“เปรม” โต้ควง “จ๋า” ไปสวีทที่หัวหินสองต่อสอง เผยแค่ไปเจอกันและไปกันเป็นก๊วนใหญ่ ย้ำตอนนี้ยังไม่คิดจีบ ขอเป็นเพื่อนให้ผ่านก่อน อนาคตค่อยว่ากัน ปฏิเสธข่าวเซ็นสัญญากับช่อง 3 เผยมีละครติดต่อเข้ามา แต่ยังไม่ขอเป็นพระเอก ขอแค่พระรอง เพราะยังไม่เก๋าประสบการณ์พอ
ตั้งแต่มีข่าวว่าเดินหน้าจีบวีเจสาว “จ๋า ณัฐฐาวีรนุช ทองมี” อย่างเต็มตัว ก็เป็นที่จับตามองอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเกิดมีคนตาดีเห็นว่าทายาทหนุ่มค่ายมวย “เปรม บุษราคัมวงษ์” ควงวีเจสาวไปสวีทสองต่อสองที่หัวหิน แถมคอยดูแลเทคแคร์ถือกระเป๋าให้กันอีก แต่เจ้าตัวก็ปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ได้ไปกันสองคน บอกไปกันเป็นก๊วนใหญ่ และบังเอิญไปเจอกันเท่านั้น
“ไปกับเพื่อนครับ จ๋าเขาไปกับเพื่อนหลายคน แล้วผมก็ไปกับเพื่อนหลายคน แล้วก็ไปเจอ ผมไปกินข้าว แล้วก็กลับเพราะผมมีงานต่อ คือไม่ได้เห็นทะเลเลยครับ กินอยู่ที่ร้านอาหารอย่างเดียว เสร็จก็ไปเดินตลาดแป๊บนึงแล้วก็กลับ ภาพหลุดไม่กลัวครับ เพราะว่าก็ไปเสร็จ กินข้าวเสร็จ เดินตลาดเสร็จก็กลับครับ”
“หิ้วกระเป๋าให้ ที่ไหนครับ โหคอนเฟิร์มเลยครับ ไม่มีเลยครับ คอนเฟิร์มแน่นอน แต่ที่อื่นมีครับ เราเป็นคนตรงอยู่แล้ว ก็คือไปกินข้าวด้วยกันเขาฝากถือ เพราะเขาเก็บของครับ ก็ถือให้ เพราะเขาฝากถือแป๊บเดียวครับ เหมือนเขาเอาของอะไรอย่างนี้ก็เก็บถือให้เขาครับ ไปเจอกันที่สยามครับ ไม่ได้นัดเจอครับ ไปกันเป็นกลุ่ม ก็ไปกินข้าวกันหลายคนครับ เพราะว่าเดี๋ยวนี้เปรมไม่ค่อยได้เจอเพื่อน ก็ต้องไปเจอหน่อย ถือให้ครั้งเดียวเองครับ ก็ไม่ได้เจอกันบ่อย อาทิตย์นึงสองครั้งมั้งครับ”
“เป็นมารยาทครับ เพราะว่าคนเขาจะเก็บของ แล้วผู้หญิงเขาก็กระเป๋าใหญ่ซะด้วย แล้วก็มีของเยอะซะด้วย มันก็หนัก เราก็ช่วยถือให้เขาเก็บของให้เสร็จแล้วก็ส่งให้เขาคืนแค่นั้น ถือใจเหรอ ยังครับ(หัวเราะ) กล้าถามมากเนอะ ยังครับ ก็อย่างที่บอกเพิ่งรู้จัก เพิ่งรู้จักกันจริงๆ ได้คุยกันเมื่อไม่นานนี้เอง ใจเย็นๆ น่ะ เราไม่รีบ เอางานมาก่อนดีกว่า ตอนนี้งานบันเทิงเรากำลังจะไปได้ด้วยดี”
“รับงานคู่กันมีเชิญครับ แต่ก็ไม่ได้ออกครับ เพราะว่าเราไม่ได้ที่จะโปรโมทหรืออะไร เรายังไม่ได้เป็นอะไรกัน ถ้ายังเป็นเพื่อนกันอยู่อย่างนี้ผมว่ามันยังไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะออกงานด้วยกัน ก็งานอีเว้นท์ทั่วไปนี่แหละครับ เปรมคิดว่ามันยังไม่จำเป็น”
เผยเคยไปกินข้าวด้วยกันสองต่อสองจริง แต่ไม่ใช่ที่โรงแรม แต่เป็นที่ห้างเท่านั้น ส่วนเรื่องจีบไม่จีบเป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้ขอเป็นเพื่อนศึกษากันไปก่อน
“ห๊า โรงแรมไหนครับ คือเคยครับ แต่ไปที่พารากอนครับ แค่นั้นเอง ไม่ได้ปากแข็งครับ มันยังไม่ใช่นะครับ เราไม่อยากพูดเพราะมันก็ไม่ดีกับฝ่ายหญิงด้วย เพราะตอนนี้ยังเป็นเพื่อนกันจริงๆ ก่อนที่จะเป็นแฟนมันต้องเริ่มต้นจากการที่ได้รู้จักกัน เป็นเพื่อนกัน อยู่ดีๆ เราจะเข้าไปแล้วไปเป็นแฟนเลยมันไม่ได้ไงครับ”
“ถ้าถามว่าผมจีบมั้ย ก็เอาเป็นเพื่อนให้ได้ก่อนแล้วกัน จะจีบไม่จีบไม่รู้ครับ เพราะตอนนี้เราเพิ่งเริ่มรู้จักกันได้ไม่นานเอง มันต้องไปทีละสเต็ปๆ คือเขาน่ารักครับ เขาเป็นคนน่ารัก เขาเป็นคนที่ยิ้มเก่ง เป็นคนนิสัยดี ชอบเหรอ โอ้โห ก็ตรงนิสัยเขาครับ เขาเป็นคนน่ารัก นิสัยก็น่ารักด้วย เหมาะกับคาแรคเตอร์ของเขา ยังไม่เดทเลยครับ ถ้าเดทผมว่าคงต้องกินดีกว่าที่พารากอนนิดนึงมั้งครับ(หัวเราะ) ยังเลยครับตอนนี้แค่อยู่อนุบาล 2 เองครับ เพิ่งเริ่มต้นครับ”
“เป็นเพื่อนกันอยู่ครับ ถามว่าจะจีบมั้ยก็ยังไม่รู้ ขอตอนนี้เป็นเพื่อนศึกษารู้กันก่อนว่าอย่างไหนได้อันไหนไม่ได้ ก็ดูๆ กันไปจริงๆ ถ้าเผื่ออย่างที่บอกไปเมื่อกี้ถ้าพี่ๆ(นักข่าว) กล้าถามผมก็กล้าตอบ แต่ตอนนี้มันยังไม่มีอะไรคืบหน้าไปกว่าคำว่าเพื่อน หลังจากนี้ ไม่ทราบเหมือนกันครับ ไม่ทราบจริงๆ ก็ถ้าถือก็ถือให้อย่างเป็นเพื่อน ยังไม่ได้ในฐานะแฟนหรืออะไร ทำคะแนนมากขึ้นมั้ย คือเราเป็นตัวเรา เราจะทำตัวของเราช้าๆ ครับ ค่อยๆ เรียนไปจากเราด้วยกัน”
“เป็นเพื่อนก่อนน่ะ เดี๋ยวจะจีบก็จีบได้ไม่เป็นไรครับ ผมก็ไม่ได้ทำอะไรออกนอกหน้านอกตาอะไรนะ คนบางคนอาจจะดูว่าจีบ แต่ผมดูว่าผมเป็นคนที่มีพี่สาวเยอะน่ะ แล้วถูกเลี้ยงมาคือต้องดูแลผู้หญิงน่ะครับ ก็ดูแลอย่างนี้กับเพื่อนทุกคนเลยครับ ถามได้เลย ถือของอะไรคือมันเป็นเรื่องธรรมดา เพราะเราต้องถือของให้พี่สาวเราตลอดมีพี่สาวตั้ง 3 คนน้องสาว 1 คน ไหนจะแม่อีก 1 คน มีแต่ผู้หญิงครับในบ้าน เลยต้องดูแลผู้หญิงเป็นพิเศษ”
“สนิทที่สุดมั้ย ยังครับ เพราะว่าเราเพิ่งรู้จักแค่เดือนสองเดือนเองครับ เรียกว่าเป็นเพื่อนที่เพิ่งรู้จักดีกว่า ถามว่าสนิทมั้ย ไม่สนิท เปรมมีเพื่อนหลายคนที่สนิทมากกว่า ตอบความจริงน่ะครับ ถ้าแบบหนึ่งเดือนแล้วจะบอกให้มาสนิทเลยมันก็แปลกๆ นะ ฟังดูแปลกๆ ก็โอเคเป็นเพื่อนที่เพิ่งรู้จักกัน เป็นเพื่อนที่พยายามทำความรู้จักกัน จะจีบหรือไม่จีบก็ค่อยว่ากัน แต่ก็ไม่ได้พูดว่าจะไม่จีบ ก็ไม่รู้ครับ อันนั้นอนาคตจะเป็นยังไงอันนั้นไม่รู้จริงๆ”
โต้ข่าวว่าเซ็นสัญญากับช่อง 3 แล้ว แต่เผยมีละครติดต่อมาจริง แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าช่องไหน เปรยขอเป็นพระรองก่อน ยังไม่กล้าพอรับบทพระเอก เพราะยังด้อยประสบการณ์
“ยังครับ ใครบอกครับ ยังไม่ได้เซ็นสัญญากับใครเลยครับ ผลงานก็หวังว่าจะมีครับ น่าจะอีกสัก 2-3 อาทิตย์น่าจะรู้กันแล้วว่าจะเป็นอะไร ก็คุยเรื่องละครครับ แต่ยังไม่ทราบว่าช่องไหนหรืออะไรยังไง โอกาสได้เล่นมีแนวโน้มครับ บทยังไม่ทราบเลยครับ อย่างที่บอกคือรอ 2 อาทิตย์น่าจะรู้ผลแล้วครับ น่าจะมีอะไรให้ทราบว่าน่าจะได้เล่นอะไรกับใครช่องอะไร”
“เราเชื่อใจคนที่อยากให้เราเล่นละครแล้วกันว่าเราเหมาะกับคาแรคเตอร์ไหน แล้วความสามารถเรามีแค่ไหน เปรมก็รู้สึกว่าแค่นี้ก็ดีใจแล้ว เพราะว่าเขาให้เราเล่น บทพระเอกอย่าเลยครับ เรื่องแรกอย่าเลยครับ เรื่องแรกไม่เอา ขอเป็นเบอร์สอง เบอร์สามอะไรก็ได้ คือเราไปเล่นทีแรกเราก็ไม่อยากจะเอาบทที่กดดันเรามากไปหรือว่าอะไร คือเราเป็นมือใหม่น่ะครับ ให้คนที่เก่งๆ เล่นไปก่อนดีกว่า”