“แตงโม” แบ่งรับแบ่งสู้เรื่องสั่ง “แดนนี่” รูดซิปปากห้ามพูดเรื่องความรัก บอกเป็นข้อตกลงเพราะไม่อยากให้ใครคิดว่าสร้างกระแสรับงาน ผู้ชายมาเกาะดัง ส่วนเรื่องวีนช่างภาพที่ไปแอบถ่ายภาพขณะไปเที่ยวกับฝ่ายชาย เจ้าตัวบอกไม่เชิงวีนแต่ไม่พอใจ ทำไมไม่มาขอถ่ายดีๆ
ตั้งแต่เปิดตัวควงนายแบบรูปหล่อ “แดนนี่ ดานิเอล เบล็สซิ่ง” ไปไหนมาไหน นางเอกสาว “แตงโม ภัทรธิดา พัชระวีรพงษ์” เลยกลายเป็นที่จับตามองอีกครั้ง แถมยังมีคนตาดีเห็นว่าคู่นี้ไปเที่ยวด้วยกันบ่อยซะด้วย จนเมื่อไม่นานมานี้มีข่าวว่าช่างภาพแห่งหนึ่งไปเจอทั้งอยู่ในผับจึงเข้าไปถ่ายภาพ แต่ปรากฏว่าโดนแตงโมวีนใส่ งานนี้เจ้าตัวขอชี้แจงว่า ไม่ได้เข้าไปวีน แต่วันนั้นไปทำงาน และถ้าขอถ่ายดีๆ ก็จะไม่มีปัญหา
“จริงๆ วันนั้นโมไปทำงานที่ที่เที่ยวแห่งหนึ่ง ก็เลยนัดเพื่อนทั้งแก๊งค์ คิดว่าพอทำงานเสร็จก็จะอยู่ที่นั่นต่อยาวไปเลย แต่ละคนก็ทยอยกันมา กลัวคนไม่เชื่อมั้ย โมก็เข้าใจนะว่าทำไมคนถึงไม่เชื่อ เพราะว่าในเมื่อมันมีภาพออกมาว่าเราไปไหนด้วยกันบ่อย ถ้าเกิดเขาจะไม่เชื่อมันก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ว่าเพราะอะไรเขาถึงไม่เชื่อ”
“แต่ว่าในเมื่อถ้าโมมีโอกาสได้ออกมาพูด ออกมาอธิบายโมก็อธิบายเหมือนที่โมอธิบายให้เพื่อนฟัง ให้พี่ๆ ที่รู้จักกันฟังว่าถ้ายังไม่ใช่ก็คือยังไม่ใช่จริงๆ เพราะว่าตัวโมเองเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เรื่องแย่ๆ โมยังกล้าที่จะออกมายอมรับ แต่ถ้าเรื่องแบบนี้ทำไมถึงจะไม่เชื่อกันหน่อยเหรอ มันเป็นเรื่องง่ายมากถ้าเกิดคนเราจะเป็นแฟนกัน แต่ว่าถ้ามันยังไม่ใช่มันก็คือยังไม่ใช่”
“วันนั้นก็ไม่เชิงวีนหรอกค่ะ โมรู้สึกว่าโมไม่ได้ปิดหรอกนะวันนั้น โมก็เปิดเผยมาก ไปกับพี่แดน ไปกับเพื่อนแล้วก็ไปกับพี่วุธผู้จัดการของโม แต่ว่าถ้าจะถ่ายก็มาขอถ่ายดีๆ ได้ เพราะโมไม่ได้ปิดอะไร คือโมก็นั่งโล่งโจ่ง นั่งเด่นสง่าขนาดนั้น คือเรานั่งอยู่โต๊ะที่มันสูงกว่าโต๊ะข้างล่าง ร้านนี้เขาจะยกโต๊ะสูงขึ้นมาหน่อย แต่นักข่าวพยายามจะทำเรื่องให้เป็นเหมือนแอบถ่าย พยายามจะเบี่ยงเบนประเด็นว่าเราแอบไปกัน แล้วก็พยายามจะถ่ายภาพทีเผลอให้รู้สึกว่าชั้นไปแอบถ่ายเขาได้นะ”
“ซึ่งจริงๆ แล้วมันไม่ใช่น่ะค่ะ โมไปทำงาน แล้ววันนั้นเป็นงานจ้างด้วย เราก็ไปพร้อมกัน จะถ่ายก็ถ่ายไปเลยดีกว่า อย่าทำให้มันเป็นเรื่องที่แบบโมเปิดแล้วมาทำให้มันเป็นเรื่องที่โมจะปิดน่ะ ซึ่งจริงๆ แล้วโมเปล่า คือวันนั้นถ้าจะถ่ายก็มาขอถ่ายดีๆ ได้ มีบางเล่มนะคะที่ถ่ายปกติ แต่บางเล่มก็พยายามไปยืนอยู่ไกลๆ ไปยืนอยู่หลังเวทีแล้วก็พยายามซูมมา เพื่อจะทำให้เป็นเรื่องเหมือนแอบถ่ายน่ะ”
“เราไปไหนมาไหนด้วยกันค่อนข้างบ่อย มันเป็นธรรมชาติของคนที่สนิทกันค่ะ ไม่ว่าเราจะไปกับพี่แดน หรือคนอื่นที่เป็นเพื่อนโมที่นอกวงการ หรือเพื่อนผู้หญิง ส่วนใหญ่เราก็รู้จักกันหมด ไปด้วยกันหมด แต่ว่าคนบางคนจะรู้จักแค่โมกับพี่แดน เพราะฉะนั้นก็ตกเป็นประเด็น โมว่ามันก็เป็นเรื่องธรรมดาของวงการนี้ที่มันเป็นอย่างนี้มานานแล้ว”
รับว่าช่วงพักหลังมานี้ได้ไปเที่ยวตามผับกับหนุ่ม “แดนนี่” ค่อนข้างบ่อย แต่ก็จะมีกลุ่มเพื่อนๆ ไปด้วย ไม่เคยไปกันสองต่อสอง อ้างเพราะเต้นสองคนไม่สนุก
“ก็บางช่วงที่โมไม่มีถ่ายละครในวันรุ่งขึ้น โมก็ค่อนข้างที่จะปาร์ตี้กับเพื่อนเหมือนกัน มันมีหลายคนค่ะ โมไม่ได้ไปกับพี่แดนแค่คนเดียวอยู่แล้ว การเที่ยวสองคนมันเป็นไปไม่ได้(หัวเราะ) เพราะการเที่ยวสองคนมันไม่สนุก แล้วเราจะเต้นกับใครล่ะ เต้นกันอยู่สองคนมันก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว”
“ทุกครั้งที่โมไปก็จะมีพี่วุธผู้จัดการโมไปด้วยเสมอ แล้วก็เพื่อนคนอื่น เพื่อนดาราคนอื่นที่ไปก็มีนะ แต่ด้วยความที่เขาไม่ได้อยู่ในประเด็นก็เลยไม่ได้เป็นข่าว อย่างคนนี้เป็นข่าวบ่อยแล้วคงไม่เป็นแล้วล่ะ อย่างไผ่(พาทิศ พิสิฐกุล) โมก็ไปกับไผ่ ไปกับพี่แดนก็มีไผ่ด้วย แต่ไผ่ไม่ได้เป็นข่าวเพราะว่าไผ่เขาไม่ได้อยู่ในประเด็นแล้ว”
“ก็ยอมรับว่าไปเที่ยวบ่อยแต่ก็ไม่เชิงปาร์ตี้ซะทีเดียวหรอก โมไม่ได้เจอเพื่อนมารวมๆ 5 ปีแล้ว คือโมรู้สึกเหมือนมันได้ชีวิตวัยรุ่นกลับมาใหม่น่ะค่ะ มันก็เลยยังติดใจที่จะนั่งอยู่กับเพื่อนเก่าๆ เพื่อนที่โรงเรียนเก่า เวลานั่งคุยเรื่องเก่าๆ แล้วมันเหมือนกับเราไม่ได้นั่งคุยกันเรื่องพวกนี้มานาน”
“แล้วเราก็เข้าใจเพื่อนในบางทีที่เราติดแฟน แล้วเพื่อนจะบอกว่าลืมเพื่อน เพราะฉะนั้นถ้าช่วงนี้ถ้าเกิดยังโสดอยู่ก็อยากจะให้เวลากับเพื่อน เพราะว่าเพื่อนบางคนช่วงนี้ก็โสดชนกัน ถ้าช่วงไหนต่างคนต่างมีแฟนเราก็จะไม่เจอหน้าเพื่อนเลยเป็นปีก็มีนะคะ ช่วงนี้ก็อยู่กับเพื่อนค่อนข้างเยอะ เกือบทุกวันเลย
เผยถึงความสัมพันธ์ว่ายังไม่มีอะไรคืบหน้า และไม่เคยสั่งห้ามไม่ให้ “แดนนี่” พูดถึงความสัมพันธ์เพียงแต่ตกลงกันไว้ก่อนแล้ว เพราะไม่อยากให้ดูเป็นการสร้างกระแส
“ความพัฒนายังเป็นไปไม่ได้นะคะ เพราะว่าอย่างที่โมเคยบอกว่าโมเองยังไม่พร้อมจะมีใคร โมขอเวลาเป็นปีกว่าที่โมจะรู้สึกว่าโมต้องการใครมาอยู่ด้วย คือการที่โมลดระดับความสัมพันธ์กับพี่ก้องเนี่ย มันไม่ใช่เพราะว่าโมทำไปเพื่อต้องการมีคนอื่นมาทดแทน มันไม่ใช่แบบนั้น โมทำไปเพราะว่าบางทีเราต้องการอิสระ เพราะฉะนั้นโมก็ใช้ชีวิตอย่างถูกจุดประสงค์ที่ได้ตัดสินใจลงไป คือพอเลิกแล้วอยากจะมีชีวิตอิสระก็ต้องใช้ตรงนี้ให้เต็มที่ เพราะว่าใจเราอยากลองใช้ชีวิตคนเดียวดูบ้าง”
“โมว่าโมกับพี่แดนมีระยะห่างค่อนข้างเยอะ เราไปไหนมาไหนด้วยกันจริง แต่ว่าในมุมส่วนตัวเราไม่ได้เข้าถึงกันแน่ๆ เอาง่ายๆ เราออกไปเที่ยวด้วยกันเพราะมันเป็นที่สมควรแก่การจะไป คือไม่ว่าจะเพื่อนคนไหนสนิทมากหรือสนิทน้อยเราออกไปเที่ยวกันได้ แต่เวลาที่เป็นส่วนตัว เวลาที่เราปรึกษาใครสักคน หรือว่าเวลาที่เรามีโลกส่วนตัวของเรา เราอยากจะแชร์ความรู้สึก ไม่ใช่ทุกคนที่จะมาอยู่ตรงนี้ได้ และพี่แดนก็ยังไม่ได้อยู่ในตรงนั้น”
แบ่งรับแบ่งสู้กระแสข่าว "แตงโม" สั่ง "แดนนี่" ปิดปากห้ามเปิดเผยถึงความสัมพันธ์
“โมไม่เชิงว่าสั่งค่ะ แต่เราลงความเห็นพ้องต้องกันแล้วว่าในเมื่อเราทั้งสองคนไม่ได้คิดที่จะใช้กระแสข่าวหรือว่าใช้การเป็นข่าวเพื่อทำให้เราสองคนมีชื่อเสียง หรือว่าจะมีการเรียกงานมากขึ้น คือเราสองคนไม่ได้คิดแบบนั้น เพราะฉะนั้นพูดน้อยที่สุดมันก็เป็นการพิสูจน์ว่า เราไม่ได้มาฉาบฉวยตรงนี้ เราก็ต้องพิสูจน์ตัวเองด้วยกันทั้งคู่”
“แต่ว่าอย่างตัวโมเองออกมาทำงานข้างนอกค่อนข้างบ่อย เจอพี่ๆ นักข่าวบ่อยกว่าการที่โมออกมาพูดมันเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ แต่ว่าโมก็จะอธิบายทุกๆ ครั้งในลักษณะเดียวกันว่ามันไม่ได้มีอะไร แล้วตัวพี่เขาเองก็อยากจะพิสูจน์ให้หลายๆ คนเห็นด้วยว่าเขาไม่ได้มาใช้อะไรตรงนี้เพื่อเป็นบันไดเหมือนที่คู่อื่นอาจจะมีบ้าง”
“โมเองก็เห็นด้วยกับการที่เขาจะไม่ให้สัมภาษณ์เรื่องโม เพราะว่าโมก็ไม่อยากให้คนอื่นมามองเขาในทางนั้นว่าเขาใช้โมเป็นบันไดรึเปล่า ก็ไม่ได้คุยกันเรื่องนี้บ่อยค่ะ เพราะว่าพอเราเข้าใจในกลเกมของข่าวแล้ว เราก็สรุปหาทางว่าเราจะพูดไปในทางแนวไหน ก็ยึดการตัดสินใจคราวนั้น ก็ยึดแล้วก็ปฏิบัติมาตลอดค่ะ”
