“ลูกตาล” ยัน ยังไม่เลิก “เอเอ” แค่ห่างเฉยๆ ป้อง “แพม” ไม่ใช่มือที่สามทำให้รักสั่นคลอน แต่เป็นปัญหาของคนสองคนที่ไม่เข้าใจกัน บอก ตอนนี้ต่างฝ่ายต่างปรับเข้าหากัน ส่วนข่าวที่บอกว่าสาวลูกตาลตามไปทะเลาะกับเอเอถึงหน้าบ้านเหตุเพราะหึงแพมนั้น เจ้าตัวโต้เสียงแข็ง พร้อมบอก ไม่ต้องตามเคลียร์ขนาดนั้น เพราะรู้อยู่แล้วว่าอะไรเป็นอะไร
หลังจากมีภาพสาว “แพม ปานพิมพ์ เตชะธนชัยพัฒน์” นางเอก “เดอะกิ๊ก3” ขึ้นรถไปกับนายแบบหนุ่ม “เอเอ พีรวัชร์ เหราบัตย์” หวานใจของสาวเซ็กซี่ “ลูกตาล อาริษา วิลล์” จนทำให้สาวลูกตาลทะเลาะกับหนุ่มเอเอยกใหญ่ที่หน้าบ้านของฝ่ายชาย ยิ่งประจวบเหมาะกับตอนนี้ที่ทั้งคู่ออกมายอมรับว่าห่างกันแล้ว งานนี้สาวแพมก็เลยโดนข้อหามือที่สามไปเต็มๆ ร้อนถึงสาวลูกตาลกับหนุ่มเอเอต้องออกโรงเคลียร์ด้วยตัวเอง ยัน ไม่เคยไประเบิดอารมณ์ใส่กันขนาดนั้น พร้อมป้องสาวแพมไม่ใช่ต้นเหตุที่ทำให้ความรักง่อนแง่น แต่เป็นเพราะความไม่เข้าใจกันเองมากกว่า
ลูกตาล : “ก็คือตัวแพมก็เคยเจอกันอยู่แล้ว แล้วรู้ว่าพี่เอวันนั้นเขาไปทำงาน แล้วก็ลงมาจากตึกคือไม่ได้ไปไหน อาจจะเป็นการโปรโมตหนังหรือเปล่า ก็น่าจะเป็นส่วนนึงด้วย แล้วพี่เอก็เล่าให้ฟังเหมือนกันว่าจะมีภาพ คือเขาโทรมาบอกคุยกับเราก่อนอยู่แล้ว เราก็เลยไม่ได้ซีเรียสเรื่องนี้ เพราะว่ามีอะไรพี่เอก็บอกหมด”
“เห็นภาพแล้วก็รู้สึกเฉยๆ เพราะว่ารู้อยู่แล้ว ก็เลยไม่ได้คิดอะไร ส่วนจะเป็นการสร้างกระแสหรือโปรโมทหรือเปล่า ตาลว่าก็อาจจะเป็นไปได้ มันก็ต้องมีการทำโปรโมทด้วยเพราะว่า พี่เอกับแพมเขาคงไม่ได้ไปนัดอะไรกันอย่างนั้นแน่นอน มันไม่มีอะไรอยู่แล้ว”
เอเอ : “ก็บอกตลอด บอกว่าวั้นนั้นทำอะไรบ้าง ทำอะไรอยู่ เดินลงมานะ เดินไปขึ้นรถนะ คือบอกตลอด”
ลูกตาล : “ตาลก็ไปหาที่กองบ้าง ไปบ้างประมาณ 2 ครั้งคือว่างก็ไป โลเคชั่นมันอยู่ใกล้กันก็เลยไป แล้วตาลก็ ไม่ได้ไปคุมค่ะ ตาลไปก็อยู่นิ่งๆ เงียบๆ ก็ไม่ได้ไปวุ่นวายอะไรในกอง อย่างวันนี้ที่มาตาลก็ไม่ได้มาดูหน้าแพม ไม่เกี่ยวกับแพมเลย เพราะตาลก็เคยเจอในกองอยู่แล้ว เพราะว่าเคยมาหาพี่เอที่กอง ก็เจอแพม แต่ว่าไม่ได้พูดคุยกันอะไรมากมาย ก็มีทักๆ บ้างแต่ว่าวันนี้ไม่ได้มาดูหน้า ไม่ได้อะไร พอดีว่าพี่เอเขาชวนด้วย แล้วเราก็อยู่แถวนี้ก็เลยมา”
“น้องเขาไม่ได้เป็นมือที่สามหรอกค่ะพี่ แพมเขาก็เป็นเด็กเรียบร้อยนะ จริงๆ ก็ไม่ได้มาเป็นมือที่สาม เขาก็รู้ เขาก็ฝากบอกพี่เอมาว่าพี่ตาลคิดอะไรหรือเปล่า มีอะไรก็เคลียร์กันได้นะ คุยกันได้ ไม่มีอะไรจริงๆ อย่างวันนี้ตาลก็ยังไม่ได้เจอเลยค่ะ เพิ่งมาเนี่ยค่ะ แต่คงไม่ได้คุยอะไรกันก็คงจะแสดงความยินดีเรื่องงานมากกว่า แต่ว่าคงไม่ได้พูดถึงเรื่องข่าว (เอเอบอกว่าลูกตาลก็ค่อนข้างขึ้หึงเหมือนกัน?) ขี้หึงค่ะ แต่มีเหตุผลนะ แต่ว่าถ้าหึงตาลคงไม่ไปอะไรกับผู้หญิงอยู่แล้ว ก็คงจะคุยๆ กับพี่เอมากกว่า”
“เท่าที่ตาลรู้จักเขาไม่ได้เป็นคนเจ้าชู้ แต่ว่าบางทีก็ต้องระวังเรื่องความอัธยาศัยดีเกินไปของเขา คือเขาไม่ได้คิดอะไร เฟรนลี่เกิน เป็นคนคุยเก่ง ชวนคนนั้นคนนี้คุยก็อาจจะทำให้ฝ่ายนึงคิดหรือเปล่าไม่รู้ แต่ว่าถ้าพี่เอาเขารู้ตัวว่าฝ่ายโน้นคิดกับเขาขึ้นมา เขาก็จะเฟดตัว ไม่รู้เป็นการอ่อยหรือเปล่านะ (หัวเราะ) แต่ว่าจริงๆ แล้วเขาก็ไม่ใช้คนเจ้าชู้ค่ะ”
ปฏิเสธข่าวไปทะเลาะกันที่หน้าบ้านเอเอ บอกไม่จำเป็นต้องเคลียร์ขนาดนั้นเพราะรู้อยู่แล้วว่าอะไรเป็นอะไร
ลูกตาล : “ไม่มีเลยค่ะ ไม่มีเลย อย่างเรื่องแพมวันที่เห็นหนังสือตาลก็อยู่กับพี่เออยู่แล้ว ไปกินข้าวกันแล้วก็เห็นหนังสือแค่นั้นเอง ก็ไม่ได้ไปทะเลาะอะไรกันเลย ไม่ได้ไปถึงหน้าบ้าน ไม่มี ไม่จำเป็นต้องเคลียร์อะไรขนาดนั้นเพราะว่ารู้อยู่แล้วว่าอะไรเป็นอะไร คือถ้าคบกันไม่ก็ต้องไม่โกหกอยู่แล้ว ฉะนั้นเราก็เปิดกันมากกว่า จะทำอะไรก็ขอให้บอก อย่าโกหก แล้วก็ค่อนข้างที่จะคุยกันรู้เรื่อง คุยกันเหมือนเพื่อนด้วย ก็เลยเข้าใจกันมากขึ้น เข้าใจกันง่าย”
เอเอ : “อย่างที่ผมบอก ผมเป็นคนเปิดเผยมีอะไรผมบอกหมด ปกติแล้วมีอะไร ผมจะไปไหน ออกไปไหนกับใครผมจะบอกก่อน ตาลเขาจะรู้ทุกเรื่องว่าผมไป (ที่ต้องบอกเพราะว่าตาลขี้หึงด้วยหรือเปล่า?) ไม่ได้ขี้หึง ก็ต้องให้เกียรติ ก็มีพวกพี่ๆ ไงช่วยเป็นตัวบอกว่าผมว่าผมทำอะไรบ้าง แต่ว่าส่วนใหญ่ผมก็จะบอกหมดว่าผมทำอะไร”
ยัน แค่ห่างแต่ยังไม่เลิกกัน
ลูกตาล : “มันห่าง ก็คืออย่างที่บอกว่าห่างเฉยๆ ห่างแบบไม่ได้เจอ ไม่ใช่ว่าห่างแบบว่าเลิกกัน เราก็ยังคุยกันอยู่ตลอด พี่เอก็ยังสนิทที่สุดอยู่”
เอเอ : “ทะเลาะกันมันก็ต้องมีบ้าง คือคนเรามันเกิดมาจากครอบครัวที่แตกต่างกัน ต้องเข้าใจ พ่อแม่ก็แตกต่าง การเลี้ยงดูก็ปลูกฝังคนละแบบกันแล้ว มันก็ต้องมีความไม่เข้าใจกันบ้าง ก็ต้องปรับๆ กันไป”
ลูกตาล : “ทะเลาะมันมันคือบางเรื่องที่แบบว่าไม่เข้าใจกัน หรือว่าเขาไม่ชอบในตัวเรา มันก็ต้องมีผิดใจกันบ้าง แต่ก็เคลียร์ทุกครั้งค่ะ “
ผู้สื่อข่าวแย็บถามว่าเท่าที่คบมามีผู้หญิงเข้ามาหาเอเอเยอะมั้ย สาวลูกตาลรีบโบ้ยให้ไปถามแฟนหนุ่มเอาเอง
ลูกตาล : “ต้องถามพี่เอเอง (หัวเราะ) อันนี้ตาลก็ไม่รู้ แต่เขามีอะไรเขาก็จะเล่าให้ฟัง ไม่รู้อะ มีเปล่า..”
เอเอ : “ไม่มีเลย เชื่อเปล่าครับ ไม่มีใครเข้ามาหาผมเพราะว่า โดยปกติแล้วผมจะเป็นคนที่ทำงาน กลับบ้าน เล่นกีฬากลับบ้านอย่างนี้ตลอด ผมไม่เคยไปไหนเลย ไม่เคยเจอใครเลย”
ลูกตาล : “เขาเป็นคนเหมือนมีกำแพง เข้าถึงตัวเขายาก ลุคส์เขาดูแบบเจ้าชู้ เที่ยวกลางคืน แต่จริงๆ แล้วไม่เที่ยวเลย ไม่กินเหล้า เหมือนเป็นเด็กมากกว่า ตาลยังรู้สึกว่าตาลโตกว่าเลย”
สุดแฮปปี้ คบกันมาหนึ่งปีรู้สึกว่าเป็นคนที่ใช่ของกันและกัน
ลูกตาล : “ก็ประมาณปีนึงค่ะ ก็แฮปปี้ดีค่ะ ไม่ได้รู้สึกว่าแย่ ลำบากเราคือเรื่อยๆ ซิลล์ไม่ได้ผูกมัดหรือว่าไม่ได้อะไร แต่ก็คืออย่างที่ตาลเคยบอกไป เวลาคุยแล้วโอเค เจอคนที่ใช่ คุยกันรู้เรื่อง เราก็อยากจะคุยทีละคนมากกว่า (ณ วันนี้ใช้คำว่าแฟนได้ยัง?) ยังค่ะ แฟนเอาไว้ตอนจะแต่งงานดีกว่า อันนี้คือสนิทกัน คบกัน ต้องมั่นใจว่าคนนี้เราจะแต่งงานด้วย”
เอเอ : “แฟนมันเหมือนอะไรที่ยิ่งใหญ่มาก คือแบบว่าต้องหมั้นหมายกันแล้ว เราจะแต่งงานแล้ว ขนาดพ่อแม่ผมยังเรียกว่าแฟนกันเลย ยังไม่เรียกว่าสามี-ภรรยาเลย”
