xs
xsm
sm
md
lg

“อ้น” ยังไม่คิดแต่ง “นวล” บอก อยากใช้ชีวิตให้เต็มที่ก่อน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“อ้น” เผย แม้บวชแล้วแต่ยังไม่พร้อมเบียด บอก “นวล” เข้าใจไม่เร่งรัด ลั่น อยากใช้ชีวิตให้เต็มที่ก่อนมีครอบครัว เจ้าตัวรับ ที่ผ่านมาทะเลาะกันบ้าง แต่ดีที่แฟนสาวเป็นคนมีเหตุผลและให้อภัย จึงทำให้มีวันนี้

หลังจากผ่านมรสุมคลิปหลุดมา พระเอกหนุ่ม “อ้น สราวุธ มาตรทอง” ก็หันหน้าเข้าวัดลาบวชเพื่อสงบจิตสงบใจอย่างที่ตนเองตั้งใจ ล่าสุด ก็กลับมารับงานละครอีกครั้ง พร้อมเปิดใจเรื่องหัวใจกับแฟนสาวไฮโซ “นวล กุลนวล จันทรทรัพย์” ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าทั้งคู่เริ่มห่างกัน ส่อแววรักล่มอีกราย งานนี้หนุ่มอ้นยืนยันยังรักกันดี เหมือนเดิม เพียงแต่ยังไม่พร้อมแต่งงานในตอนนี้ เนื่องจากไม่พร้อมจะใช้ชีวิตครอบครัว

“บวชแล้วยังไม่เบียดครับ เราตั้งใจทำงานฝั่งนู้นก็ต้องเรียนหนังสือหนัก เขาไม่ได้มีชีวิตอยู่เพื่อจะแต่งงาน เขาก็เลยอยากจะทำถึงด็อกเตอร์เพราะก็เห็นเขาเล็งๆ อยู่ เราก็ยังเจอกันครับ กินข้าวดูหนังกันบ้าง เราต้องดูหนังผีด้วยกันครับ เพราะว่าเราชอบดูหนังผี พอบวชมาทำให้เราคิดสิ่งใกล้ตัวมากขึ้น ก็เลยคิดว่าถ้ามันถึงเวลาที่ทุกอย่างมันลงตัวมันก็จะมาเอง ทุกวันนี้การนึกถึงอนาคตมากๆ มันก็จะทำให้ทุกข์ครับ เลยไม่อยากคิดไม่อยากแบก ก็เลยทำงานคิดที่จะทำงาน อาทิตย์นี้มีอะไร อยู่กับโปรแกรมใกล้ๆ”

“ตอนนี้เขาก็เข้าใจว่าเราคิดอย่างนี้นะ เพราะเขาก็รู้จักเราในระดับหนึ่ง ตอนเราคบกันตอนแรกก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว เขาก็ชอบคนแบบนี้ด้วยนะ ผมชอบเดินทางไม่ชอบอยู่กับที่ ก็คิดว่าถ้าวันหนึ่ง เขาต้องการผู้ชายที่อยู่นิ่งๆ เพื่อเขา ไม่เหมือนผมตอนนี้ก็แล้วแต่ครับ แต่เขาชอบที่ผมเป็นแบบนี้”

“เมื่อก่อนคิดว่าอยากมีลูกตอนอายุ 35 แต่บวชแล้วคิดว่ายังรู้สึกว่าผมยังไม่อยากสูญเสีย คือถ้าผมมีลูกผมต้องดูแลครอบครัว แต่ผมไม่อยากเห็นหนุ่มเดินผ่านมา แล้วแบกเป้ถามไปไหน ไปฑิเบต ไปเนปาล ซึ่งผมยังไม่เคยไป ผมไม่อยากเสียดาย ผมยังอยากใช้ชีวิต คนเรามันไม่ควรมีความเสียดายอะไรหลายๆ อย่าง ในเมื่อชีวิตเป็นของเราแล้ว ก็เลยคิดว่ายังอยากมีหลายๆ ที่ที่อยากเดินทาง ยังไม่พร้อมที่จะนิ่งมากในตอนนี้ แต่ว่าพร้อมที่จะเป็นคนที่รัก พร้อมที่จะให้กำลังใจ แต่ยังไม่พร้อมจะมีครอบครัว ตอนนี้มองๆ กันแล้วเรามีความสุขกันไหม มองหน้ากัน มีกำลังใจให้กัน เพราะตอนนี้ต่างฝ่าย ต่างก็ให้กำลังใจกันมากๆ เพราะมันเหนื่อยจริงๆ”

“เรายังไม่ได้เข้าไปถึงตัวครอบครัวอะไรเลยครับ เราก็เคารพผู้ใหญ่ตามฐานะ เรายังไม่ได้ไปถึงอะไร เพราะต่างคนก็ต่างให้เกียรติผู้ใหญ่ แต่เราไม่ได้ไปทำตัวประจี๋ประจ๋า เราคบกันมาประมาณ 2-3 ปี วันนี้มันดีครับ อนาคตไม่รู้ เหมือนบวชไม่บอกล่วงหน้า ไม่รู้ แต่พอถึงเวลาใกล้ๆ ก็บอก ถ้ามีวันอะไรดีๆ ก็จะบอกเรื่อยๆ”

ฟุ้ง ต่างคนต่างปรับเข้าหากัน เลยทำให้มีทุกวันนี้
“ผมเป็นคนเก็บครับ ไม่ใช่เสียงดัง เวลาทะเลาะแต่ก็มีเหมือนกันที่เสียงดัง แต่สักพักก็รู้สึกตัว เราไม่ควรทำอย่างนี้เลยก็ขอโทษ แต่เขามีเหตุผลนะ เวลาที่มีปัญหาคือผมจะเก็บอารมณ์เปลี่ยนแปลง เขาก็จะแย้งทำไมแบบนี้ มันก็จะเป็นเรื่อง มีอยู่ช่วงหนึ่งถ่ายหนัง เขาบอกว่าผมนิสัยไม่ดี แต่ผมทิ้งไปแล้วนะกับบทบาทในหนังที่ได้รับ แต่มันไม่หมดไง ก็เลยกลายเป็นว่าผมก้าวร้าว”

“ผมก็ปรับครับ ต่างคนต่างปรับไปเรื่อยๆ เราพยายามคุยกันว่าผมไม่อยากเป็นแฟนอย่างเดียว ผมอยากมีเพื่อน เพราะเป็นแฟนอย่างเดียวมันอึดอัด อายุห่างกันประมาณหกปี เหมือนเพื่อนกันครับ คบกันคุยกันสบายๆ ทำบ้า ทำบอบางทีเขางอแงมาเราก็จะนิ่งๆ บางทีเราก็จะเกเรมากๆ เราก็บอกให้เขาฟัง เขาก็จะให้อภัย”

เปรยเอง เพราะจากเหตุการณ์ที่ผ่านมาจึงทำให้ตนคิดว่าควรอยู่ในความไม่ประมาท ตอนนี้ก็เลยไม่อยากคิดถึงเรื่องอื่น
“จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา ชีวิตไม่ควรประมาทครับ พุทธศาสนาก็สอนอย่างนั้น ถือว่าตอนนี้ผ่านมาแล้ว เจอใครก็ไม่ถามถึงเรื่องนี้แล้ว เราก็ไม่อยากพูดถึงมัน เพราะมันไม่ใช่เรื่องดี เราก็รู้สึกว่ามันเป็นบทเรียนของชีวิต จริงๆ ก็ไม่อยากพูดถึงมัน พอเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น ฟ้าหลังฝนมันผ่านไปแล้วครับ คงไม่มีใครที่ทำถูกทุกอย่าง มันก็ต้องผิดกันบ้าง ตอนนี้พยายามปล่อยวาง แต่การปล่อยวางเป็นเรื่องยากนะครับ มันไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะใจของเรามันเป็นเรื่องที่ยากที่สุด”


กำลังโหลดความคิดเห็น