xs
xsm
sm
md
lg

ลูกสาวเผย “ดี๋” จากไปอย่างสงบ ด้านนายกฯ “อภิสิทธิ์” เข้าไหว้ศพด้วยตัวเอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“บีม” เปิดใจพ่อ “ดี๋” จากไปอย่างสงบ บอก แม้จะทำใจไว้บ้างแต่ก็ยังทำใจไม่ได้ ที่ต่อไปจะไม่ได้กอดพ่ออีกแล้ว ด้าน “เสาวลักษณ์” ภรรยา เผย กลับไม่ทันดูใจ เนื่องจากเดินทางไปบวชให้สามีที่ต่างจังหวัด ฝากถึงดวงวิญญาณขอให้ไปสบายไม่ต้องเป็นห่วง ส่วน “ถั่วแระ” เตรียมจัดคอนเสิร์ตช่วยเหลือ ขณะที่นายกฯ “อภิสิทธิ์” เข้าไหว้ศพด้วยตัวเอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศพิธีรดน้ำศพและสวดอภิธรรมคืนแรก ของอดีตตลกชื่อดัง “ดี๋ ดอกมะดัน” ที่วัดนวลจันทร์ ศาลา6 เป็นไปอย่างเศร้าโศก โดยมีเพื่อนพ้องศิลปินตลกทยอยมาร่วมอาลัยมากมาย อาทิ เป็ด เชิญยิ้ม, ถั่วแระ เชิญยิ้ม, จิ้ม ชวนชื่น ฯลฯ ขณะเดียวกันในช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา “นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” นายกรัฐมนตรี ที่เดินทางมาร่วมงานศพที่วัดดังกล่าว ก็ได้แวะเข้ามาเคารพศพ และเข้าพูดคุยให้กำลังกับภรรยาและลูกสาวของอดีตตลกชื่อดังด้วยเช่นกัน

โดยจะมีการตั้งสวดอภิธรรมศพทั้งหมด 9 วัน และเผาวันที่ 12 กรกฎาคม ซึ่งในตอนนี้ทางด้านของ หม่ำ จ๊กมก, เท่ง เถิดเทิง และ โหน่ง ชะชะช่า แสดงความจำนงเป็นเจ้าภาพ ในวันที่ 3 ส่วนสมาคมศิลปินตลกเป็นเจ้าภาพ ในวันที่ 6

หลังจากนั้น "นางเสาวภา ศรีสวัสดิ์" ภรรยา พร้อมด้วยลูกสาวคนโต "บีม พรรณวรินทร์" ที่ยังอยู่ในอาการโศกเศร้า ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของหัวหน้าครอบครัวว่า...

แม่ “ตอนนี้ก็ทำใจได้แล้วค่ะ เตรียมทำใจมานานแล้วสำหรับเรื่องพ่อมันไม่มีอะไรที่จะต้องเสียใจมากกว่านี้ คือเราเตรียมมานานแล้ว”

“ที่ผ่านมาอาการเขาก็ทรงอยู่ตลอดเลย คือไม่ได้มีอาการติดเชื้อหรืออะไรใดๆ ทั้งสิ้น แล้วมันก็ไม่ได้มีลางสังหรณ์ใดๆ ทั้งสิ้นนอกจากจากที่คุณแม่ไปบวช เพราะปกติแม่จะต้องอยู่กับเขาตลอด 24 ชม. แต่พอคุณแม่จะไปบวช 7 วันที่วัดท่าไม้ จ.สมุทรสาคร ก็บอกเขาว่าอย่าเป็นอะไรไปก่อนนะ แล้วเราก็จดเบอร์รถฉุกเฉินไว้ให้คนที่ดูแล คุณแม่ก็เอาของสังฆทาน พระพุทธรูปไปให้เขาจับ”

“เขามองหน้าแม่เหมือนจะร้องไห้ เหมือนตาเขาแดงๆ เพราะว่าแม่อยู่กับเขาตลอด บอกกว่าพรุ่งนี้แม่จะไปบวชแล้วนะ โกนหัวด้วยนะให้พ่ออนุโมทนาให้พ่อพ้นนะ จะพ้นในทางที่หาย มันมีสองทางคือหายกับไม่หายก็คือไปสู่สุคติ ก็ให้เขาอธิฐาน แม่ก็อธิฐานว่าถ้าเขาหายจะต้องเดินได้พูดได้ ทำงานได้เหมือนเดิม แต่ถ้าไม่ได้อย่างนั้น ถ้าพ่อหมดบุญก็ให้เขาไปสบาย ตอนที่เขาจับพระพ่อเขาก็ร้องไห้ แต่แม่ก็บวชไปได้แค่วันเดียว เดี๋ยวก็คงต้องกลับไปบวชต่อเพราะแม่บอกแล้วว่าแม่จะบวช 7วัน ก็ต้องกลับไปบวชต่ออีก 6 วัน”

บีม “ก็คือทำใจไว้แล้วแต่พอถึงเวลาก็ยังงงๆ อยู่ เมื่อคืนก็ยังทักทายกันเหมือนทุกวัน พ่อก็ไม่มีปฏิกิริยาว่าจะจากไป ปกติเหมือนทุกๆวันก็เลยรู้สึกว่ามันไม่มีสัญญาณอะไรบอก อย่างเมื่อเช้าพอเห็นพ่อก็เข้าไปจับแล้วเขาก็ไม่หายใจเราก็เอามือไปอังตรงที่เขาเจาะคอก็ไม่มีลม ก็เลยจับมือพ่อ พ่อก็ไม่จับตอบเพราะปกติพ่อเขาก็จะจับตอบนี่กลับนิ่งแล้วมือก็เย็น ก็ยังไม่แน่ใจ ก็เลยโทรตามรถฉุกเฉินช่วยมาดูหน่อย เขามาแล้วเขาก็บอกว่าม่านตาพ่อขยายแล้ว ก็เสียแล้ว เราก็อึ้งๆไปว่ามันจริงๆเหรอ ก็เลยโทรบอกแม่ ที่ผ่านมาเราก็ทำใจเอาไว้บ้างแล้วพอถึงเวลาที่เขาไปจริงมันก็ทำใจยาก เหมือนกับว่าเราจะไม่ได้สัมผัส ไม่ได้กอดพ่อแล้วนะ”

ส่วนข่าวที่ว่าชุดที่ใส่ในการรดน้ำศพวันนี้ของ “ดี๋” เป็นชุดสุดท้ายเพราะว่าเพื่อนศิลปินตลกได้มาขอไปหมด ในช่วงที่มีข่าวลือว่าทางครอบครัวไม่มีเงินจ่ายหนี้สิ้น ด้าน “บีม” ก็ยอมรับว่าชุดนี้เป็นสุดสุดท้ายที่ดีที่สุดที่มีเหลืออยู่ในบ้าน ส่วนเรื่องหนี้สินนั้นก็ต้องรับผิดชอบกันต่อไป
บีม “จริงๆก็เหลืออยู่ไม่กี่ชุด ชุดนี้เป็นชุดที่ดีที่สุดที่เลือกมาได้ รองเท้าก็เพิ่งจะซื้อเพราะว่าไม่มี”
แม่ “รองเท้าก็ไปนานแล้วค่ะ”
บีม “ส่วนเรื่องหนี้สินต่างๆตอนนี้ก็คงเหลือที่จะดูแลกันเองภายในครอบครัว ในเรื่องหนี้สินทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิมก็คงต้องดูแลต่อไป”

สุดท้ายด้ายภรรยาและลูกสาวบอกอยากให้พ่อหลับให้สบายไม่ต้องห่วง เพราะสามารถดูแลตัวเองกันได้
แม่ “ก็อยากจะบอกกับพ่อว่า พ่อไม่ต้องห่วงอะไรเรา 3 คนดูแลกันได้ขอให้พ่อไปสู่สุคติไม่ต้องห่วงอะไรทั้งสิ้นเราดูแลกันเองได้”
บีม “สิ่งที่อยากจะพูดกับพ่อก็พูดมาตลอดอยู่แล้ว เพราะตั้งแต่ที่พ่อป่วยรู้สึกว่าทุกวันมีค่า อยากจะทำอะไรพูดอะไรก็คือทำตลอด เพราะเราไม่ทราบว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นจริงๆ”

“คือพ่อไม่เคยมานั่งสอนหรือพูดอะไรให้ฟัง ทุกอย่างที่ซึมซับได้ก็คือเรื่องของการกตัญญูพ่อจะรักคุณย่ามาก กตัญญูเป็นสิ่งแรกเลย ทำทุกอย่างด้วยความจริงใจแล้วก็รักสิ่งที่เราทำ พ่อสอนให้เป็นคนที่ติดดิน คือทำทุกอย่างอย่างเรียบง่าย พอบีมเริ่มทำงานก็เริ่มรู้ค่าของเงินตั้งแต่เล็กแล้วๆ เหมือนเราเองก็ดูแลตัวเองมาโดยตลอดพอตอนที่พ่อมาป่วยเรารู้สึกว่าเราเข้มแข็งพอเพราะพ่อได้ปลูกฝังตั้งนานแล้วว่าเราจะต้องเข้มแข็งแล้วก็ดูแลตัวเองให้ได้”

“พ่อเป็นคนที่บีมอยากจะเป็นได้สักครึ่งนึง (ร้องไห้) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการดูแลครอบครัว หรือว่าความรักที่พ่อให้ก็อยากจะทำให้ได้ครึ่งของพ่อ ก็อยากให้พ่อสบายใจว่าหนูจะทำให้ดีที่สุด อยากให้พ่อมีความสุข ไปอยู่ในที่ที่สบาย ไม่ต้องห่วงอะไร เพราะเราดูแลตัวองกันได้”

“บีมเองก็คงไม่ถึงกับเป็นเสาหลักของครอบครัวหรอกค่ะก็เหมือนเดิม จริงๆแล้วเราก็ดูแลกัน จะมีน้องเบลล์เองที่ช่วย อย่างเมื่อเช้าที่คุณพ่อไปแล้ว บีมก็ยังงงๆคือเราก็ไม่ได้เป็นผู้ใหญ่ที่จะดูแลทุกอย่างได้ ก็ต้องช่วยๆกัน

ส่วนทางด้านนายกสมาคมตลก “ถั่วแระ เชิญยิ้ม” ก็เผยถึงความรู้สึกยกย่องเชิญชู “ดี๋” เปรียบเสมือนอาจารย์ และทางสมาคมตลกเองก็จะช่วยเหลือครอบครัวของ “ดี๋” เป็นกรณีพิเศษเนื่องจากเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงและสร้างประโยชน์ให้กับวงการตลกไทย
ถั่วแระ “ผมก็เพิ่งทราบเรื่องตอน 6 โมงเช้า คุณเจี๊ยบสีหนุ่มโทรมาบอกก็รีบกระจายข่าวให้ทุกๆคนไปที่บ้านของอาจารย์เพื่อที่จะได้รวมพลกันว่าใครจะช่วยอะไร เพราะในฐานะตำแหน่งนายกสมาคมแล้วควรจะรับงานนี้หน้าที่นี้ ก็แบ่งกันว่าจิ๋มจะไปติดต่อเรื่องโรงพัก ต้องไปแจ้งเขาเรื่องโรงพยาบาล คุณยาวมาติดต่อเรื่องวัด แล้วก็ต้องรอพี่ปุ้มเขาด้วยเพราะพี่ปุ้มเพิ่งจะรู้ ก็เพิ่งจะสึกก็อยู่กับลูกสาวสองคนเขาก็ทำอะไรไม่ถูก พวกเราก็บอกกับสมาชิกของเราว่าจะทำอะไรก็รอถามผู้หลักผู้ใหญ่จนกระทั้งได้ติดต่อกับพี่ปุ้มได้ เขาก็บอกว่าที่ไหนก็ได้”

“ทางสมาคมช่วยเหลือกันตามวาระที่เราช่วยเหลือกันอยู่แล้ว ของเราเหมือนกับการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ทุกคนที่เป็นสมาชิกเราจะดูแลกันแบบเบื้อต้นก่น ส่วนถ้าป่วยหนักยังไงเราก็ค่อยว่ากันอีกที แต่ในกรณีของอาจารย์ดี๋ถือว่าป่วยหนักมันก็เป็นกรณีพิเศษที่นอกเหนือจากข้อบังคับของสมาคมอันนี้พวกเราก็ยอมรับได้ เพราะว่าตลกก็ยังมีอีก 500 ชีวิตที่อยู่ในเครือข่าวของสมาคมซึ่งตัวนายกเองจะต้องดูแลเพราะฉะนั้นสิทธิประโยชน์บางอย่างจะต้องมีข้อยกเว้นว่าใครควรจะได้มาก ใครควรจะได้น้อย”

“สำหรับอาจารย์ดี๋เราก็ช่วยเหลือเต็มที่ งานสวดอภิธรรมตั้งแต่วันที่ 2 ไปจนกระทั้งถึงวันเผาซึ่งก็จะมีการพระราชทานเพลิงด้วย ก็คงจะต้องดูแลตลอดไปจนกว่าจะเสร็จสิ้นงาน เบื้องต้นก็คงเท่าๆกับที่ทุกคนได้ก็คือ10,000-20,000 บาท แต่ในกรณีพิเศษอย่างอาจารย์ดี๋หรือว่าใครที่มีฐานะหรือความมีชื่อเสียงมันก็ต้องว่าตามกันไปอีกระบบนึง ต้องเข้าเรื่องราวของการประชุม ผู้บริหารจะประชุมกันออกมาว่าเราจะช่วยเหลือเท่าไหร่ ยังไง”

“อาจารย์ดี๋เปรียบเสมือนบรมครู ครูบาอาจารย์ของพวกตลก พวกผมเกิดมาได้ต้องยกย่องอาจารย์ ไม่ว่าจะเป็นเด๋อ ดู๋ ดี๋ ดอน แดง เทพใครก็แล้วแต่ เมื่อก่อนตลกก็ไม่ได้เฟื่องฟู มันก็มียุคที่อาจารย์ดี๋เข้ามา แล้วทุกคนก็ได้เกิด ได้มีอาชีพใหม่ตลกที่เดินสายลูกทุ่งก็จะเวียนกันเข้ามาอยู่ในคาเฟ่ตลกบางคนไม่เคยอยู่สายลูกทุ่ง ไม่เคยเล่นตลกอะไรมาก่อนก็ยังมีอาชีพใหม่เสริมขึ้นมา อาจารย์ดี๋เลยถือเป็นบรมครู ครูบาอาจารย์คนนึงซึ่งถ้าจะถามว่าเราเสียใจไหม เราไม่ได้เสียใจที่ทานจากไป แต่เราเสียดายบุคลาการของชาติที่มีความสามารถมากกว่าความเสียใจตรงนั้น”

ส่วนเรื่องที่เสื้อผ้าของอดีตลกชื่อดัง ด้านนายกสมาคมชี้แจงว่าเนื่องจากทางเพื่อนศิลปินคงเห็นว่าเสื้อผ้าดังกล่าวอดีตตลกคงไม่มีโอกาสได้ใช้แล้วจึงมาขอไป ไม่ใช่ว่าต้องเอามาใช้แทนหนี้สินเหมือนในข่าวลือ
“ก็ได้ข่าวมาจากพี่ปุ้มเหมือนกันว่ารองเท้า ถุงเท้า เสื้อผ้ามีเพื่อนฝูงมาเอาไปหมดเลยเพราะพี่ดี๋ใช้แต่ของดีๆ ใช้แต่ของมียี่ห้อ เพื่อนฝูงเขาก็อยากได้เขาก็มาขอไป เขาก็ให้เขาก็คิดว่าพี่ดี๋คงจะไม่ได้ใช้อีกแล้ว แม้กระทั้งเข็มขัดก็เพื่อนหมด ใครมาขอพี่ปุ้มเขาก็ให้ไปไม่ใช่เรื่องเงินหรือว่าอะไรอย่างที่เป็นข่าวสมัยเมื่อก่อนเลย ไม่ใช่ครับ”

...
ปิดฉากชีวิตอดีตตลกดัง “ดี๋ ดอกมะดัน”

“บีม” รับ อาการ “ดี๋” ยังทรง เผยพ่อป่วยมา 3 ปีหมดค่ารักษาไปหลายล้าน

“ดี๋ ดอกมะดัน” ทรุดหนัก! ไม่หายใจ 20 นาที ด้านเมียบอกทำใจไว้แล้ว

"แดงซ่า - เชียร ซุปเปอร์โจ๊ก" เสียแล้ว ส่วน "ดี๋" สมองบวมขึ้น

เรื่องจริงหลังเวทีกู้ชาติ กับ "ดี๋ ดอกมะดัน"




กำลังโหลดความคิดเห็น