xs
xsm
sm
md
lg

ไม่สนคนมองเพี้ยน “ริว” โกนหัว-คิ้ว ส่วน 10 ล้านยังให้แม่ยายไม่ได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"ริว" มาแปลก โกนหัวโกนคิ้วออกงาน บอก เป็นเทรนด์ใหม่ ไม่สนคนมองเพี้ยน ย้อน ว่าคนอื่นควรย้อนมองตัวเองก่อน เผย ตอนนี้สุดสบายใจ กำลังจะบวชเพื่อศึกษาธรรมะ ส่วนเรื่อง "อดีตแม่ยาย" ออกมาเรียกค่าเลี้ยงดู 10 ล้าน เจ้าตัวยังให้ไม่ได้ เพราะยังไม่พร้อม

หลังจากอดีตพระเอกชื่อดัง "ริว อาทิตย์ ตั้งสวัสดิ์รัตน์" ต้องเจอมรสุมอย่างหนัก ความลับเรื่องที่เคยแต่งงาน 2 ครั้ง มีลูก 3 คน แตกโพล๊ะ!ออกมาให้สังคมรับรู้ ไม่กี่วันให้หลัง ก็ถูกนาง "สุภาพร อัศวกิตติเมธิน" อดีตแม่ยายออกมาแฉแหลก ว่าหนุ่มริวไม่เคยทำหน้าที่สมกับคำว่าพ่ออย่างที่เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน พร้อมกับประกาศเรียกค่าเลี้ยงดู 10 ล้านให้กับหลานชายทั้ง 2 คน จนกลายเป็นเรื่อง ทอล์ค ออฟ เดอะทาวน์ ที่หลายคนให้ความสนใจ

ล่าสุดเจอหนุ่มริวอีกครั้งในงานแต่งงานของ “เต๋า สมชาย” ก็ทำเอาหลายคนตกใจ ที่เห็นเจ้าตัวมาพร้อมลุกส์ใหม่ โกนหัวโกนคิ้วซะเกลี้ยง ผู้สื่อข่าวเข้าไปถามไถ่ ว่า เกิดอะไรขึ้น หนุ่มริวตอบกลับอย่างอารมณ์ดี ว่า ไม่ได้โกนเพราะเครียดกับข่าวที่เกิดขึ้น หากแต่เป็นเทรนด์ใหม่ที่อยากบอกให้ทุกคนรู้ ว่า ตนไม่ได้ยึดติดกับอะไรแล้ว พร้อมเหน็บ ใครหาว่าเพี้ยนให้ย้อนมองดูตัวเองก่อน

"โกนเฉยๆ โกนเองครับ โกนมาสามวันแล้ว (กลัวคนมองเราเพี้ยนมั้ย?) คนมองก็พิจารณาตัวก่อน ครับผม คือผมมีความรู้สึกว่า ผมมีอะไรต้องเคลียร์ออกเพื่อความสบายใจ และตอนนี้สบายใจแล้ว ก็ไม่มีอะไร คิดมีแต่ความสุขก็เลยอยากจะมีธรรมอันเบิกบานครับ คือเป็นเทรนด์ใหม่ เป็นสิ่งที่ริวจะแสดงออกให้เห็นว่า ริวไม่ได้ยึดติดกับผม หรือว่าคิ้ว หรือว่าหน้าตา หรืออะไรทั้งสิ้น แล้วก็ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมา ก็ได้เจอแสงสว่าง เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว"

"มีเรื่องที่ผ่านมาก็ไม่เกี่ยว ที่ริวจะโกนหัวหรือว่าอะไร ริวมีความรู้สึกว่า การที่เราเอาสิ่งหลายๆ ทั้งปวงออกไป ริวมีความรู้สึกว่าสบายใจมาก (ลากเสียงยาว) มีความสุขมาก ริวจะขอบคุณหลายคนที่เข้าใจริว และยังมีความรู้สึกที่คนไม่เข้าใจริวไม่เป็นไร ยังมีโอกาสที่ทำให้เข้าใจง่าย"

เผย เตรียมตัวจะบวชเพราะตอนนี้สบายใจมากแล้ว
”ตอนนี้ก็เตรียมตัวจะบวชครับ เดี๋ยวถึงวันบวชมันก็จะขึ้นมาผมก็โกนอีกรอบ เพราะสามารถโกนได้ เพราะยังไม่ถึงวันบวช เพราะเดี๋ยวมันก็ขึ้นมาอีก เราอาจจะนึกสนุกก็ได้ เอ๊ะแบบว่าตอนที่มีคิ้ว กับไม่มีคิ้วมันจะเป็นอย่างไร

"เรื่องบวชก็น่าจะประมาณ 7 วัน หรือ 10 วัน แต่ใจอยากบวชไปตลอด ใจนะแต่ว่าลูกยังเล็กภาระก็ยังมีครอบครัวก็เหนื่อย ยังไงก็ต้องออกมาก่อน ก็คงจะเร็วๆ นี้ครับ เดี๋ยวจะทราบชัดเจนอีกที แต่ผมคิดว่าน่าจะอยู่ในกรุงเทพฯ หลังจากบวชเสร็จแล้ว อาจจะเบรกวิเวกพักหนึ่ง ผมก็เป็นคนไทยคนหนึ่ง มีความเชื่อ มีความศรัทธาในธรรมะ และพุทธศาสนาอย่างชัดเจน นี่ขนาดยังไม่ได้บวชเลย แต่ตอนนี้เรามีความสุขแล้ว และเรารู้สึกว่าอะไรที่เกิดและผ่านมาทั้งหมดชีวิต เราเข้าใจมันแล้ว"

"ตอนนี้ไม่เครียดเลยครับ ยืนยันว่าตอนนี้ไม่เครียดแล้ว คิดว่าสบายใจแล้ว เลยคิดว่าจะบวช แล้วก็ผมได้มีโอกาสคุยกับแม่ด้วย(แม่ที่ป่วยอยู่ที่ภาคใต้) และก็คิดว่าจะทำให้แม่เห็น ตอนนี้ก็เตรียมตัวจิตบริสุทธิ์กายบริสุทธิ์ แต่งานบวชคงไม่เกินอาทิตย์นี้ครับ และผมตั้งใจมานานแล้ว ตอนนี้อายุ 31 ก็บวชให้ทุกๆ คน บวชให้แม่บวชให้ลูกบวชให้ใครก็ตามที่รักเรา และก็แผ่กุศลไปถึงทุกๆ คนที่อยู่ห่างไกลเรา ตอนนี้ถือว่าจิตนิ่งมากครับ นิ่งสงบมากๆ ครับ"

ส่วนกรณีฝ่ายเมียเก่าขอค่าเลี้ยงดูบุตร 10 ล้าน เจ้าตัวเม้ง ถามกันอีกแล้ว ปัดให้เป็นเรื่องของการเคลียร์กับอีกฝ่าย

"ปัญหาทุกอย่างมีไว้แก้ ฝั่งอาม่าก็คือเรื่องเงิน ถามเรื่องเงินอีกแล้ว คือจริงๆ มันเป็นสิ่งสำคัญก็จริง แต่ว่าเรื่องหลายๆ สิ่ง หลายอย่างสำคัญกว่านั้น คือเราดูแลกันมาโดยตลอด หมายถึงว่าเราซัพพอร์ทให้อยู่แล้ว ตามข้อตกลงเดิม ถ้าเขาขอเพิ่มจะให้เพิ่มไหม คือรอให้ผมมีมากๆ เยอะๆ กว่านี้ก่อนนะครับ เพราะตอนนี้กำลังทำงานใช้หนี้กันอยู่ ตอนนี้ก็ให้ตังค์เหมือนเดิม"

"ความจริงเป็นจริง เราไม่ทราบให้อย่างนั้นได้ เรามีกฎหมาย เรามีสัญญากันอยู่ ว่าสัญญาเท่าไหร่ต้องเป็นอย่างไร ตรงนั้นมันเป็นการตกลงเอาไว้ก่อนหน้านั้น แต่ส่วนที่เพิ่มเติมเราก็ต้องไปเคลียร์กันทีหลัง แต่ก็คือเราก็เรียบร้อย มันก็ไม่ชัดเจนมาก การเคลียร์ไม่ได้อยู่ในกฎหมายอย่างเรื่องใบหย่าเราก็ระบุเอาไว้เรียบร้อยแล้ว สิ่งที่เราจะให้หลังจากนี้ เราก็ปฏิบัติตาม และลูกๆ เราก็ดูแลกันไป เราก็มีความรักลูกอยู่แล้ว ลูกก็เข้าใจเรา ผมก็ไม่ได้มีปัญหาเรื่องอะไรเลย เพียงแต่ว่าบางสิ่งบางอย่างที่ผมจะมอบให้ แล้วสามารถมอบให้ในตอนนี้ได้ ก็จะมอบ หรือว่าตอนนี้ไม่พร้อม วันข้างหน้าที่เรามีอะไรพร้อมมากกว่านี้ เราก็สามารถมอบให้เขาได้"

"เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรครับ ริวก็ไม่ได้คุยเป็นการส่วนตัวเท่าไหร่ หลังจากออกทีวีกันไป เราก็ไม่อยากพูดถึงเรื่องอะไรเก่าๆ ซึ่งตอนนี้เรามองไปข้างหน้า เรามีความรู้สึกว่า ถ้าเรามองไปข้างหน้าไปแล้ว เราต้องช่วยกัน เพราะเราต้องมีอะไรให้ทำต้องเยอะ คือที่เรายุ่งมันเป็นเพราะเราทำงานในลักษณะทำงานไกล เราก็อยู่กับการเดินทาง อยู่กับบนรถตลอดเวลา แล้วก็อยู่กับประชุมตลอดเวลา พอไม่มีใครเห็นภาพตอนที่ผมยุ่ง"

กับลูกไม่มีปัญหา ฟุ้งเป็นเด็กดีและพร้อมที่จะก้าวเดินต่อไป

"กับลูกไม่มีปัญหาครับ เรายังเจอกันเหมือนเดิม กับลูกๆ เราไม่เคยมีเรื่องนี้เลย ลูกๆ มีความรู้สึกว่าคือวันนั้นผมไปรับลูกที่โรงเรียน เพื่อนๆ เขาก็เป็นเด็กๆ รุ่นเดียวกัน เขาไม่รู้จัก แต่ทุกคนมาเล่นกับผม ลูกผมก็งงว่าเอ๊ะทำไมเด็กๆ มาเล่นกับปะป๊าเยอะจัง กลับกลายเป็นความงงสงสัย ไม่มีผลกระทบกับลูกเลยครับ เพราะว่าลูกผมหนึ่งเป็นลูกผู้ชาย สองเข้มแข็ง สามชอบเนตรนารี สี่มองโลกในแง่ดี เพราะฉะนั้นเขาเป็นเด็กที่ค่อนข้างจะเดินไปได้ในก้าวต่อไปครับ"


กำลังโหลดความคิดเห็น