"คริส อัลเลน" หนุ่มเจ้าเสน่ห์ผู้มีความสามารถในการเล่นดนตรีทั้งกีตาร์และเปียโน พลิกโผกลายเป็นผู้ชนะการประกวดการแข่งขันร้องเพลงที่โด่งดังที่สุดของอเมริกาอย่าง American Idol ซีซั่นที่ 8 เฉือนชนะตัวเต็งทั้งฤดูกาลอย่าง "อดัม แลมเบิร์ต" ผู้ที่เสียงร้องแหลมสูงและมีประสบการณ์ในวงการละครเวทีมาหลายปี ในการเฉือนกันเพียงล้านคะแนนเสียงจากผลโหวตทั้งสิ้นเกือบร้อยล้านในปีนี้
การตัดสินรอบสุดท้ายของการแข่งขัน American Idol ประจำปีนี้ที่จัดติดต่อกันเป็นปีที่ 8 ที่ Nokia Theatre ในลอส แองเจลิส เมื่อคืนวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา เกิดการพลิกล็อกเป็นปีที่สองติดต่อกัน เมื่อ อดัม แลมเบิร์ต ตัวเต็งวัย 27 จากแคลิฟอร์เนียที่ทาง Entertainment Weekly ขนานนามเขาว่าเป็น "ผู้เข้าแข่งขันอเมริกันไอดอลที่น่าตื่นเต้นที่สุดในช่วงหลายปี" ที่หลายฝ่ายมองว่ามาอย่างใสๆ ในปีนี้ กลับพลาดแชมป์ให้กับผู้แข่งม้านอกสายตาอย่าง คริส อัลเลน หนุ่มใสแต่ไม่โสด นักศึกษาวัย 23 ผู้เคร่งศาสนาจากรัฐอาร์คันซอ ที่ใช้มาดนุ่มเฉือนการแสดงที่แสนอลังการของคู่แข่งตัวเต็งคว้าแชมป์ในปีนี้ไปครอง
อัลเลนที่ไม่คิดว่าตัวเองจะมาได้ไกลถึงขนาดนี้กล่าวหลังจากคว้าชัยในคืนนั้นว่า "ผมรู้สึกดีมากๆ แต่อดัมสมควรที่จะเป็นผู้ชนะ ผมเสียใจด้วยจริงๆ ผมไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรตอนนี้ มันบ้ามากๆ"
ย้อนกลับไปเมื่อการคัดตัวเมื่อฤดูร้อนปีก่อน อัลเลนซึ่งเคยมีผลงานอัลบั้มของตัวเองออกมาแล้วเมื่อปี 2007 ที่มาออดิชั่นด้วยท่าทางไม่มั่นใจได้ตอบคำถามกรรมการที่ว่าเขาคิดว่าตัวเองเป็นนักร้องที่ดีที่สุดในวันนั้นแล้วหรือยังด้วยความถ่อมตนว่า "คุณรู้ไหม มันต้องมีใครซักคนที่ดีกว่าผมแน่ๆ" ซึ่งหลายฝ่ายและแม้แต่ตัวอัลเลนเองก็ไม่คิดว่าเขาจะมาไกลถึงรอบ 12 คนสุดท้ายด้วยซ้ำ
ไซมอน คาวล์ คอมเมนเตเตอร์หลักของรายการออกมายอมรับว่าเขาเคยกังขามาตลอดว่าอัลเลนจะมาได้ไกลถึงรอบสุดท้ายหรือเปล่า
"ตอนที่ชื่อคุณถูกประกาศออกมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตอนนั้นผมไม่มั่นใจว่าอเมริกันชนตัดสินใจถูกหรือเปล่า แต่ตอนนี้ผมเข้าใจดีแล้ว" โควล์กล่าวในช่วงต้นของการแข่งขันดวลเพลงเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
แตกต่างจากแลมเบิร์ตที่เปิดตัวอย่างร้อนแรงด้วยการแสดงที่แสนอลังการ ทั้งเสียงร้องที่แหลมสูงและช่วงเสียงที่กว้าง การทาเล็บสีดำและชุดแต่งกายที่ฉุดฉาด ที่เป็นอิทธิพลมาจากประสบการณ์ด้านละครเวทีตั้งแต่ 10 ขวบของเขา ที่ขโมยซีนรายการมาอาทิตย์ต่ออาทิตย์ จนหลายคนเปลื่อนชื่อรายการให้เป็น The Adam Lambert Show ทีเดียว
ก่อนการตัดสินผู้ชนะ อัลเลนได้ร้องเพลงคู่กับ คีธ เออร์บัน ส่วนแลมเบิร์ตได้ร้องเพลงคู่กับวง KISS ก่อนที่ทั้งคู่จะมาร้องเพลงร่วมกันใน We Are the Champions ร่วมกับสมาชิกดั่งเดิมของวง Queen ซึ่งคอมเมนเตเตอร์คนดังอย่างไซมอนได้กล่าวชื่นชมทั้งคู่พร้อมๆ กันว่า "พวกคุณทั้งคู่ช่างวิเศษสุด...อนาคตเป็นของพวกคุณแล้ว "
"อดัมคือผู้ชนะ คริสก็เช่นกัน คืนนี้ไม่มีผู้แพ้ นี่คือแชมเปี้ยนทั้งสองคน" พอล สแตนลีย์ มือกีตาร์ของวง Kiss ให้ความเห็นต่อสองคู่ชิงครั้งนี้หลังผลการลงคะแนน
ซึ่งความเห็นของทั้งสองคนสะท้อนสิ่งที่เกิดขึ้นช่วงหลายปีที่ผ่านมาของอเมริกันไอดอล เพราะผู้ประกวดบางคนได้แสดงให้เป็นว่าการพลาดแชมป์บนเวทีนี้ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นการปิดอนาคตตัวเองบนวงการบันเทิงแต่อย่างใด เช่นเดียวกับการเป็นผู้ชนะก็ไม่ได้หมายความว่าจะการันตีอนาคตที่สดใสในวงการได้
คริส ดอจทรีย์ และ เจนนิเฟอร์ ฮัดสัน ผู้ที่มาไกลได้เพียงอันดับที่ 4 และ 7 ในปีที่พวกเขาลงแข่งขัน กลับมีเส้นทางในวงการที่ยอดเยี่ยม ขณะที่ผู้ชนะไอดอลในแต่ละปีมีทั้งผู้ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงอย่าง แครี อันเดอร์วูด จนถึงคนที่ต่อมาแทบจะไม่มีใครรู้จักอย่าง เทเลอร์ ฮิกส์
หลังเวที ผู้เแพ้อย่างแลมเบิร์ตที่ดูผ่อนคลายกล่าวแสดงความยินดีต่อผู้ชนะว่า "ผมคิดว่าคริสชนะเพราะว่าเขาเป็นศิลปินที่ยอดเยี่ยม และยินดีที่เป็นรองแชมป์ให้กับคนอย่างเขา"
ส่วนอัลเลนที่ยังตื่นเต้นไม่หายกับชัยชนะที่ได้มาอย่างเหลือเชื่อได้เปิดใจที่หลังเวทีว่า "ผมรู้สึกช็อคในทุกๆ สัปดาห์ที่ผมผ่านมาได้แต่ละขั้น การได้มาเป็นอเมริกันไอดอลในที่สุดเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมากๆ" ก่อนจะกล่าวชื่นชมคู่แข่งของเขาว่า "เขาเหมาะสมที่จะเป็นผู้ชนะพอๆ กับผม" พร้อมยกย่องแลมเบิร์ตว่าเป็น "นักร้องที่วิเศษสุด"
โดยอเมริกันไอดอลคนล่าสุดเปิดใจว่าสิ่งแรกที่เขาอย่างทำก็คือการกลับไปทำหน้าที่สามีของเคที ภรรยาของเขาที่อัลเลนเรียกว่าเป็น "สาวที่แจ่มที่สุดในโลก"
ชัยชนะของอัลเลนปีนี้เหมือนจะย้อนรอยการแข่งขันเมื่อปีที่แล้ว เมื่อตัวเต็งอย่างหนุ่มน้อย เดวิด อาร์ชูเลตา ที่นอนมาจนสัปดาห์สุดท้าย กลับตกม้าตายให้กับรุ่นพี่อย่าง เดวิด คุก
มีการวิเคราะห์กันว่าคะแนนที่มีการพลิกผันครั้งนี้เกิดจากคะแนนที่ได้มาจากการจากไปของ แดนนี โกคีย์ ผู้ครองอันดับที่ 3 ของปีนี้ ที่คะแนนเสียงที่เคยสนับสนุนเขากลับย้อนมาเป็นกำลังสำคัญให้กับอัลเลน เนื่องจากทั้งคู่มีภาพลักษณ์แบบที่อเมริกันชนชื่นชอบเหมือนกัน เมื่ออัลเลนเป็นนักศึกษาหนุ่มที่เพิ่งจะมีครอบครัว ผู้ที่กล่าวถึงภรรยาสาวอยู่เสมอว่าเป็นกำลังใจสำคัญของเขา และเคยร่วมกิจกรรมกับทางโบสถ์มาแล้ว เช่นเดียวกับโกคีย์หม้ายหนุ่มที่เป็นผู้อำนวยการดนตรีให้กับทางโบสถ์เช่นกัน
ซึ่งแตกต่างจากแลมเบิร์ตหนุ่มจากแอล.เอ.ที่เก็บเรื่องราวชีวิตส่วนตัวให้เป็นปริศนา ที่มาเติมเต็มความเป็นร็อคให้กับเวทีอเมริกันไอดอลด้วยเพลงอย่าง Whole Lotta Love ที่เป็นครั้งแรกที่รายการประกวดการร้องเพลงที่ดังที่สุดของอเมริกานำเพลงของ Led Zeppelin มาเปิดการแสดงทางโทรทัศน์
ซึ่งในช่วงใกล้ถึงการตัดสินผู้ชนะได้มีข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วอินเตอร์เน็ตว่าแลมเบิร์ตปกปิดการเป็นชาวรักร่วมเพศเดียวเอาไว้ เมื่อถามถึงความเห็นนี้เขาตอบแต่เพียงว่า "ผมเป็นอย่างที่ผมเป็น" และเคยเปิดใจเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่าเขาหวังว่าผู้ชนะครั้งนี้จะไม่เกิดจากคะแนนที่เรียกว่า "คริสเตียนโหวต"
"ผมหวังว่าการแข่งขันครั้งนี้จะวัดกันที่ความสามารถของผู้เข้าแข่งขัน, การแสดงที่คุณมอบให้กับผู้ชม และภาพรวมที่คุณมีอยู่ในตัว มันไม่เกี่ยวกับความเชื่อทางศาสนาหรือเรื่องอะไรพรรณนั้น มันเกี่ยวกับดนตรี ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่คุณต้องนึกถึงเสมอ" รองแชมป์กล่าว ก่อนจะทิ้งท้ายหลังการแข่งขันเมื่อคืนสิ้นสุดลงว่า "สำหรับผมมันไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนี้ มันเกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้"
อดีตบาร์เทนเดอร์ เฉือน หนุ่มอัจฉริยะ คว้าชัย American Idol 2008
สาว 17 "จอร์ดิน สปาร์คส" คว้าแชมป์ American Idol 2007
American Idol 2006 ประกาศแล้ว หนุ่มป่วนคว้าชัย!
Kris Allen & Adam Lambert - We Are the Champions with Queen
American Idol 2009 Finale -- Winner Announcement
