“นก ฉัตรชัย-นก สินจัย” ปลื้มสุดขีด “กัน” ลูกชายคนโตประกาศจะบวชทดแทนบุญคุณสิ้นปีนี้ เจ้าตัวเผย บวชเสร็จคงได้ทำงานเบื้องหลังอย่างที่เรียนมา แต่เบื้องหน้าขอเวลาสักพัก เพราะยังไม่รู้ใจตัวเองว่าอยากแสดงหรือเปล่า ด้าน “พ่อ-แม่” เผยไม่อยากบังคับ แต่ชมลูกชายตัวเองมีแววด้านผู้กำกับที่ดี
เรียนจบเป็นที่เรียบร้อย เหลือแค่รอรับปริญญาบัตรเท่านั้น สำหรับลูกชายคนโตหัวแก้วหัวแหวนของครอบครัว “เปล่งพาณิช” อย่าง “กัน สิทธิโชค” ซึ่งแค่เรียนจบก็ทำให้ผู้เป็นพ่อ-แม่ อย่าง “นก ฉัตรชัย–นก สินจัย” ปลื้มแทบแย่แล้ว แถมยังเข้ามาช่วยงานพ่อและแม่ด้านการทำงานเบื้องหลังได้ดีอีกด้วย แต่นอกจากนั้นลูกชายยังเซอร์ไพร์สด้วยการมาบอกว่าจะบวชทดแทนบุญคุณอีก ทำเอา พ่อแม่นก ถึงกับอึ้งและปราบปลื้มเป็นการใหญ่ ซึ่งเจ้าตัวเผยว่า ตั้งใจจะทำงานเบื้องหลังอย่างเต็มตัวหลังจากที่บวชเรียบร้อยแล้ว
กัน “ถ้าจะทำเต็มตัวคงต้องขอเวลาอีกสักพักนึงครับ พอดีช่วงนี้เพิ่งจบเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา แล้วก็จริงๆ สิ้นปีกันจะขอบวชให้พ่อกับแม่ก่อนครับ หลังจากนั้นก็ค่อยว่ากันอีกทีครับ”
สินจัย “ตอนที่รู้ก็พูดไม่ออกค่ะเขาโทรศัพท์บอก บอกนกก่อน ตอนนั้นก็กำลังขับรถกลับบ้าน เขาก็บอกว่าแม่อีก 2 เดือนกันจะจบแล้วนะ ก็จะบวช เราก็อ๋อ เออๆ โอเคๆ วาง(หัวเราะ) ตื่นเต้นมาก ตกใจ โทร.ไปหาเพื่อน เฮ้ย ลูกจะบวชๆ(หัวเราะ) ตื่นเต้นมาก แต่เดี๋ยวรายละเอียดค่อยคุยกันอีกที เพราะเพิ่งไปคุยกับพระมา วัดในกรุงเทพฯ ค่ะ”
ฉัตรชัย “งงครับ ตอนแรกงง ห๊า จะบวชเหรอ คิดจะบวชด้วยเหรอ(หัวเราะ) เพราะเขาเป็นคนเหมือนแบบว่าสนุกสนาน เที่ยวเล่นมีความสุขกับชีวิตตลอดเวลา แต่ก็โอเคเรียนก็เรียน คือเขาเป็นคนเอ็นจอย(Enjoy) กับการเที่ยวเหมือนกัน ก็นึกไม่ถึงว่าจะบวช เพราะว่าปกติวัยรุ่นเขาจะไม่คิดมุมนี้ แล้วอยู่ดีๆ น้องกันอยากบวชก็ตกใจ แต่ก็โอเค แล้วเขาไม่ได้บวชแบบว่า 10 วัน 7 วันนะ แต่เขาบวชเป็นเดือน 2 เดือน 3 เดือน”
กัน “ก็ตั้งใจจะบวชข้ามปีครับ แต่คงไม่ถึง 3 เดือนนะพ่อนะ(หัวเราะ) คิดถึงบ้านมาก”
กัน “ก็เพื่อทดแทนคุณครับ และก็คิดว่ามันถึงเวลาแล้วด้วย ที่ว่าเราเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว และบรรลุนิติภาวะแล้วด้วย ก็เหมือนเป็นอีกก้าวนึงที่เราจะได้ชำระล้างสิ่งที่ได้ทำมา แล้วก็เริ่มต้นกับชีวิตจริงๆ แล้ว ไม่ใช่ชีวิตเด็กนักเรียน ไม่ใช่ชีวิตที่อยู่มหาวิทยาลัยแล้วครับ”
นอกจากนั้นครอบครัว “เปล่งพาณิช” ยังได้ทำงานพร้อมหน้าพร้อมตากันเป็นครั้งในละครเรื่อง “เหนือเมฆ” ซึ่ง “นก ฉัตรชัย” รับหน้าที่ผู้จัด และก็ได้ดึงภรรยาคนสวย “นก สินจัย” มาร่วมแสดง แถมเป็นบทบู๊ที่ฝ่ายหญิงไม่เคยได้แสดงมาก่อน และยังได้ “กัน” มาร่วมทำงานเบื้องหลังให้อีกด้วย
ฉัตรชัย “นกหญิงเขาก็ขยันนะครับ ขยันไปฟิตร่างกาย ไปวิ่ง ไปยกเวท แล้วก็ไปฝึกยิงปืน ซ้อมยิงปืน แต่ในเรื่องการแสดง เรื่องดราม่าเนี่ย ก็...”
สินจัย “ไม่ได้เรื่อง(หัวเราะ)”
ฉัตรชัย “คือเขาได้อยู่แล้วนะครับ เพราะที่ถ่ายไปก็โอเคดีมาก ที่เลือกเขาเพราะอยากเห็นนกหญิงเขาเล่นแอ็คชั่นน่ะครับ คือหลายๆ คน ประชาชนหรือใครก็ตามแต่ไม่เคยเห็นภาพนี้ แล้วตัวผมเองก็ไม่เคยเห็น ก็เลยคิดว่าถ้าเขามาเล่นแอ็คชั่นก็คงจะมีอะไรน่าสนใจ น่าจะมีอะไรที่แตกต่าง แปลกแยกจากที่นกหญิงเขาเล่นมาครับ”
สินจัย “เรื่องนี้เป็นแอ็คชั่นเรื่องแรกค่ะ ไม่เคยเล่นหนังบู๊ ละครบู๊เลยค่ะ กลัวเอฟเฟ็ก(หัวเราะ) แต่ที่ถ่ายมาก็ยังไม่ได้มีฉากบู๊นะคะ ที่เล่นมาก็จะเป็นซีนดราม่าไป แต่ก็ตื่นเต้นอยู่เหมือนกัน เพราะว่ามันมีคาแรคเตอร์อะไรที่เราไม่เคยเล่น อย่างเป็นตำรวจ มันก็ยังงงๆ ก็อ่านบทเยอะๆ น่ะค่ะ”
“แต่จริงๆ ตอนแรกก็ยังไม่แน่ใจว่าจะรับหรือไม่รับ เพราะว่าบทยังไม่ได้ ได้แต่บอกคาแรคเตอร์คร่าวๆ แต่ว่าพี่นกชายกับเด็กๆ ก็บอกอยากดู อยากเห็นแม่เล่นบู๊ ก็เลยลองดูน่าสนใจดีเหมือนกันค่ะ เรื่องฟกช้ำดำเขียวนี่ยังไม่รู้เลยว่าจะเป็นยังไงถูกหลอกมาฆ่ารึเปล่าไม่รู้เนี่ยงานนี้(หัวเราะ) แต่ยังไงก็ต้องทำตามพี่นกชายเขาค่ะ เราเป็นนักแสดงเรื่องนี้ เรารับตังค์นะคะ ไม่ได้เล่นฟรี เพราะฉะนั้นเขาสั่งอะไรเราก็ต้องทำค่ะ(หัวเราะ) แต่ยอมเฉพาะในละครค่ะ กลับบ้านว่ากันอีกที(หัวเราะ)”
พร้อมบอกอย่างภูมิใจ ว่า “กัน” ถนัดเรื่องเบื้องหลังมากกว่า เพราะเรียนเบื้องหลังมาและตัดต่อเก่ง แต่ถ้าจะเล่นเบื้องหน้าก็แล้วแต่เจ้าตัว
ฉัตรชัย “น้องกันก็แล้วแต่เขาครับ เล่นได้รึเปล่าก็ไม่รู้(หัวเราะ)”
สินจัย “น้องเรียนเบื้องหลังค่ะ ไม่ได้เรียนการแสดง แต่เขาตัดต่อเก่งนะ ใช้ได้เลยล่ะ”
กัน “ก็อย่างที่แม่บอกครับ กันเรียนเบื้องหลังนะครับ กันเรียนทีวีเบื้องหลังมาก่อน แล้วก็ตอนนี้เพิ่งจบ เพิ่งทำทีสิต เพิ่งทำวิทยานิพนธ์จบไป คือเราเพิ่งจบ แล้วก็เหมือนยังไม่ได้มีส่วนร่วมอะไรมาก แต่ก็ได้ทราบขั้นตอนตั้งแต่ที่คุยกันตั้งแต่แรกๆ ว่าจะมีแม่มาเล่น มีการซ้อมยิงปืน ถ่ายที่ไหนก็พอจะรู้ แต่ว่ายังไม่ได้เข้าไปช่วยมาก ยังไม่ได้ไปที่กองเต็มตัว ก็ดูๆ นิดหน่อยครับ ยังไม่ได้ช่วยเต็มตัว เรื่องแสดงเองนี่ยังครับ ขอเวลาฟิตก่อนแล้วกัน ยังไม่รู้ตัวเอง ยังไม่รู้ว่าอยากเล่นรึเปล่าครับ(หัวเราะ)”
ฉัตรชัย “นกหญิงเขาไปเล่นละครของน้องกันมานะ คือน้องกันเขาเป็นผู้กำกับเลยครับ กำกับเป็นละครสั้นเรื่องนึงเลย เขาก็บอกว่าโอเคนะ เป็น สามารถสั่งได้ อธิบายได้ ทำให้เข้าใจได้”
สินจัย “คือสิ่งที่เขาเรียนมา เขาได้ใช้หมดน่ะค่ะ เพราะว่าเขาไม่ได้เป็นแค่ผู้กำกับอย่างเดียว คือเขาวัดกล้องเป็น ดูไฟเป็น ดูเสื้อผ้า บทเขาก็เขียนเอง แล้วก็สามารถมากำกับเรา เขาก็จะบอกได้ว่าแม่อยากได้เยอะกว่านี้ อยากได้ความรู้สึกมากกว่านี้ เขาจะบอกขั้นตอน และวิธีการพูดของเขาทำให้เรารู้สึกว่าเขาสามารถเป็นผู้กำกับได้ เขาเข้าใจอารมณ์และสามารถถ่ายทอดให้นักแสดงได้ แล้วก็เสร็จแล้วเขาก็ไปตัดเองทั้งหมด”
“พอตอนตัดก็เพิ่งได้ดูงานทั้งหมดที่เขาทำ ก็รู้สึกว่าเขาตัดต่อใช้ได้ คือไม่กระโดด ไม่สะดุด เรียงภาพอะไรได้ดี เพียงแต่ว่าอาจจะยังประสบการณ์น้อย รายละเอียดของละครมันอาจจะไม่ได้เท่ากับละครที่ออกอากาศนะคะ แต่เขาก็ทำได้ดี ก็รู้สึกว่าที่ส่งเสียร่ำเรียนมาเนี่ยใช้ได้เลยลูก(หัวเราะ)”