"เอมี่" แย้มโปรเจ็กต์ปีหน้าเปิดโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ พร้อมดึงแฟนหนุ่ม "ซี ศิวัฒน์" เข้าร่วมหุ้น บอกเป็นสิ่งที่ตนเองถนัดและอยากทำมานาน เผยไม่หวั่นอาถรรพ์รักร้าวหากทำธุรกิจกับแฟน แง้มความลับที่ไม่เคยบอก “ซี” อยากแต่งงานแล้ว แต่เข้าใจทุกอย่างยังไม่ลงตัว เลยขอผลัดผ่อนไปก่อน
เป็นคู่รักสุดหวานอีกคู่ที่บ่มรักกันมายาวนาน 5 ปีแล้ว สำหรับนางเอกสาว “เอมี่ กลิ่นประทุม” กับแฟนหนุ่มมาดกวน “ซี ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์” ที่ล่าสุดไม่เพียงแต่จะเป็นหุ้นส่วนหัวใจ ทั้งคู่ยังเตรียมเป็นหุ้นส่วนชีวิตทำธุรกิจโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษร่วมกัน โดยรายละเอียดในเรื่องนี้ “เอมี่” เผยว่าเป็นโปรเจ็กต์ที่เธอใฝ่ฝันอยากทำมานานแล้ว และเป็นสิ่งที่ตนเองถนัด คาดปีหน้าคงได้เริ่มทำให้เห็นเป็นรูปเป็นร่าง
“จริงๆ ยังไม่อยากพูดเพราะยังไม่แน่นอน แค่คิดไว้เฉยๆ ด้วยความที่ยังมีละครเข้ามา ยังไม่มีเวลาเข้าไปลุยตรงนั้น แต่ก็คิดว่าปีหน้าน่าจะพร้อม เราอยากทำอะไรที่ถนัด และอยากทำอะไรใหม่ๆด้วย ก็ไม่รู้จะทำกับใครก็ต้องทำกับคุณซีนี่แหละ จะทำเกี่ยวกับโรงเรียนภาษาอังกฤษ หรืออาจจะเป็นแคมป์ ตอนนี้ยังไม่แน่ใจว่าจะออกมาในรูปแบบไหน แต่ก็ได้คุยๆไอเดียกันไว้บ้างแล้ว คือเราไม่ได้คุยกันสองคน ก็ได้คุยกับทางโรงเรียนไว้ด้วย แต่ส่วนใหญ่เขาจะให้เราทำหมด เท่าที่คิดไว้ก็อยากจะทำเล็กๆก่อน”
“ตอนนี้ก็ได้คุณแม่เป็นที่ปรึกษา เพราะคุณแม่เป็นครูก็จะมีลูกศิษย์อยู่แล้ว ส่วนภาษาอังกฤษเราก็ถนัด แฟนๆของเราก็จะเด็กๆเยอะ เลยรู้สึกว่าอยากจะให้ความรู้ภาษาอังกฤษกับเด็กๆในแนวที่สนุกสนาน ไม่อยากให้เครียด เรารู้ว่าภาษาอังกฤษเป็นสิ่งที่จำเป็นเลยอยากลองทำดู สไตล์ที่คิดไว้คงไม่ให้เด็กๆมานั่งเรียนแต่ในห้อง ก็จะสนุกสนานเป็นแคมป์ๆ ด้วย เอมี่ก็อาจจะสอนเองด้วย ส่วนเรื่องงบประมาณยังไม่เคยคิดไว้ ตอนนี้อาจต้องคิดเรื่องหลักสูตรก่อน ยังไม่แน่ใจว่าจะสามารถเริ่มได้เมื่อไหร่ ต้องรอดูเรื่องละครให้ทุกอย่างลงตัวก่อน”
“จริงๆ แล้วช่วงนี้ยังไม่อยากรับงานละครเลย เพราะอยากทำด้านนี้มานานแล้ว แต่มันยังอดไม่ได้ ตอนนี้เรายังมีงานละครก็ทำก่อน ค่อยๆศึกษาไปก่อนให้มันแน่นๆ แล้วค่อยทำ อย่างงานในวงการมันเป็นอะไรที่เราทำมานานแล้วชอบ มีความสุข แต่เราอยากลองทำอย่างอื่นบ้าง เรื่องนี้ยังไม่ได้ปรึกษาผู้ใหญ่ทางช่อง เพราะมันยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง”
เผยแฟนหนุ่มขอร่วมหุ้นทำธุรกิจด้วย มั่นช่วยกันเข็นธุรกิจไปรอด ไม่เชื่อจะทะเลาะจนทำให้เลิกกันเหมือนคู่รักอื่นๆ
“คุณซีหุ้นด้วยอยู่แล้ว เขาจะช่วยเป็นที่ปรึกษาในเรื่องของการทำธุรกิจ ก็จะเป็นคนที่โอเคที่สุด ด้วยความที่เรารู้ว่าเขาเป็นคนยังไง เรื่องการทำงานและเวลา มีอะไรจะได้คุยกันง่ายขึ้น ช่วยกันดูแล คงไปไหนไม่รอดแล้ว (หัวเราะ) แล้วอาจจะมีน้าของเอมี่ร่วมด้วย คือตอนแรกเอมี่ไม่คิดที่จะชวนเขา แต่เขาบอกว่าอยากลองทำด้วย ก็เลยเอ้า....ทำด้วยกัน เพราะถึงเราทำคนเดียวเขาก็ต้องมาช่วยเราอยู่แล้ว”
“มีคนบอกว่าทำธุรกิจร่วมกันแล้วอาจจะเลิกกันได้ เอมี่ไม่กลัวนะ เพราะการที่เราจะทำธุรกิจกับใครสักคน ถ้าเราได้ทำกับคนที่รู้จักเราดีที่สุด มันก็น่าจะเป็นไปได้ด้วยดี คิดว่าเรื่องทะเลาะกันคงไม่มี คงน่าจะช่วยกันมากกว่า คือเราถนัดกันคนละอย่าง ก็ให้เขาช่วยอย่าง เราทำอย่าง การที่เราได้ทำอะไรร่วมกัน เจออะไรใหม่ๆด้วยกัน มันจะทำให้เรายิ่ง รักกันมากขึ้น ทำให้เราเจอปัญหาด้วยกัน ช่วยกันแก้ด้วยกัน เราต้องเรียนรู้ซึ่งกันและกัน มันก็อาจจะทำให้อนาคตดีขึ้น”
ไม่หวั่นเลขอาถรรพ์รักล่ม 5 ปี ยันฝ่ายชายยังทำตัวเสมอต้นเสมอปลาย ไม่เคยออกลายเจ้าชู้ให้จับได้สักครั้ง
“จริงๆแล้วเขาไม่ใช่คนที่เจ้าชู้ แต่ก่อนหน้านี้เป็นยังไงไม่รู้ พอเขาคบเรา เขาก็ไม่เคยมีเรื่องอะไรให้เราปวดหัวหรือหึงเลย ก็ดีค่ะ เขายังเหมือนเดิมเสมอต้นเสมอปลาย อาจเป็นเพราะเราเริ่มต้นจากความเป็นเพื่อนกัน มันเป็นแนวเพื่อนไม่ได้สวีทหวานแหวว ก็มีแกล้งกัน กวนกันด้วย เป็นตัวของตัวเองกันมาก เขาก็ไม่เคยนอกลู่นอกทางให้จับได้นะ (หัวเราะ) เท่าที่รู้ก็ไม่มีอะไรเลย”
“ เราเจอกันเกือบทุกวัน ด้วยความที่เขาไม่ค่อยได้ไปไหน ถ้าไม่ถ่ายละครก็เล่นเกมส์อยู่บ้าน แต่เขาจะหยุดอยู่ที่เราไหม อันนี้ต้องไปถามเขา แต่สำหรับเราเขาก็โอเคแล้ว ก็รู้สึกว่าเป็นคนที่เราคบแล้วรู้สึกโอเคที่สุด เขายอมรับในตัวเราทุกอย่าง เป็นคนมุ่งมั่นทำงาน พ่อแม่เราก็แฮปปี้ดี ถ้าเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ก็น่าจะโอเค เรื่องอาถรรพ์ไม่กลัว มันเป็นอาถรรพ์ทุกปี ซึ่งตอนนี้ก็เข้าปีที่ 5 แล้ว”
แย้มใจจริงอยากวิวาห์ แต่เก็บเป็นความลับไม่เคยบอกแฟนหนุ่ม โต้ถ้าแต่งเมื่อไหร่จะหันหลังให้วงการทันที
“ยังค่ะ อันดับแรกคือยังไม่แต่งงาน อันดับสองยังไม่อำลาวงการ ก็เหมือนตอนนี้ทำงานกันไปก่อน เรื่องแต่งงานก็ยังเหมือนเดิม มีแต่คนถามแต่ตอนนี้เรายังไม่พร้อม เอาไว้ถ้าพร้อมเมื่อไหร่เดี๋ยวจะบอกอีกที เราอยากให้อะไรๆมันลงตัวก่อน เรื่องแต่งงานจะแต่งเมื่อไหร่ก็ได้ ตอนนี้มันมีหลายเรื่องทั้งเรื่องงาน ธุรกิจ แล้วไหนคุณซีจะบวชอีก ก็ยังไม่ลงตัว”
“ถามว่าใจจริงอยากแต่งไหมก็อยากแต่ง แต่พอถึงเวลาแล้วจะยังก่อนก็ได้ เราอยากแต่งแต่ยังไม่บอกซี เก็บไว้เป็นความลับ (หัวเราะ) เรารู้สึกว่าการแต่งงานมันเป็นเรื่องใหญ่ เพราะฉะนั้นเราทำธุรกิจ ทำงานให้เต็มที่กับตัวเองก่อน แล้วค่อยคิดที่จะสร้างครอบครัวดีกว่า ตอนนี้เราคบกันก็ยังแฮปปี้อยู่ ส่วนพ่อแม่ก็ไม่มีใครเร่ง เขาตามใจอยู่แล้ว เพราะเขารู้ว่าตอนนี้ต่างคนก็ยังไม่พร้อม เขารู้ว่าพวกเรากำลังทำงานกันอยู่”
