xs
xsm
sm
md
lg

โอกาส(ครั้ง)สุดท้ายของ “เต๋า สมชาย”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ผมเองมีอะไรผิดพลาดในชีวิตเยอะ และผมก็อยากมีลูก แต่ไม่อยากมีชื่อว่าทำท้องก่อนแต่ง ผมอยากแต่งก่อนท้อง หรือเรียกว่าจดก่อนท้อง ผมมีมุมมองของผมว่า คนที่จดทะเบียนนี่ไม่ใช่ว่าแค่จะอยู่ด้วยกัน แต่เขากำลังจะบอกทุกคนว่าเขาอยากมีลูก”

“ผมอยากจะประกาศว่า พอแล้วนะผู้หญิงในโลกนี้อย่ามายุ่งกับผม ผมมีภรรยาแล้ว ซึ่งนี่มันเป็นการตัดสินใจของผมอีกครั้ง อย่างน้อยคนก็จะได้เห็นว่าผมดูแล และสองคือ ผมไม่ได้ทำผิดพลาด …และถ้าผมผิดพลาดครั้งนี้อีก ผมจะไม่อยู่แล้วนะ ผมบอกตัวเองแล้ว มันเป็นอุดมการณ์ ทุกคนจะไม่ได้เห็นหน้าผมอีกแล้วนะ จริงๆ แต่ไม่ได้ไปฆ่าตัวตายนะ อาจจะไปทำอะไรก็ได้ที่ไหนก็ได้ในโลกนี้”

นี่คือส่วนหนึ่งจากคำพูดที่ชัดถ้อยชัดคำของ "เต๋า สมชาย เข็มกลัด" ที่ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร "ดิฉัน" หลักถูกถามเรื่องราวการแต่งงานครั้งใหม่กับ "ยุ้ย อัฐมาศ อัศววิมล" สาวใหญ่วัย 36 ที่เป็นถึงรองผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดนิตยสารดิฉัน และคอสโม โพลิแทน ซึ่งถ้าจะพูดให้สวยหน่อย เต๋ากำลังให้ "สัจจะลูกผู้ชาย" ที่เอา "โอกาสทั้งชีวิต(ที่เหลืออยู่น้อยนิด)" เป็นเดิมพัน แต่ถ้าแปลตายตัว เขากำลังร้องขอว่า เชื่อผมเถอะ ผมหยุดความบัดซบของตัวเองแล้ว(จริงๆ นะ)?!

...นั่นก็เป็นเพราะว่า เขารู้ดีว่าความเป็น “เต๋า สมชาย” ตอนนี้ ต่อให้ทำในเรื่องดีโด่แค่ไหนก็ไม่มีราคาให้เชื่อถืออีกต่อไป ตรงกันข้าม กลับเต็มไปด้วยการ “ปรามาส-เหยียดหยัน” ว่าจะดีได้สักกี่น้ำ

ซึ่งมันก็ช่วยไม่ได้ เพราะหลายปีมานี้ วีรกรรมที่เขาก่อไว้ มันเกินเยียวยาจริงๆ ไม่ว่าจะเป็น ยกพวกตียามที่งานกาชาด ขึ้นไปรุมยำหนุ่มเชียงใหม่ ลงมาตบผู้กำกับหนังGTH แล้วก็กลับไปตื๊บคนแก่กลางเมืองลำปาง แต่ล่ะอย่างที่ว่ามามันเข้าข่ายอันธพาลชัดๆ ปีๆ นึงขึ้นโรงขึ้นศาลพร้อมๆ กับขึ้นหน้าหนึ่งเป็นว่าเล่น ทำเป็นเรื่องชิลๆ ยังกะเดินเข้าห้างฯยังไงยังงั้น แล้วไอ้พฤติกรรมเหล่านี้ อย่าว่าแต่คนที่เฉยๆ กับเต๋าเลย ที่เอือม คนที่รักเป็นแฟนคลับกันมา ยังส่ายหัวพร้อมๆ กับถอนหายใจ เฮ้อ..ใหญ่เลยล่ะ

ฉะนั้นกะอีแค่คำพูดเท่ห์ๆ แค่ไม่กี่คำ จะให้คนทั้งเมือง โดยเฉพาะคนที่เขาซัดปากแตกไว้ หลับหูหลับตาลืมๆ ไปซะ มันดูจะกินหญ้าไปหน่อย

ทั้งที่จริงแล้ว คนอย่าง “เต๋า สมชาย” น่าจะเป็นคนที่สะกดคำว่าคุณค่าของ “โอกาส” ได้แตกฉานที่สุด เพราะการที่เขามีวันนี้ได้ ก็เพราะว่าโอกาสผลักดันทั้งนั้น จากเด็กกำพร้าฐานะทางบ้านยากจน มียายเป็นที่พึ่งเพียงคนเดียว แต่ชีวิตพลิกผันเพราะมี “โอกาส” ได้เจอกับ “พจน์ อานนท์” จนชักนำเข้าสู่วงการบันเทิง ได้ถ่ายแบบลงหนังสือวัยรุ่น ได้ก้าวเข้ามาเล่นละคร แล้วไต่เต้ามาเล่นหนัง กระทั่ง “อาร์เอสฯ” จับเซ็นสัญญาเป็นนักร้องในสังกัด ทั้งที่เสียงยังกับเป็ดโดนเชือด แต่ดีที่มีทุนเป็นหน้าตา บวกกับดวงดีก็เลยส่งให้ดังสุดขีด ทั้งงานทั้งเงินวิ่งชนตู้มต้าม ภายในระยะเวลาไม่กี่ปีเขาสามารถก้าวขึ้นไปเป็นนักร้อง-พระเอก แถวหน้าของฟ้าเมืองไทย

จากคนที่มีพื้นฐานครอบครัวไม่อบอุ่น แต่มี “โอกาส” เจอผู้หญิงที่เค้ารักและเธอก็รักเต๋า อย่าง “นัท มีเรีย” คบหากันยาวนานร่วม 10 ปี ทั้งคู่ก็ตัดสินใจแต่งงานกัน และจดทะเบียนสมรส เป็นคนๆ เดียวกันอย่างสมบูรณ์แบบ ในตอนนั้น เต๋า กับ นัท ถือเป็นคู่สามี-ภรรยา ที่ใครต่อใครต่างอิจฉาในความเป็นกิ่งทองใบหยก แต่ไม่มีใครคาดคิดว่า เพียงแค่ 2 ปีให้หลัง ความรักของทั้งคู่จะพังทลาย จนสุดท้ายต้องหย่าร้างแยกทางกันไปในที่สุด ปิดฉากครอบครัวสุขสันต์ในอุดมคติของเต๋าอย่างเจ็บปวด

แต่ที่ดูจะแย่ยิ่งกว่า เห็นจะเป็นพฤติกรรมของหนุ่มเต๋า ที่นับวันดิ่งลงเหว เพราะตั้งแต่เลิกกับภรรยา เจ้าตัวก็ไปมีเรื่องชกต่อยทะเลาะวิวาทกับคนโน้นคนนี้ไปทั่ว จะว่าไปแล้ว ลายเริ่มออกตั้งแต่ก่อนแต่งงานด้วยซ้ำ ถ้ายังจำกันได้เมื่อหลายปีก่อนที่งานกาชาด กรณีเขายกพวกรุมตื๊บเจ้าหน้าที่ เพราะไม่พอใจที่เข้ามาห้ามไม่ให้ยืนฉี่ในสถานที่ราชการ ทำเอาถูกกล่าวขานคนประจานทั้งเมือง 

ผ่านมาไม่กี่ปีก็ตกเป็นข่าวใหญ่อีกครั้ง ว่าไปมีปากเสียงกับลูกชายอดีตนักการเมืองคนดังของเมืองกรุง ในงานแต่งของเพื่อนดารา “ธัญญาเรศ รามณรงค์” แต่ครั้งนี้หนุ่มเต๋าเป็นฝ่ายโดนรุมยำซะเอง แถมยังโดนหิ้วออกจากงาน โดยที่ไม่มีใครกล้าตามไปช่วย เพราะต่างก็กลัวอิทธิพลมืด ซ้ำยังไม่มีใครตอบได้ว่า ต้นสายปลายเหตุแห่งการวิวาทมายังไง รู้แต่ว่าหนุ่มเต๋าเมาแอ๋ แต่อีกฝ่ายไม่เมาเท่านั้น

ช่วงระหว่างที่ปัญหาชีวิตรุมเร้า ตกเป็นข่าวทุกวัน เขาก็หันหน้าเข้าวัดตัดสินใจบวชอยู่พักหนึ่ง ซึ่งมันก็ได้ผลเพราะใครต่างอนุโมทนาบุญด้วย คิดว่าเจ้าตัวคงอยากหาทางออกให้ชีวิต สึกออกมาคงจะเริ่มต้นใหม่ แต่ที่ไหนได้กลิ่นผ้าเหลืองยังไม่ทันจาง ก็ไปตบหัว “บอล วิทยา ทองอยู่ยง” ผู้กำกับหนังเรื่อง “แฟนฉัน” แถมยังผลักจนผู้กำกับคนดังตกเก้าอี้ลงไปนอนกองกับพื้น สาเหตุก็มาจากถูกบอลวิพากษ์วิจารณ์การแสดง และหนังของตัวเอง ว่าชอบหนังเรื่องสายล่อฟ้า มากกว่าเรื่องมือปืนโลกพระจันทร์นั่นเอง

เท่านั้นยังไม่พอ ปลายปี’ 50 เจ้าตัวก็ก่อคดีรุมกระทืบหนุ่มเชียงใหม่กลางสี่แยกไฟแดง ด้วยเหตุผลเดิมๆ คือเมาแล้วต่อมลูกผู้ชายมันตายด้าน แค่คู่กรณีบีบแตรไล่หลังรถเพราะเห็นว่าไฟเขียวแล้ว เจ้าตัวก็ถึงกับหงุดหงิด พุ่งไปลากอีกฝ่ายลงมาซัดจนน่วม ซึ่งคดีนี้ศาลตัดสินจำคุกเต๋า 3 เดือน ปรับ 2 พันบาท โทษจำคุก ให้รอลงอาญา 1 ปี ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการถูกคุมประพฤติ แต่ก็ดูเหมือนว่าโทษจำคุกจะไม่ได้ทำให้เขาสำนึกอะไรได้เลยแม้แต่น้อย ผ่านมายังไม่ทันจะครบปีดี ก็เมาอาละวาดอีก แต่ครั้งนี้เสียหมาสุดๆ เพราะดันไปต่อยคนแก่คราวพ่อที่ชื่อ “โกตา” คาร้านบะหมี่ ที่ลำปาง แถมถ้าผิดคราวนี้มีสิทธิ์ติดคุกแบบไม่มีการรอลงอาญา

น่าเสียดายที่มีต้นทุน “ความดัง” กับ “ชื่อเสียง” อยู่ในมือ แทนที่หนุ่มเต๋าจะเอาไปทำประโยชน์ให้กับสังคม หรือทำสิ่งดีๆ ได้สารพัด แต่กลับเอาไปใช้ในทางเสื่อมเสียตกต่ำ ขนาดโกนหัวบวชถึง 2 ครั้ง แต่ก็ดูเหมือนว่าผ้าเหลืองจะล้างภาพความเป็น “แบดบอย” ไม่ออกอยู่ดี

ล่าสุดหนุ่มเต๋าก็โหยหา “โอกาส” ให้ตัวเองอีกครั้ง แม้รู้เต็มอกว่ามันริบหรี่เต็มที ด้วยการเดินสายของานจากผู้ใหญ่ เพื่อหวังกลับเข้าสู่วงการบันเทิงอีกครั้ง ทั้งวงการหนัง วงการละคร แต่ที่ทำเอาฮือฮาเห็นจะเป็น การที่เขาไปเสนอตัวเป็นศิลปินในสังกัดค่ายเพลงยักษ์ใหญ่อย่าง “โซนี่ มิวสิค” ซึ่งผู้ใหญ่ก็ใจกว้างให้โอกาส แต่แค่ขอดูพฤติกรรมก่อน ว่าจะกลับตัวกลับใจได้จริงอย่างที่ปากพูดหรือเปล่า

อย่างที่รู้กัน ปั้นศิลปินคนนึงใช้เงินไม่น้อย ยิ่งในยุคแห่งการแข่งขัน ที่มีศิลปินหน้าใหม่เกิดขึ้นยังกะดอกเห็ดแบบนี้ ร้อยทั้งร้อยเจ้าของค่าย หรือแม้กระทั่งผู้จัดฯต่างๆ ก็คงจะเลือกเอามาปั้น มากกว่าเอามาใส่ตะกร้าล้างน้ำ เพราะมันง่ายและปลอดภัยกว่าเป็นไหนๆ

ถึงแม้ “โอกาส” เรื่องงานยังต้องลุ้นตุ้มๆ ต่อมๆ ต่อไป แต่เรื่องความรักหนุ่มเต๋ามาวินเรียบร้อย เพราะเพิ่งจดทะเบียนฟ้าแลบกับผู้หญิงที่เพียบพร้อมอย่าง “ยุ้ย อัฐมาศ” ไปเมื่อกลางเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ต่างๆ นาๆ ซึ่งล้วนหนักไปทางแง่ลบซะมากกว่า งานนี้ไม่ใช่แค่เขาต้องฝ่าฟันกับกระแสสังคมเท่านั้น สำคัญที่สุดคือต้องเอาชนะใจแม่ยาย เพราะการแต่งงานครั้งนี้คุณแม่ของยุ้ยไม่เห็นด้วยตั้งแต่ต้น เนื่องจากเร็วไป และผู้ชายที่ลูกสาวจะแต่งด้วยคือ “เต๋า แบดบอย”

แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ยอมเปิดไฟเขียวให้ “โอกาส” กับหนุ่มเต๋าได้พิสูจน์หน้าที่ลูกเขยตามที่ลูกสาวขอร้อง ผู้หญิงก็ให้โอกาส ที่เหลือมันอยู่ที่ตัวเต๋าว่าเขาจะทำได้ดีแค่ไหน หรือจะเหมือนกับที่ผ่านมา ที่เคยบอกไว้ว่าจะแต่งงานกับ “นัท มีเรีย” แค่คนเดียว แต่กลับกลืนน้ำลายตัวเองมาแต่งงานใหม่

ถ้าจะเป็นลูกผู้ชายตัวจริง อย่าดีแต่พูดเอาเท่ห์ไปวันๆ ถึงตอนนี้แม้ว่าคนรอบข้างจะให้โอกาสแล้ว แต่สังคมจะให้โอกาสเต๋าหรือเปล่า? เพราะสุดท้ายแล้วประชาชนเป็นคนตัดสิน

...และถ้าครั้งนี้ทำไม่ได้อีกล่ะก็ ถึงคราว "อวสาน" สมชาย จรดปลายเท้าของจริง


กำลังโหลดความคิดเห็น