“อานัส” รับห่าง “เปิ้ล ภารดี” จริง แต่อยู่ในช่วงปรับตัวเข้าหากัน เผย ปัญหาทำให้คุยกันมากขึ้น ด้านแฟนคลับสาวคนที่มีข่าวกิ๊กกัน ก็ยังสนิทเหมือนเดิม แต่ไม่เชื่อว่าคนนี้จะเป็นคนปล่อยข่าว ว่าซื้อคอนโดอยู่ด้วยกัน
เจอข่าวเขย่าความสัมพันธ์เข้าให้อีกคู่แล้ว สำหรับพระเอกหนุ่ม “อานัส ฬาพานิช” กับดาราสาว “เปิ้ล ภารดี อยู่ผาสุข” ที่ตั้งแต่มีข่าวว่าหนุ่มอานัส มีแฟนคลับสาวใหญ่มาติดพัน จนถึงขนาดซื้อคอนโดฯ อยู่ที่เดียวกัน แถมยังทำให้ความสัมพันธ์กับสาวเปิ้ล ต้องร้าวฉานอีกด้วย ซึ่งดาราสาวก็รับว่าช่วงนี้ห่างกันจริง แต่ยังไม่ถึงขั้นเลิกคบ บอกตอนนี้อยู่ในช่วงปรับตัวเข้าหากัน
“ก็อยู่ในช่วงปรับความเข้าใจกันครับ ก็เรื่อยๆ นะ ไม่ได้ห่างหายกันมากมาย ปรับความเข้าใจกันมากกว่า จริงๆ ก็ไม่รู้ว่ายังไงนะ แต่ตอนนี้ก็ขอใช้เวลาศึกษากันไป เพราะช่วงนี้มันเป็นช่วงที่ต่างคนต่างทำงานหนักนะครับ ตอนนี้เราก็คุยกันเยอะนิดหน่อย เพราะไม่ค่อยได้คุยกันมากในตอนแรกน่ะครับ”
“ปัญหาจริงๆ ก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย เพราะต่างคนต่างทำงานมากกว่า ทำให้เวลาที่จะได้เจอ ได้คุยกันมันน้อยลง เรื่องข่าวไม่ใช่ประเด็นเลยครับ เป็นที่เราต่างต้องปรับกันเองมากกว่า ก็พยายามไปเรื่อยๆ ครับ ทุกอย่างมันต้องใช้เวลา”
ส่วนข่าวที่ว่า สาวแฟนคลับย้ายตามไปอยู่ที่คอนโดเดียวกันนั้น หนุ่มอานัสเผยว่ายังสนิทกันเหมือนเดิม แถมออกตัวแทนว่าไม่รู้แฟนคลับสาวคนนี้เป็นคนปล่อยข่าวรึเปล่า เพราะออกปากว่าสาวคนนี้นิสัยดี
“เรื่องแฟนคลับเขาอายุน้อยกว่าผมครับ อายุ 25 เอง ไม่ใช่สาวใหญ่ แต่เรื่องนี้เป็นข่าวที่ไร้สาระครับ อันนี้เป็นความจริงมากๆ ผมก็ไม่รู้ว่าน้องเขาพูดจริงหรือว่าคนอื่นเอาเรื่องเขาไปพูด แต่เขาเป็นแฟนคลับผมจริง แต่ไม่รู้ว่าสิ่งที่พูดมามันออกมาจากปากน้องเขาหรือออกมาจากคนอื่น”
“เรื่องคอนโดฯเนี่ยเขาซื้อของเขาเองแหละครับ เขาซื้อหรือเขาเช่าไม่รู้ ผมก็เพิ่งมารู้ไม่กี่เดือนนี้เองว่าเขาอยู่คอนโดฯเดียวกับผม จริงๆ ก็รู้จักกันมา 2 ปีได้แล้วมั้งกับแฟนคลับคนนี้ เขาไปตามกอง ก็เหมือนกับแฟนคลับซื้อของไปให้ตามกองถ่าย น้องเขาก็โอเคนะ แต่ก็ไม่รู้ว่าข่าวที่เกิดขึ้นมามันเป็นเพราะความเข้าใจผิด หรือว่าตัวน้องอันนั้นยังไม่รู้ ยังไม่ได้คุยอะไรกันมากครับ”
เผยแฟนสาว “เปิ้ล” รู้จักกับแฟนคลับคนนี้ แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร
“น้องพูดรึเปล่าผมไม่ทราบว่าข่าวมันออกมาได้ยังไง แต่กับเปิ้ลผมไม่ได้คุยเรื่องนี้ครับ เพราะเขาก็รู้จักน้องคนนี้อยู่เหมือนกัน แต่เขาก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรขนาดนั้น”
