ภาพเซ็กซี่เป็นเหตุ "เป้ย" เผยบรรดาเสี่ยน้อย เสี่ยใหญ่ คนมีสียื่นสารพัดเงื่อนไข ทั้งทุ่มเงินแสนจ้างไปนั่งกินข้าว จะซื้อบ้าน ซื้อรถให้ รายล่าสุดเป็น "ผู้ใหญ่" ในวงการบันเทิง
รู้ทั้งรู้ว่ามีหนุ่ม "อาร์ เดอะสตาร์" เป็นแฟนเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว ทว่าก็ยังคงมีบรรดาเสี่ยน้อย เสี่ยใหญ่ และคนมีสีเข้ามายื่นเงื่อนไขอยากเป็นเพื่อน ชวนไปกินข้าวด้วยเงินค่าจ้างหลักแสน แม้กระทั่งซื้อบ้านซื้อรถให้กับสาว "เป้ย ปานวาด" อยู่เป็นประจำ
"ตอนนี้ที่เข้ามาจีบเป้ยก็มีบ้าง ทั้งคนมีสีหรือเสี่ย คือบางทีก็โทรเข้ามาจีบหรือฝากเพื่อนบอก แต่เราไม่รู้ว่าเป็นเสี่ยหรือเปล่า เขาก็จะเข้ามาประมาณบอกว่าชอบเป้ยนะ ชวนเป้ยไปทานข้าวบ้าง เข้ามาทำความรู้จักบางทีก็มีข้อเสนอว่าเป็นเพื่อนกันก่อนก็ได้นะ"
"แต่เราก็ไม่ได้อะไรกับเขาค่ะ ข้อเสนอที่ให้เป้ยมาก็มีหลายอย่าง เช่น ให้มานั่งทานข้าวด้วยชั่วโมงหนึงแล้วจะให้ค่านั่นค่านี่ ก็บอกเราว่าไม่ต้องกลัวนะ ไม่ให้มาฟรีหรอก ก็รู้ว่าเราทำงาน เขาก็บอกไม่ต้องกลัวนะ มีค่าเสียเวลาให้อยู่แล้ว อย่าเข้าใจผิดนะว่าต้องมาทำอะไร เขาก็จะพูดในแง่ดูดีว่าแค่ให้เรามากินข้าวเฉยๆ"
"ข้อเสนอที่ให้มามีให้เงินเป็นแสนก็มีนะ คือก็บอกเราว่าจะเลี้ยงดูปูเสื่อก็มี จะซื้อบ้านซื้อรถให้ก็มี แต่ในเคสนี้มันนานมากแล้ว ถ้าจะเป็นช่วงนี้จะเป็นประมาณให้ไปทานข้าวด้วยกันมากกว่า แต่ไม่มีว่าจะขอรับเลี้ยงไม่มีค่ะ คนที่มาติดต่อก็มีเยอะนะบางทีจะเข้ามาทางช่างแต่งหน้า หรือคอสตูม"
เผยรายล่าสุดที่เข้ามาเป็น "ผู้ใหญ่" ในแวดวงบันเทิง
"ล่าสุดที่เข้ามาคุยเนี่ยค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่ที่มีพาวเวอร์ในวงการบันเทิง ค่อนข้างจะเป็นใหญ่ในวงการเหมือนกัน คือเป้ยไม่ได้กลัว เพราะเป้ยก็ตอบไปดีๆ คือเราก็มีมารยาทของเรา เพราะเขาก็ไม่ได้มาพูดหยาบคาย ทะลึ่งถึงขั้นจะขอมาเลี้ยงดูเรา"
"บางทีเราไม่จำเป็นต้องมีฟีดแบ็กกลับไปแบบไม่สุภาพ ถึงแม้ว่าในใจเราจะรู้สึกไม่ดีและต่อต้าน ด้วยความที่เขาเป็นผู้ใหญ่ด้วย เขาอาจจะได้ยินอะไรเกี่ยวกับเป้ยมาไม่ดี ก็เลยเข้าใจไปแบบนั้น"
ถามย้ำว่าไม่กลัวจริงๆ หรือเพราะอีกฝ่ายเป็นคนในวงการฯ ที่เกี่ยวโยงกับหน้าที่การงานของตนเองโดยตรง เรื่องนี้สาวเป้ยบอกว่า..."ก็นิดหนึ่งแต่เราก็ตอบไปดีๆ ว่าเราไม่ใช่คนแบบนั้น เขาก็คงจะเข้าใจเราแล้วก็เลิกตามตื๊อเราด้วยค่ะ แล้วก็ต้องยอมรับว่าลุคส์เราถ่ายเซ็กซ์ซี่ก็เลยทำให้ใครๆ เข้าใจผิดได้ง่าย"
"คือพอลุคส์เราเป็นแบบนี้เป้ยก็ไม่อยากจะทำอะไรให้ดูตอกย้ำตรงนี้ เพราะไม่อย่างนั้นก็จะดูว่าเราเป็นคนแบบนั้นจริงๆ"
