“เป้” สารภาพส่อแววชวดเล่น “สะบายดีหลวงพะบาง2” เหตุเคยปากพล่อย พูดเอาใจแฟน “ก้อย” ชมสาวไทยสวยกว่าสาวลาว จนถูกแอนตี้ เอ่ยปากขอโทษสาวลาวอีกครั้ง รับเสียดายที่อดเล่น และเห็นใจทีมงานที่ต้องชะลอโปรเจกต์ เพื่อหาพระเอกใหม่มาแสดงแทนตน
เคยออกมาปฏิเสธว่า สาเหตุที่โปรเจกต์หนัง “สะบายดีหลวงพะบาง 2” ที่ตนได้ขึ้นแท่นเป็นพระเอกแสดงนำ ต่อจากหนุ่มมาดเซอร์ “อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม” มีอันต้องเบรกชั่วคราว ไม่เกี่ยวกับที่ตนปากพล่อย ไปพูดชมสาวไทยสวยกว่าสาวลาว แต่พอถูกสื่อซักมากๆเข้า สุดท้าย “เป้ อารักษ์ อมรศุภศิริ” ก็จนมุม ยอมคายความจริงออกมาว่า ปากพาจนของตนได้ส่งผลกระทบ ทำให้หนังเรื่องดังกล่าวต้องชะลอการถ่ายทำ และอาจมีการเปลี่ยนตัวพระเอกใหม่ ซึ่งตนก็เข้าใจและอยากขอโทษสาวลาวอีกครั้ง
“เรื่องข่าวที่เกิดขึ้นก็มีส่วนเกี่ยวทำให้เขาต้องชะลอโปรเจกต์ ซึ่งเรื่องนี้ผมก็ต้องขอโทษจริงๆ คือผมไม่ได้ตั้งใจจะพูดอะไรอย่างนั้น ที่ออกมาพูดมันแค่เป็นการบอกปัดข่าวว่า ผมไม่มีปัญหากับก้อย (รัชวิน วงศ์วิริยะ แฟนสาว) หรอกแค่นี้เท่านั้น ผมรู้สึกเสียใจจริงๆ เราไม่น่าพูดอะไรอย่างนั้นออกไป"
"เพราะมันเป็นเรื่องที่เซ้นซิทีฟมาก สิ่งที่ผมทำได้ก็แค่ขอโทษ การที่จะย้อนเวลากลับเพื่อที่จะถ่ายในช่วงเวลานั้นอีก มันคงทำไม่ได้แล้ว ผมก็รู้สึกเสียใจ ถ้าเขาจะหาพระเอกใหม่แล้วเวิร์คกับหนัง ผมว่ามันก็เป็นเรื่องที่ดี และเป็นเรื่องที่เข้าใจได้มากๆเลย”
“ตอนนี้เขาพักตัวผมไว้ก่อน แต่โปรเจกต์อาจจะเคลื่อนที่ใหม่ โดยการเปลี่ยนคนก็ได้ เพราะตอนนี้ผมไม่มีคิวเหลือแล้ว คิวผมถูกล็อคมานานและจะยาวไปถึงปลายปี ซึ่งถ้าเขาจะเริ่มถ่ายหนังตอนนี้ ก็คงต้องเปลี่ยนตัวนักแสดง ตอนแรกผมเทคิวให้เขาไปหมดเกือบ 20 กว่าวัน โดยที่ผมเดินทางไปอยู่ที่นั่นเลย เพราะอยากจะกลับไปเที่ยวที่ลาวอีกครั้ง แต่พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ที่มันพลาดไป ผมเลยไม่รู้ว่าทีมงานจะถ่ายกันอีกเมื่อไหร่”
เสียดายที่ชวดเล่นหนังเรื่องดังกล่าว บอกเห็นใจทีมงานที่ต้องเบรกงานเพราะตน ลั่นต่อไปจะระวังเรื่องคำพูดให้มากขึ้น
“ผมทั้งเสียใจและเสียดาย แต่มันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ ตัวเราเองไม่ได้เสียหายอะไรมาก แต่ทีมงานจะต้องชะลอการทำงานไปด้วย เพราะเราเป็นสาเหตุ ผมก็รู้สึกเสียใจและรู้สึกเครียด เราเห็นใจทีมงานมากกว่า แต่ตอนที่ไปปฏิกิริยาของทีมงานที่มีต่อเราดีมาก ส่วนปฏิกิริยาของคนลาวเองก็โอเค คือผมไปเดินตลาดที่ปากเซ เขาก็มาขอถ่ายรูปกันทั้งตลาด ไม่มีใครเกลียดเราเลย”
“ผมก็ได้อ่านเว็บบอร์ดที่ทำให้เกิดข่าวนี้ขึ้นมา ก็ไม่มีคนเข้ามาว่าอะไรมากมาย มันไม่ได้เป็นประเด็นอะไรที่ยาวยืด 20 กระทู้ยังไม่ถึงเลย คือในส่วนของคนลาวเอง ผมก็ไม่รู้ว่าเขาคิดมากรึเปล่า แต่ที่ผมได้เจอมันไม่ใช่ ส่วนตัวผมต่อจากนี้ไป จะพูดอะไรคงต้องระวังมากขึ้น”