“เปิ้ล นาคร” สละโสดกับ “น้องจูน” แล้ว ใจป้ำเซ็นเช็คให้ฝ่าหญิงกรอกตัวเลขเอง เจ้าสาวสุดตื้นตันน้ำตาไหลพรากขณะสวมแหวน ก่อนเปิดใจซ้อมสวมแหวนมาก่อนกันพลาด กลัวไม่มีลูกเหมือนเพื่อนซี้ “วิลลี่” โชว์ความฟิตปั๊มลูกที่เรือนหอราคากว่า 20 ล้านทันทีตามหมอสั่ง เผยอยากมีลูกครึ่งคอก 6 คนเพศไหนก็ได้ ลั่นเมียไม่ใช่หมา หลังแต่งไม่กลัวแต่เกรงใจมากกว่า
พิธีกรอารมณ์ดีรายการ “สาระแนจัง” และหนึ่งในผู้บริหารบริษัทลักษ์ 666 จำกัด “เปิ้ล นาคร ศิลาชัย” วัย 44 ปี ได้ถือฤกษ์ดีวันที่ 9 เดือน 9 ปี 2009 จูงแฟนสาว “จูน กษมา มยุรมาศ” วัย 27 ปี ที่คบหากันมานาน 7 ปี เข้าพิธีหมั้นหมาย และจดทะเบียนสมรสกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาที่โรงละครโจหลุยส์เธียเตอร์
โดยพิธีการเป็นไปอย่างเรียบง่ายตามแบบประเพณีไทย เริ่มจากขบวนขันหมากของเจ้าบ่าว ได้เริ่มแห่เคลื่อนกันไปเวลา 07.45 น. มีกลุ่มเพื่อนซี้ของเจ้าบ่าว “วิลลี่-เยลหลี แมคอินทอช”, “หอย เกียรติศักดิ์ อุดมนาค” และ “แหม่ม คัทลียา พร้อมลูกชาย น้องแมค” เข้าร่วมขบวน และร้องไชโยโห่ฮิ้วตามไปด้วยตลอดทาง กระทั่งมาถึงประตูเงินประตูทอง กว่าเจ้าบ่าวจะผ่านด่านกั้นประตูทั้งหมดได้ เล่นเอาเหงื่อแทบตก ใช้เวลาไปนานพอสมควร
จากนั้น “วิลลี่-หอย-แหม่ม” ได้แท็คทีมเป็นพิธีกร สัมภาษณ์คู่บ่าว-สาวบนเวที ก่อนเข้าสู่ช่วงพิธีการคู่บ่าว-สาวได้เข้าไปกราบและขอพรจากผู้ใหญ่ ซึ่งนอกจากสินสอดทองหมั้น ประกอบด้วยเงินสด ทอง และเครื่องเพชร ที่เตรียมมาแล้ว เจ้าบ่าวยังใจป้ำเซ็นเช็คไม่ใส่จำนวนตัวเลข ยกให้แม่เจ้าสาวเพิ่มอีกด้วย
เมื่อถึงฤกษ์ 09.09 น. คู่บ่าว-สาวต่างบรรจงสวมแหวนให้แก่กัน ทำเอา “น้องจูน” ถึงกับน้ำตาไหลเพราะรู้สึกตื้นตัน จากนั้นทั้งคู่ได้จดทะเบียนสมรส ต่อหน้านายทะเบียนเขตบางรัก ท่ามกลางบรรยากาศชื่นมื่นและสนุกสนาน ทั้งนี้ในส่วนของเหล่าเพื่อนพ้องในวงการที่มาร่วมแสดงความยินดีกับคู่บ่าว-สาวมีอาทิ “มาริโอ้ เมาเร่อ”, "โก๊ะตี๋ อารามบอย", “เต็ม วุฒิสิทธิ์ สืบสุวรรณ” และ“หญิง รฐา โพธิ์งาม”
ภายหลังเสร็จสิ้นพิธีการ คู่บ่าว-สาวป้ายแดงได้จูงมือกันมาเปิดใจกับสื่อมวลชน โดย “น้องจูน” บอกว่า รู้สึกตื่นเต้นจนนอนไม่ค่อยหลับ ส่วน “เปิ้ล นาคร” กล่าวว่าตื่นเต้นเหมือนกำลังรับปริญญาอีกใบ คิดว่าฤกษ์วันนี้ดีที่สุดแล้ว ตายไปคงหาไม่ได้อีก
จูน : “ตอนแรกรู้สึกตื่นเต้น เมื่อคืนนอนหลับได้ไม่เยอะแค่ 4-5 ชั่วโมงเอง แต่ตอนนี้รู้สึกสบายใจขึ้น แต่ต่อไปคงจะรู้สึกตื่นเต้นมากกว่านี้ เพราะเดี๋ยวต้องใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน”
เปิ้ล : “เมื่อคืนผมนอนหลับไปแค่ 3 ชั่วโมง ไม่ได้ตื่นเต้น แต่ตื่นมาเพราะปวดปัสสาวะ ความรู้สึกวันนี้ก็รู้สึกดีใจ ตื่นเต้นรองจากรับปริญญาตอนจบมหาวิทยาลัย นี่ก็เหมือนกำลังรับปริญญาอีกใบ แต่เป็นปริญญาทางธรรมชาติ ที่เขาสร้างให้เรามาเจอกัน และมาผสมพันธุ์กัน เพื่อที่จะได้สร้างมนุษย์ให้เกิดมาบนโลกอีก นั่นเป็นหน้าที่ของสิ่งมีชีวิตอย่างเรา เพราะฉะนั้นวันนี้ก็ได้ทำหน้าที่นี้ตามที่พระเจ้าสั่ง และประทานให้เราเกิดมาคู่กันแล้ว”
“ที่เลือกวันนี้เป็นวันหมั้น เพราะเพื่อนบอกว่ามีวันที่ 9 เดือน 9 ผมก็อ้าว..มีวันนี้ด้วยเหรอ จริงๆ ผมคิดไว้เป็นปีแล้วว่า งานแบบนี้น่าจะเกิดขึ้น แต่เรายังไม่รู้ว่าฤกษ์คือวันไหน ก็เลยให้เลขาไปหาฤกษ์ หาไปหามาพอได้วันนี้ก็ไม่ต้องหาแล้ว เพราะคิดว่าฤกษ์นี้เป็นวันที่ดีมาก วันที่ 9 เดือน 9 ปี 2009 รัชกาลที่ 9 แล้วก็ 09.09 น. ผมว่าตายไปก็หาฤกษ์นี้ไม่ได้แล้ว”
แอบแซวเพื่อนซี้ “วิลลี่” ที่สวมแหวนพลาดตอนแต่งงาน บอกตนซ้อมมาก่อนเป็นอย่างดี เพราะกลัวไม่มีลูกเหมือนกัน แย้มเพิ่งจูงภรรยาไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล พร้อมเตรียมปั๊มลูกคืนนี้ตามหมอสั่ง
เปิ้ล : “ตอนสวมแหวนผมไม่สั่นเลย เพราะเรามีประสบการณ์จากเพื่อนที่สวมพลาดมาก่อน ขนาดสวมแหวนยังพลาด ถึงได้ไม่มีบุตรจนถึงทุกวันนี้ เราก็ซ้อมมาเพื่อไม่ให้พลาดครับ สวมปุ๊บก็จะได้มีลูกได้เร็วๆ”
“ส่วนสินสอดก็อย่างที่เห็น ไม่ได้มากสำหรับคนรวย แต่มันก็มากสำหรับฐานะอย่างเรา ถามว่าทองหนักเท่าไหร่ จำไม่ได้เพราะยืมเขามา ส่วนแหวนเป็นแหวนหมั้นเฉยๆ เรายังไม่ได้นับกะรัตอะไร เพราะเดี๋ยวจะไปหนักเอาตอนงานฉลองสมรสอีกทีหนึ่ง คาดว่าน่าจะอีกประมาณ 2-3 ปี ยังไม่ทราบ เดี๋ยวลูกติดมาเมื่อไหร่ ก็คงคำนวณได้ว่าจะแต่งเมื่อไหร่”
“เพราะเพิ่งไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลมา เตรียมพร้อมก่อนมีบุตร ซึ่งหมอก็บอกว่าเปิ้ลแข็งแรง จูนก็พร้อมที่จะได้แล้ว (ยิ้ม) คืนนี้ก็ทำตามที่หมอสั่งครับ หมอบอกว่าเริ่มได้แล้วก็คงไม่อายกัน ก่อนหน้านี้ก็ต้องมีเริ่มไปบ้างเป็นเรื่องธรรมดา แต่เราก็ป้องกัน คงไม่ใช่แบบว่าค่อยมาฟึดๆ กัน (หัวเราะ) ลูกคนแรกจะเป็นหญิงหรือชาย เป็นตุ๊ดก็ได้ ได้หมด ส่วนจะมีกี่คนมันกำหนดไม่ได้ ถ้าเป็นไปได้สักครึ่งคอก 6 คนกำลังเจ๋งดี”
จูน : “ส่วนจูนยังไงก็ได้ แต่ตัวจูนอยากมีแค่สองคนพอ”
เผยเหตุจัดงานเลี้ยงฉลองแต่งงานตอนลูกโต เนื่องจากเคยเห็นลูกเพื่อนร้องไห้ ที่ไม่ได้ถ่ายภาพอยู่ร่วมวันสำคัญของพ่อแม่
เปิ้ล : “มันเป็นสิ่งที่ตัวเองคิดมาตั้งแต่ตอนเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว เพราะเราไปเที่ยวบ้านเพื่อน และมีลูกเพื่อนไปเปิดอัลบั้มพ่อแม่เขาดู แล้วก็ร้องไห้ว่า ทำไมไม่มีรูปหนูในงาน ทำไมหนูไม่อยู่ นี่เป็นวันอะไร พ่อแม่ก็บอกว่า เป็นวันที่พ่อแม่มีความสุขที่สุดเลย เท่านั้นแหละลูกร้องไห้ เราก็เลยคิดตั้งแต่ตรงนั้นเป็นต้นมาว่า เออว่ะ..สังคมบอกว่าวันนี้เป็นวันสำคัญ มันก็คงไม่แปลกหรอก ที่คนที่สำคัญกว่าจะอยู่ในวันนั้นด้วย ซึ่งผมก็ได้คุณแม่ของจูนเข้าใจ ส่วนตัวจูนเองก็โอเค ถ้าไม่โอเคสิหนาว”
จูน : “ถ้าไม่โอเค คงไม่มาถึงตรงนี้หรอกค่ะ”
แย้มแพลนฮันนีมูนจะขับรถที่ให้เป็นของขวัญเจ้าสาว เที่ยวทั่วเมืองไทย ส่วนเรือนหอราคากว่า 20 ล้าน ก็เตรียมพร้อมรอท่าไว้แล้ว
เปิ้ล : “เรื่องไปฮันนีมูนก็คงขับรถที่ซื้อให้เขา ขับเที่ยวในเมืองไทย ใช้ตังค์ในเมืองไทย ซื้อของไทยๆ แต่ยังไม่รู้เลยว่าจะไปเที่ยวที่ไหน อาจจะไปเขาใหญ่ ไปดูไข่จระเข้ หรืออาจจะเป็นภาคเหนือหรือภูเก็ต ยังนึกไม่ออก แต่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแหละ ขับรถเที่ยวเพลินๆ”
“ส่วนเรือนหออยู่ตรงเลียบทางด่วนรามอินทรา ราคา 20 กว่าล้านแต่ไม่ถึง 30 ล้าน ก็อยากให้ถึงเหมือนกัน แต่ตังค์หมดมีแค่นี้ ก่อนหน้านี้ผมก็ได้เข้าไปอยู่ในบ้านแล้ว แต่เดี๋ยวจะเข้าไปอยู่เต็มที่เต็มสูบ เอาไปวางไข่ คือไปเพาะพันธุ์ที่นั่น (หัวเราะ) แล้วเราก็จะมีลูกด้วยกัน”
ลั่นหลังแต่งไม่มีวันเข้าชมรมกลัวเมีย แค่รู้สึกเกรงใจ เผยประทับใจความอารมณ์ดีของฝ่ายหญิง เชื่อเป็นแม่ของลูกได้
เปิ้ล : “แต่งแล้วจะกลัวเมียหรือเปล่า เมียไม่ใช่หมานะครับ ไม่รู้จะกลัวไปทำไม ผมว่าเกรงใจดีกว่า เพราะถ้าไปทำให้เขาเสียใจ เดี๋ยวไม่มีใครทำให้เราหัวเราะ”
“ผมชอบเขาเพราะเป็นคนอารมณ์ดี ปีนึงจะทะเลาะกันสักครั้งหนึ่ง ผมว่าหาไม่ง่าย เพราะหลายๆ คู่ 3วันดี 4 วันไข้ รสชาติของชีวิตมันเยอะไป แต่เขาทำให้เราอารมณ์ดี แล้วอาชีพของเราต้องขายอารมณ์ เพราะฉะนั้นใครที่มาอยู่ใกล้เรา แล้วมาทำลายอารมณ์ดีของเราอยู่ตลอดเวลา ก็คงคิดออกห่างไปจากชีวิต เพราะเราก็เป็นห่วงทางบ้านเหมือนกัน ไม่งั้นเราก็จะเสแสร้งออกทีวี มันอารมณ์ดีไม่จริง แต่เขาเป็นคนที่ปลุกอารมณ์ดีๆ ทุกๆเช้าทุกๆวัน ก็น่าจะเป็นแม่ของลูกได้”
“แต่งงานแล้วจากวันนี้และพรุ่งนี้ไป ทุกอย่างจะเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน ไม่มีปรับปรุงตัวแก้ไขอะไร ถ้าเมื่อไหร่ที่เปิ้ลเปลี่ยน หรือจูนเปลี่ยนจะมีปัญหา สิ่งที่ตัดสินใจมาทั้งหมดถึงวันนี้ ก็เพราะเราไม่เคยเปลี่ยนกันเลย”
จูน : “สำหรับเราไม่มีคำสัญญาอะไร และจูนก็ไม่เคยขออะไรเขาด้วย ให้เขาเป็นตัวของตัวเอง ดีกว่าเราจะไปขอเขา ก็ปล่อยให้เขาทำเอง ตลอด 7 ปีที่คบกันจูนไม่เคยขอว่าอะไรยังไง เขาก็ทำของเขาเอง ซึ่งจูนก็รักเขาด้วยความที่เขาเป็นตัวเอง”
“จูนอยากบอกว่าขอบคุณพี่เปิ้ล ที่ดูแลจูนมาตลอด คอยดูแลมาจนถึงทุกวันนี้ และเขามั่นใจเชื่อใจได้ว่า จูนสามารถดูแลพี่เปิ้ลได้ จูนก็จะไม่ทำให้ผิดหวัง จูนจะดูแลพี่เปิ้ลตลอดไป”