบอก รวมถึงการที่ไปออกรายการต่างๆผมต้องบอกว่ามันทำได้ยาก ยืนยันว่าไม่มีใครกล้าทำแบบผม ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งการันตีทำให้ผมมีรายได้อยู่ในเกณฑ์ดี และได้อัพค่าตัวขึ้น ตอนนี้ผมเน้นทำงานในเมืองไทยและต่างประเทศ ผมได้ไปต่างประเทศบ่อย ขึ้นเครื่องบินซะจนแอร์โฮสเตสจำได้แล้ว”
