xs
xsm
sm
md
lg

Zack and Miri make a porno หนังโป๊(?)ที่อเมริกาห้าม-ไทยแบน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ใบปิดแบบเก่า
เป็นอันว่าหมดสิทธิ์เข้าฉายในบ้านเราไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับภาพยนตร์มะกันเรื่อง “Zack and Miri make a porno" หลังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) นายธีระ สลักเพชร พร้อมคณะกรรมการมีมติยึดตามความเห็นของคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์ว่าไม่อนุญาตให้นำภาพยนตร์ดังกล่าวเผยแพร่ในประเทศไทย

โดยเหตุผลหลักของการแบนภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือ มีเนื้อหาสอนให้เยาวชนทำหนังโป๊ โชว์สัดส่วน เน้นแต่เรื่องเพศไม่เหมาะกับลักษณะสังคมไทย และเป็นเรื่องอ่อนไหวที่เยาวชนจะเลียนแบบวิธีการหาเงินเพราะคิดว่าได้มาง่ายๆ

“คณะกรรมการ และอนุกรรมการทุกชุด มีความเห็นตรงกันว่า สภาพสังคมของประเทศสหรัฐอเมริกากับประเทศไทยมีความแตกต่างกัน และภูมิคุ้มกันของเด็ก เยาวชนของสังคมก็แตกต่างกัน ด้วยสภาพของสังคมไทยในปัจจุบันมีการใช้สื่อไปในทางที่ไม่ถูกต้องและขาดวุฒิภาวะ"

"อาทิ การถ่ายภาพเปลือยของตนเองออกเผยแพร่เพื่อหาเงินทางอินเทอร์เน็ต หากนำภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายจะเป็นแรงจูงใจให้เด็กและเยาวชนไทยทำตามและเลียบแบบ โดยคิดว่าการหาเงินด้วยการสร้างหนังโป๊เป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็ว"

"นอกจากนี้ เนื้อหาโดยรวมได้พูดถึงเรื่องเพศเป็นส่วนใหญ่ มีการใช้ถ้อยคำหยาบคายตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งไม่เหมาะสมกับสังคมไทย แม้จะเป็นการบอกว่า เป็นสังคมของสหรัฐอเมริกาก็ตาม” วีระ โรจน์พจนรัตน์ ปลัดวธ.กล่าว
....

เกี่ยวกับ Zack and Miri make a porno
Zack and Miri make a porno เป็นภาพยนตร์คอมเมดี้ที่แต่งเนื้อเรื่องและกำกับโดย เควิน สมิธ ผู้เคยฝากผลงานไว้ในภาพยนตร์เรื่อง Jersy Girl มาแล้ว และโปรดิวซ์โดย สก็อตต์ โมซิเออร์ นำแสดงโดย อลิซาเบธ แบงก์ส, เซธ โรเกน, แบรนดอน รูธ, จัสติน ลอง, เจสัน เมเวส, เจอร์รี เบดนอบ, เอ็ดเวิร์ด แจนดา, นิโคลัส ลอมบาร์ดี, เทรซี ลอร์ด และ เคที มอร์แกน

หนังว่าด้วยเรื่องราวของ แซก (เซธ โรเกน) และเพื่อนร่วมห้องพักของเขา มิริ (อลิซาเบธ แบงก์ส) เป็นเพื่อนกันมานานกว่า 10 ปี พวกเขาดูแลกันและกันประดุจพี่น้อง มิริทำงานที่ห้างสรรพสินค้าท้องถิ่น ส่วนแซกทำงานที่ร้านกาแฟ ตอนนี้พวกเขากำลังประสบปัญหาหมุนเงินไม่ทัน มีใบแจ้งหนี้ส่งมาถึงมือพวกเขามากขึ้นเรื่อยๆ

ขณะที่ยังคิดวิธีแก้ปัญหาไม่ออก แซกกับมิริได้พบเพื่อนเก่าในงานเลี้ยงรวมรุ่น พวกเขาได้รู้ว่าตอนนี้ บ็อบบี (แบรนดอน รูธ) มีแฟนหนุ่มเป็นดาราภาพยนตร์โป๊ชื่อ แบรนดอน (จัสติน ลอง) นอกจากนี้แซกกับมิริยังได้รับแรงบันดาลใจจากวิดีโอมิริเปลื้องผ้าที่ได้รับความนิยมไปทั่วอินเตอร์เน็ต ทั้งคู่จึงตัดสินใจหาเงินด้วยการผลิตภาพยนตร์โป๊

การถ่ายทำภาพยนตร์โป๊แบบมือสมัครเล่น ที่มีบรรดาผองเพื่อนเข้ามาร่วมด้วยช่วยกันจึงเริ่มขึ้น แต่เมื่อได้ลงมือทำงานชิ้นนี้จริงๆ ไม่นานนัก แซกกับมิริก็เริ่มเข้าใจว่า ความรู้สึกที่พวกเขามีต่อกันนั้นมันอาจจะมากกว่าคำว่า เพื่อน

เรต
เดิมภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกจัดเรตไว้ที่เอ็นซี -17 ทำให้ผู้สร้างต้องทำการตัดต่อเนื้อหาใหม่ทั้งมด แต่ก็ยังคงได้รับการจัดเรตให้อยู่ในเอ็นซี - 17 เช่นเดิม จากนั้นทางทีมงานจึงได้ยื่นอุทธรณ์จนกระทั่งวันที่ 5 ส.ค. ปีที่แล้วภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ได้รับการจัดเรตให้อยู่ในเรตอาร์ ซึ่งนับว่าเป็นเรตที่อ่อนกว่ามาได้ในที่สุด

ซึ่งทางเซธ โรเกน นักแสดงนำยังเคยให้สัมภาษณ์ถึงการจัดเรตภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย..."เป็นหนังที่มีเรื่องเยอะมาก ผมได้ยินมาว่าหนังเรื่องนี้มีปัญหาเรื่องการจัดเรตจาก เอ็นซี - 17 เป็นเรตอาร์ พวกเขาพยายามต่อต้านเรื่องเกี่ยวกับเซ็กซ์ มันแปลกมากเหรอ?

ผมว่ามันบ้าชัดๆ ทีหนังอย่าง Hostel กลับไม่เป็นไร คนสามารถนั่งดูหนังบ้าๆ แบบนั้นได้ แต่คุณกลับห้ามไม่ให้โชว์คนสองคนกำลังมีเซ็กซ์กันได้ มันมากไปนะ"

บ็อกซ์ออฟฟิศ
ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉายที่อเมริกาทำรายได้ในบ็อกซ์ออฟฟิศเป็นอันดับ 2 ตามหลังภาพยนตร์เรื่อง High School Musical 3: Senior Year โดยทำรายได้อยู่ที่ 10,682,000 เหรียญสหรัฐฯ จากการเข้าฉายกว่า 2,735 โรง โดยทั้งสมิธ ผู้กำกับและ สก็อตต์ โมซิเออร์ ต่างก็ผิดหวังกับตัวเลขอยู่มากพอสมควร โดยพวกเขาคาดหวังที่จะได้อันดับและรายได้ที่สูงกว่านี้ซึ่งนับได้ว่าเรื่องนี้ยังเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้น้อยที่สุดนับตั้งแต่เปิดตัวมาในหน้าประวัติศาสตร์การทำงานของ โรเกน นักแสดงนำด้วย

ปัญหา
สมาคมภาพยนตร์ของอเมริกาห้ามเผยแพร่ภาพใบปิดของภาพยนตร์เรื่องนี้เพราะเห็นว่าล่อแหลมเกินไป ผู้กำกับเควิน สมิธ และ เซธ โรเกน ผู้รับบทแซก จึงเห็นตรงกันว่าควรออกแบบใบปิดใหม่อีกชุดที่ดูล่อแหลมน้อยกว่าเดิม โดยเปลี่ยนไปใช้ลายเส้นการ์ตูนแอนนิเมชันแบบเด็กๆ แทนแต่ก็ยังคงได้รับการวิพากษ์วิจารณ์เนื่องจากยังมีคำว่า "Make A Porno"

พร้อมกันนั้นใบปิดภาพยนตร์เรื่องนี้ยังถูกแบนนจากที่ต่างๆอย่างมาก เพราะในเมืองฟิลาเดลเฟียยังมีการสั่งห้ามไม่ให้ติดใบปิดเรื่องนี้ตามป้ายรถประจำทาง เนื่องจากมีคำว่า "Porno" ซึ่งจากปัญหานี้เองผู้กำกับเควิน สมิธ จึงเสนอให้มีการใช้ชื่อเรื่องใหม่ว่า Zack & Miri แต่ถึงอย่างไรทางเมืองฟิลาเดลเฟียก็ยังคงปฏิเสธอยู่เช่นเดิม

จากปัญหาเหล่านี้ทำให้การโฆษณาภาพยนตร์เรื่องนี้ทางหนังสือพิมพ์,โทรทัศน์ และเคเบิล ทีวีก็ต้องมีการตัดคำว่า Make A Porno ออกไปจากชื่อเรื่องด้วย ทั้งในเสียงบรรยายและภาพในตัวหนังสือ นอกจากนั้นแล้วตามโรงภาพยนตร์ต่างๆ หลายแห่งทั่วสหรัฐฯ ยังปฏิเสธที่จะฉายภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยให้เหตุผลว่าฉากเปลือยในเรื่องนี้ค่อนข้างใกล้เคียงกับเรตเอ็นซี - 17 มากเกินไปด้วย

โดยภาพยนตร์ที่มีลักษณะใกล้เคียงกับภาพยนตร์ตลกร้ายอเมริกันเรื่องนี้มีทั้ง American Pie, Goodluck Chuck, Bachelor Party 1-2 , Van Wilder, Euro Trip, The girl next door, Accepted, Hot For Teacher, Sex Is Zero 1-2, 40 Days and 40 Nights รวมถึง Let's Go To Prison

ทรรศนะจากนักดูหนัง
 การแบนภาพยนตร์เรื่อง Zack and Miri make a porno ด้วยเหตุผลที่กระทรวงวัฒนธรรมบอกว่า อาจจะทำให้เด็กและเยาวชนไทยเลียนแบบพฤติกรรมของตัวละครในเรื่องนั้น เป็นสิ่งที่ทำให้ สุภาพ หริมเทพาธิป บรรณาธิการบริหารนิตยสาร Bioscope ซึ่งคลุกคลีอยู่ในแวดวงภาพยนตร์มาช้านาน มั่นใจว่ารากของปัญหาดังกล่าวเกิดจากพระราชบัญญัติการจัดเรทติ้งภาพยนตร์ของประเทศไทยที่ถูกดองจนเค็มเกินกว่าจะนำมาบริโภคได้

"เราควรนำพระราชบัญญัติตัวใหม่ที่ว่าด้วยการจัดเรทติ้งก็ควรจะนำมาใช้สักที นี่คือสิ่งแรกที่ผมรู้สึกนะครับ เพราะว่าเราไม่ใช้ ก็ต้องไปใช้ตัวเก่า สุดท้ายก็นำไปซึ่งการแบน"

คำเอ่ยอ้างทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นป้องกันมิให้เด็กและเยาวชนไทยปฏิบัติตาม เพราะเด็กไทยขาดวุฒิภาวะ หรือจะด้วยสาเหตุในเรื่องความต่างของวัฒนธรรม ล้วนเป็นเหตุผลที่สุภาพย้ำว่า ‘ไม่สมเหตุสมผล’ แม้แต่น้อย
" เรื่องอย่างนี้จริงๆ คนทั่วไปก็คิดได้อยู่แล้วล่ะ คนที่อยากทำหนังโป๊ขาย ไปบอกมันว่าอย่าทำขาย มันก็ยังทำขายอยู่ดี คนที่เขาไม่คิดจะทำขาย เขาก็ไม่คิดจะทำขายอยู่แล้ว ผมไม่เห็นว่าจะต้องได้อิทธิพลมาจากหนังอะไรเลย"

"แล้วถ้าจะบอกว่าเด็กไทยขาดวุฒิภาวะ ผมว่ามันก็เป็นหน้าที่ของทางกระทรวงวัฒนธรรมว่าทำอย่างไร ที่จะให้เด็กไทยคิดได้นะครับ ไม่ใช่มาบอกว่าเด็กไทยคิดไม่ได้ เพราะฉะนั้นฉันคิดให้แทน เอ๊ะ แต่ว่าเราก็ไม่ใช่เด็กไทยนะ ผมอายุประมาณนี้แล้ว ผมก็ดูหนังเรื่องนี้ได้ด้วยตัวเอง แล้วทำไมต้องแบนไม่ให้ผมดูล่ะ"

เชื่อมั่นว่าระบบเรทติ้งจะเป็นคำตอบที่ทำให้กรณีปิดหูปิดตาในการเสพภาพยนตร์ไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน
"ถ้าคณะกรรมการมองแล้วว่า หนังเรื่องนี้ควรจะได้เรท 20 ขึ้น มันก็ควรจะได้ฉายในเรท 20 ขึ้นถูกไหมครับ แต่พอมันไม่มีเรทติ้ง ก็เลยไปใช้วิธีคิดแบบเดิม ไปเอากฎหมายเดิมมาใช้ ก็คือแบนซะ เพราะว่ามันไม่รู้จะจัดอย่างไร"
"ถ้ามองในมุมของเขาก็คือ ปกป้องคนในสังคมซะ เพราะถ้าหนังถูกปล่อยออกไป คนทุกคนสามารถดูได้ เพราะฉะนั้นก็แบนมันเสียดีกว่า เดี๋ยวเด็ก 18 จะไปดูกันเยอะเกินไป อะไรแบบนั้น ซึ่งผมมองว่าสาเหตุสำคัญมาจากตัวกฎหมายที่ยังไม่ถูกนำมาบังคับใช้อย่างจริงจังนั่นเอง"สุภาพทิ้งท้าย

วธ.แบนหนังมะกัน “Zack and Miri make a porno” ชี้เนื้อหาสอนเยาวชนทำหนังโป๊
ใบปิดแบบใหม่



กำลังโหลดความคิดเห็น