“ชมพู่” ยันไม่เคยรังเกียจ “ตุ๊กกี้” เข้าแก๊งตุ๊กตาบลายธ์ บอกยินดีจะได้ช่วยตนโปรโมต เชื่อตลกสาวไม่เข้าใจผิด พร้อมป้องแฟนคลับไม่เคยไปต่อว่าอีกฝ่าย บอกสื่อเล่นข่าวแรงทำให้เสียความรู้สึก และอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ในการทำธุรกิจได้
ดูเหมือนจะเป็นข่าวที่ทำให้เจ้าแม่ตุ๊กตาบลายธ์อย่าง “ชมพู่ อารยา เอฮาร์เก็ต” เหน็ดเหนื่อยและห่อเหี่ยวใจไม่น้อย หลังโดนข่าวโจมตีรวมหัวกับเพื่อนซี้ “แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์” ไม่รับตลกดาวรุ่ง “ตุ๊กกี้ ชะชะช่า” เข้าแก๊งคนรักตุ๊กตาบลายธ์ แถมตอกกลับแรง หน้าอย่างนี้เหมาะเล่นตุ๊กตาผีมากกว่า
ซึ่งก่อนหน้านี้สาว “แตงโม” ได้ออกมาฉะ และแก้ตัวด้วยอารมณ์โมโหฉุนเฉียวไปแล้วว่า เป็นการกุข่าวที่ไม่มีมูล ทีนี้ถึงคราวเจ้าแม่ตุ๊กตาบลายธ์ตัวจริงอย่าง “ชมพู่” บ้าง ที่ขอเคลียร์เรื่องดังกล่าวว่า
“เป็นข่าวไม่มีมูลเลยค่ะ โดยส่วนตัวชมไม่เคยเจอพี่ตุ๊กกี้ แต่เคยเห็นในทีวี เคยได้ติดตามผลงานพี่เขา แต่ไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัว ชมเองก็พอจะทราบว่า พี่เขาก็เป็นสาวกของตุ๊กตาบลายธ์ ซึ่งอันนี้ตามความรู้สึกที่แท้จริงจากก้นบึ้งของจิตใจเลยคือ ยินดีและดีใจในฐานะที่เราเป็นคนรักบลายธ์ด้วยกัน และในฐานะที่เราเป็นคนที่ค้าขาย เราก็ดีใจที่พี่เขาชอบบลายธ์”
“ถึงแม้พี่เขาจะซื้อร้านชมหรือไม่ก็ตาม ชมก็ดีใจ เพราะว่าดารามาเล่นบลายธ์กันเยอะ ก็เหมือนกับเป็นการโปรโมต ชมไม่ได้รู้สึกว่าพี่เขาเป็นอะไรแบบนี้ ไม่เคยคิดว่าจะต้องแบ่งชนชั้น ก็งงมากว่าข่าวออกมาได้ยังไง ชมก็ถามน้องโม โมก็งงมากเหมือนกันว่า มันออกมาได้ยังไง เพราะมันไม่มีมูลเลยค่ะ”
เผยไม่จำเป็นต้องเคลียร์ตลกสาว เชื่อคงไม่เข้าใจผิดตามข่าว
“ชมหวังว่าพี่เขาจะไม่เข้าใจผิดนะคะ เท่าที่ชมทราบมา มีคนไปสัมภาษณ์พี่ตุ๊กกี้มาเหมือนกัน รู้สึกทางนั้นจะบอกว่า ลองไปเช็คข่าวให้ดีก่อนดีไหมว่า น้องพูดจริงหรือเปล่า ซึ่งตรงนี้ชมขอพูดผ่านสื่อเลยว่า ชมคงไม่มีโอกาสได้ไปเจอกับพี่เขา เพราะไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัว แต่อยากบอกว่าชมไม่เคยรู้สึกอะไรแบบนั้นเลย”
“ชมดีใจที่พี่ตุ๊กกี้รักบลายธ์ และรู้สึกดีใจทุกครั้งที่ได้ยินข่าวว่ามีดารา หรือคนในวงการคนไหนเล่น ชมยังไม่มีโอกาสได้เคลียร์อะไรใดๆ ทั้งสิ้นกับพี่ตุ๊กกี้ ก็หวังว่าพี่ตุ๊กกี้จะเข้าใจ เท่าที่ได้ข่าวมีฟีดแบคกลับมา พี่เขาก็ไม่ได้ปักใจเชื่อข่าว”
โต้แทนแฟนคลับเป็นต้นตอไปต่อว่าตลกรุ่นพี่ พร้อมวอนสื่ออย่านำเสนอข่าวตนแรงเกินไป
“เรื่องแฟนคลับยิ่งเป็นไปไม่ได้เลยค่ะ เพราะคนที่เป็นแฟนคลับชมจริงๆ ถ้าเรามีโอกาสเจอน้อง ชมจะบอกตลอดเลยว่า เราจะไม่วิจารณ์ใคร จะไม่ว่าใคร ถึงแม้บางทีมีคนอื่นมาว่าชม ชมก็จะบอกกับแฟนคลับว่าไม่ต้องไปว่าเขาตอบ ให้เราอยู่ของเราเฉยๆ ดีกว่า ถ้าเป็นเด็กในคลับชมจริงๆ จะไม่เป็นแบบนั้นแน่นอน ชมค่อนข้างแน่ใจ”
“ตอนแรกในข่าวบอกว่าเป็นแฟนคลับชม แต่พอเช็คไปเช็คมาบอกว่า ข่าวนี้มาจากปากชมเอง ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้มันก็แรงเหมือนกัน คือใครจะพูดอะไรก็พูดได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นชมอยากจะขอความกรุณาจากพี่ๆ สื่อ คือเราทำงานร่วมกันทุกๆ วัน และที่ผ่านมาชมก็รู้สึกดีกับทุกคน และจะให้ความร่วมมือเท่าที่ชมจะให้ได้ บางทีถ้ามีประเด็นก็เล่นชมเบาๆ หน่อย อยากให้เป็นอย่างนั้นมากกว่า มันจะได้ไม่เสียความรู้สึก”
“เรื่องนี้ก็ถือว่าแรงนะ ถ้ามันกระทบชมคนเดียวก็ไม่เท่าไหร่ เพราะเราชินแล้ว แต่ว่าเรื่องนี้มันกระเทือนความรู้สึกหลายคน สรุปแล้วเรื่องทุกอย่างไม่มีมูลเลยค่ะ แล้วถ้านึกถึงหลักความจริงว่า ชมเองก็เป็นแม่ค้า ชมจะทำแบบนั้นทำไม ของชมยิ่งขายได้ชมก็ยิ่งดีใจ”
เชื่อข่าวไม่มีผลกระทบกับธุรกิจ แต่อาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ ทำให้เจ้าของธุรกิจจากต่างประเทศมองเธอในทางที่ไม่ดีได้
“ข่าวนี้อาจจะไม่ได้สร้างเสียหายกับทางร้านโดยตรง ชมคิดว่าประชาชนน่าจะมีวิจารณญาณ และสามารถแยกแยะได้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าสื่อถามมากๆ คนอาจจะมีแนวโน้มมองชมไปในทิศทางตามที่ข่าวว่าก็ได้ ซึ่งชมเองก็ไม่อยากจะให้เป็นแบบนั้น ก็อยากให้มีความปรานีชมนิดนึง เวลามีข่าวอะไรแรงๆชมก็เสียความรู้สึกเหมือนกัน”
“อีกอย่างถ้าทางต่างประเทศที่เป็นเจ้าของธุรกิจ เกิดมาอ่านข่าวเจอแบบนี้ เขาอาจเกิดความรู้สึกที่ไม่ดีกับเรา ในฐานะที่เราเหมือนกับเป็นหน้าเป็นตาของสินค้าเขาที่มีอยู่ในเมืองไทย ซึ่งมันก็อาจจะอธิบายกันยากกว่าคนไทยอธิบายกันเอง ชมพูดตรงๆว่า บ้านเรามีคนที่ดูแลภาพลักษณ์ของสินค้าอยู่ ชมก็ไม่อยากจะให้มีอะไรมากระทบเลยค่ะ”