xs
xsm
sm
md
lg

Love Now : ความเสียวนั้นชั่วคราว แต่ความเศร้า...ยาวนาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


โดย อภินันท์ บุญเรืองพะเนา

เป็นเรื่องที่ค่อนข้างแปลกพอสมควร เมื่อคิดถึงว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่มีหนังไทยเรื่องใหม่เข้าฉายเลย แต่สัปดาห์นี้ กลับจะมีหนังไทยเข้าฉายชนกันถึงสองเรื่อง คือ สาระแนห้าวเป้ง กับ ม.3 ปี 4 เรารักนาย ซึ่งจะว่าไป หนังไทยสองเรื่องนั้น นอกจากจะแย่งคนดูกันเองแล้ว ยังมีผลงานที่คอหนังต่างรอคอยอย่าง X-Men เป็นคู่แข่งที่เบ่งกล้ามใหญ่มาแต่ไกล ซึ่งคิดๆ ดู ก็น่าเป็นห่วงชะตากรรมของสาระแนฯ กับ ม.3 ปี 4 ฯ อยู่เหมือนกันว่าจะสามารถแชร์คนดูมาจากหนังฮีโร่ฟอร์มยักษ์ได้มากน้อยแค่ไหน

แต่เอาล่ะ ไม่ว่าหนังเรื่องไหนจะขาดทุนหรือกำไร ว่ากันอย่างถึงที่สุด มันก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าจะเข้าฉายหรือไม่เข้าฉายตอนไหน แต่อยู่ที่คนดูต่างหากว่าจะเลือกหรือไม่เลือกดูหนังเรื่องอะไร(และการที่คนดูจะตัดสินใจดูหรือไม่ดู ก็ขึ้นอยู่กับอีกหลายๆ อย่าง เช่น บางคนอาจจะบอกว่าอยากดู “สาระแนห้างเป้ง” เพราะเขาโปรโมทหนังได้โดดเด้งกันเหลือเกิน หึหึ)

และก่อนจะไปฮากระจายกับสาระแนฯ หรือน้ำหูน้ำตาไหลไปกับเรื่องรักๆ ใน ม.3 ปี 4 ฯ สัปดาห์นี้ ผมมีหนังแผ่นอยู่เรื่องหนึ่งซึ่งเพิ่งได้ดูมา ที่ต้องพูดแบบนี้ เพราะหนังเรื่องนี้ทำดีวีดีพากย์ไทยออกมาขายได้พักหนึ่งแล้ว จุดขายของมันที่น่าจะทำให้แฟนหนังเกาหลีต้องรีบเหลียวมองก็คือว่า นี่เป็นหนังที่จับเอาพระเอกหนุ่มชื่อดังอย่าง “ลี ดอง กัน” รวมถึงดาราสาวสวยอย่าง “ฮันแซยอง” มาเล่นบทวาบหวิวเปิดเปลือยเนื้อหนังมังสานัวเนียกับดาราซีรี่ส์ดังๆ อีกคนสองคน

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่หนังโป๊อีโรติกจ๋าแต่อย่างใด เพราะถึงแม้ว่า Love Now จะมีเซ็กซ์ซีนส่งเสียงซี้ดซ้าดอยู่ในหลายๆ ช่วง แต่เมื่อเทียบกับหนังเกาหลีอีโรติกอีกหลายๆ เรื่อง อย่าง Motel Cactus, Plum Blossom, Green Chair ฯลฯ หรือแม้แต่ Frozen Flower (ที่เข้าฉายอยู่ในขณะนี้) แล้ว ผลงานชิ้นนี้ยังถือว่า “เบบี๋” มากๆ ในเรื่องของเซ็กซ์ซีน (ถึงแม้จะมี “จุก” หลุดแว้บๆ ออกมาบ้างในบางช็อตก็ตามที)

แต่ก็อีกนั่นแหละ จะว่าไป ผมคิดว่า เอาเข้าจริงๆ ฉากเซ็กซ์เหล่านี้แทบไม่มีความหมายอะไรเลย เพราะสิ่งที่ดีที่สุดของหนังอยู่ที่เนื้อหาของมันซึ่งสะท้อนความรักความสัมพันธ์ของชีวิตคู่ที่กำลังส่ายไหวทั้งจากปัจจัยภายใน (ความเบื่อหน่ายจากการอยู่ร่วมกันนานๆ) และปัจจัยภายนอก (ชาย-หญิง คนใหม่ที่เดินเข้ามาในชีวิต) และสุดท้าย สิ่งที่หนังชี้ชวนให้คนดูตั้งคำถามและติดตามไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ต้นจนจบก็คือ ที่สุดแล้ว ความสัมพันธ์แบบนี้จะมีจุดจบเช่นใด ในโมงยามแห่งความอ่อนไหวไม่แข็งแรงของหัวใจคน

Love Now เล่าเรื่องราวของสามีภรรยาสองคู่ (ปาร์คยงจุน กับ โซโย และ จงมินเจ กับ โซยูนา) ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกันครั้งแรกด้วยเรื่องเชิงธุรกิจ ก่อนจะค่อยๆ พัฒนาความสัมพันธ์เปลี่ยนคู่สลับข้างกันอย่างลับๆ อย่างไรก็ดี นี่ไม่ใช่หนังแลกคู่สวิงกิ้งแบบที่หลายๆ คนคิดอย่างแน่นอน เพราะสิ่งที่หนังต้องการสะท้อนจริงๆ ก็คือ การนอกใจ (ผมค่อนข้างชอบโปสเตอร์ของหนังที่ตอบโจทย์ได้ชัดเจนมาก จากการเอาตัวละครมานอนกอดก่ายกัน เป็นตัวแทนความสัมพันธ์อันอลวนยุ่งเหยิงระหว่างพวกเขาด้วยกันเอง เหมือนหนังเกย์ไต้หวันเรื่อง Eternal Summer ที่ก็จัดวางองค์ประกอบบนโปสเตอร์ในลักษณะคล้ายๆ กันนี้ และพูดถึงความสัมพันธ์อันวกวนแบบนี้เช่นเดียวกัน)

อย่างไรก็ดี ไม่ใช่ว่าจู่ๆ ทั้งสี่คนจะสมัครใจเป็นชู้โดยไร้เหตุผล และคำอธิบายของหนังนั้นก็หนักแน่นเพียงพอที่เราจะยอมรับได้ อย่างคู่ของปาร์คยงจุน (ลีดองกัน) กับ โซโย (ฮันแซยอง) นั้น เราจะเห็นตั้งแต่ต้นๆ เรื่องแล้วว่า ความรักของพวกเขากำลังไม่ราบรื่นอย่างที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สีหน้าท่าทางเบื่อๆ เซ็งๆ ของปาร์คยงจุนนั้น ดูเหมือนว่าเขาจะมองไม่สนใจไยดีโซโยอีกต่อไปแล้ว ซึ่งมองกันอย่างพยายามทำความเข้าใจ อาการซังกะตายของปาร์คยงจุนอาจเป็นผลมาจากการอยู่ร่วมกันนานๆ จนถึงจุดที่เรียกว่า “หมดความตื่นเต้น”

แต่ไม่ว่าจะเพราะอะไรก็เถอะ สิ่งที่ปาร์คยองจุนเป็น มันได้ส่งผลกระทบต่อคนรักของเขาอย่างใหญ่หลวง โซโยต้องมีชีวิตเหมือนคนระทมทุกข์ที่ต้องจำทนกับสภาวะที่เป็นอยู่ หดหู่และไร้สุข และแน่นอนที่สุด สถานการณ์แบบนี้ ไม่ว่าใครก็มองออก เช่นเดียวกับจงมินเจ (ปาร์คยองวู) และ โซยูนา (อึมจุงฮวา) ที่พอได้พบครั้งแรก พวกเขาก็ถึงขั้นหยิบเอามาเป็นประเด็นสนทนากัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จงมินเจนั้นถึงขั้นเอ่ยปากรู้สึกสงสารโซโยออกมาเลยทีเดียว และอาจเป็นเพราะความสงสารนี่เองที่ลากให้เขาเดินเข้าไป “สร้างชีวิตชีวา” ให้กับโซโย (คงไม่ต้องบอกใช่ไหมว่า สร้างยังไง?)

แต่ยังหรอก เรื่องยังไม่จบเพียงแค่นั้น เพราะในขณะที่จงมินเจแอบไปมีอะไรกับโซโย ฝ่ายปาร์คยงจุนกับโซยูนาเองก็เริ่มที่จะมีใจให้กันเช่นกัน แม้ว่ามันจะยังไม่อาจเรียกได้ว่า “สำเร็จเสร็จสิ้นสมบูรณ์” (เพราะ “มีเรื่อง” กันก่อน ขณะกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มกันบนเตียง) แต่ถ้าปล่อยให้ผ่านไปอีกสักระยะ เราก็ไม่อาจแน่ใจได้ว่า ผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร

ว่ากันอย่างถึงที่สุด มองกันที่เนื้อหา หนังเรื่องนี้มีแง่มุมที่ท้าทายจริยธรรมอย่างแท้จริง แต่ถึงกระนั้น อารมณ์ของหนังโดยรวมไม่ถือว่าซีเรียสมาก ซ้ำยังจะออกไปในทางคอมิดี้อยู่หลายส่วน อย่างไรก็ดี โดยทิศทางของเนื้อหา Love Now ทำให้ผมคิดไปถึงหนังเกาหลีที่มีแง่มุมเชิงอีโรติกอีกเรื่องอย่าง Cheater ซึ่งนำเสนอประเด็นคล้ายๆ กันอันว่าด้วยเรื่องของคู่รักหลายคู่ที่กิ๊กกันไปนอกใจกันมาจนน่าเวียนหัว ก่อนจะพาตัวละครเดินไปสู่จุดที่ “กลืนไม่เข้า คายไม่ออก” หรือพบกับอาการ “เหวอ” เมื่อความจริงถูกเปิดเผย

ขณะเดียวกัน สาระสำคัญที่ดูเหมือนว่าหนังจะฝากให้คนดูเก็บมาคิดต่อ นอกเหนือไปจากการชักชวนให้เราย้อนกลับมามองว่า วันนี้ คุณดูแลเทคแคร์คนรักของคุณดีแล้วหรือยัง (ไม่ใช่ว่าปล่อยปละละเลยหรือไม่สนอกสนใจกัน แล้วมาอ้างว่าชีวิตรักไร้รสชาติ น่าเบื่อหน่าย เพราะถ้าเป็นแบบนั้น ก็สมควรแล้วล่ะที่รสรักจะจืดชืด) หนังยังชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของ “ความรัก” และ “คนรัก” ที่ดูยังไงก็มีคุณค่ามากกว่า “ความสุขเพียงชั่วน้ำหลั่ง” อยู่วันยันค่ำ และหนังก็ย้ำภาพตรงนี้ชัดเจนมากว่า ความสุขเสียวเพียงชั่วครู่คราวนั้น มันตามมาด้วยความเศร้าที่ร้าวลึกเพียงใด

ไม่เคยมีปลายทางที่สวยหรู ให้กับชู้หรือกิ๊ก...ดูเหมือน Love Now จะส่งเสียงบอกกับเราแบบนั้น...

กำลังโหลดความคิดเห็น