ค่อนข้างจะกลายเป็นที่จับตาของคนส่วนใหญ่อยู่เหมือนกันสำหรับการเข้ารับหน้าที่พรีเซ็นเตอร์, ทูต ฯ ของบรรดาดารา นักร้อง นักแสดง บุคคลคนที่มีชื่อเสียงทั้งหลายเพื่อร่วมรณรงค์กิจกรรมในช่วงเทศกาลต่างๆ ให้กับหน่วยงานของภาครัฐบาล
ซึ่งก็ให้รวมถึงเทศกาลสงกรานต์เช่นนี้
ย้อนไป 2 ปีที่แล้วในส่วนของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ต้องถือว่าสร้างความประหลาดใจไม่น้อยหลังเกาะกระแสเกาหลีฟีเวอร์ในบ้านเราด้วยการดึงเอาดารา-นักร้องชื่อดังจากแดนโสมอย่าง "คิม จอง ฮุน" มาร่วมเป็นทูตท่องเที่ยวในงานเย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์ ปี พ.ศ. 2550
โดยมีหวังว่าดารานักร้องที่โด่งดังเป็นที่รู้จักในประเทศไทยจากเรื่อง "เจ้าหญิงวุ่นวายกับเจ้าชายเย็นชา" คนนี้จะสามารถดึงเอาแฟนคลับของเขาทั้งในประเทศไทย เกาหลี ตลอดจนอีกหลายๆ ประเทศในแถบเอเชีย ให้มาร่วมในเทศกาลสงกรานต์ได้เยอะมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ผลตอบรับที่ออกมาแม้จะมีบางส่วนที่ชื่นชอบ(โดยเฉพาะกลุ่มแฟนคลับของเขา) ทว่าในด้านของกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากทางด้านสื่อมวลชนแล้วต้องถือว่าไม่น่าประทับใจเท่าไหร่ โดยเฉพาะกับทาง ททท.เองที่ถูกมองว่า "หากิน" กับประเพณี อาศัยกระแส มองเห็นวัฒนธรรมที่ดีงามเป็นเพียงแค่ผลประโยชน์ทางด้านตัวเงินจากนักท่องเที่ยว โดยมิได้ปลูกฝังให้คนไทยหรือแม้กระทั่งนักท่องเที่ยเองได้เข้าใจถึงการละเล่นที่มีมานานของไทยนี้มีวัตถุประสงค์ที่แท้จริงคืออะไร? และนำมาซึ่งการเล่นสงกรานต์ที่แผลงขึ้นในทุกๆ ปี
ครั้นยิ่งปีถัดมาต้องบอกว่ายิ่งแย่ใหญ่
ก่อนที่เทศกาลสงกรานต์ในปี พ.ศ.2551 บรรดาสื่อมวลชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งสายบันเทิงต้องพากันแปลกใจไม่น้อยกับการปรากฏตัวของ 4 สาวเกิร์ลแบนด์อย่าง "เกิร์ลลี่ เบอร์รี่" ด้วยชุดไทยสไบเฉียงในฐานะของ“พรีเซ็นเตอร์มหกรรมสงกรานต์ 4 ภาค” จากการแต่งตั้งของคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (วธ.) (ตามข่าวที่ออกมาในตอนแรก)
พร้อมๆ กับกล่าวเชิญชวนให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ (โดยเฉพาะผู้หญิง) แต่งกายมิดชิด และเล่นน้ำสงกรานต์ด้วยความสุภาพเรียบร้อยตามแบบแผนประเพณีไทย
แต่แล้วก็กลับกลายเป็นว่าในวันสงกรานต์นั้นเอง ทั้ง 4 คนต่างก็ไปปรากฏตัวบนเวทีคอนเสิร์ตที่ถนนข้าวสาร ย่านบางลำภู ด้วยภาพลักษณ์ที่หลายคนคุ้นเคยซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์ของวงเกิร์ลลี่ เบอร์รี่อยู่แล้ว กับเสื้อผ้าที่เน้นโชว์เรือนร่างและท่าเต้นซึ่งออกไปในทางเย้ายวน เชิญชวน ส่อเจตนาไปในเรื่องของการเล้าโลมอารมณ์ทางเพศ
นั่นเองที่ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมายถึงความเหมาะสมกระทั่งทางต้นสังกัดอย่างอาร์เอสฯ ต้องจัดแถลงข่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ขณะที่ทั้งสี่สาวเองแม้จะออกปากขอโทษแต่ดูเหมือนทั้งหมดเองจะไม่ได้สำนึกเลยว่าเธอต้องขอโทษเพราะอะไร? ในลักษณะที่ว่า
กิ๊ฟซี่...“ถามว่า คิดว่าโป๊ไปไหมในวันนั้น ก็อาจจะโป๊เกินไปคะ ถ้าเราไปเล่นน้ำสงกรานต์ในชุดนั้น แต่โอเคเราไปแสดงโชว์ ในลักษณะของเพลง กิ๊ฟ คิดว่าเหมาะสมกับงานตรงนั้น และเป็นสิ่งที่คิดว่าคนดูคงแฮปปี้ตรงนั้น”
ที่สำคัญในเหตุการณ์ครั้งนี้เองที่ทำให้คนทั่วไปได้รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วการเข้ามารับบทบาทดังกล่าวของพวกเธอหาใช่เกิดจากการคัดเลือกของ วธ. แต่อย่างใด หากแต่เป็นการอาสาเข้ามาเองของค่ายเพลง
จะด้วยเหตุการณ์ปีที่แล้วหรือเปล่าไม่ทราบถึงทำให้สงกรานต์ในปี 2552 นี้ ทางกระทรวงวัฒนธรรมจึงไม่มีพรีเซ็นเตอร์หรือทูตสงกรานต์อย่างเป็นทางการแต่อย่างใด แต่ถ้าจะมีก็เกิดจากหน่วยงานอื่น ร้านค้า องค์กรต่างๆ แต่งตั้งหรือว่าจ้างกันเอง
"คือเราจะไปเน้นในเรื่องของการทำกิจกรรมกับหน่วยงาน องค์กรต่างๆ ซึ่งนอกจากจะมีดาราและศิลปินมาพูดรณรงค์เชิญชวนในนามของค่ายและของช่องต่างๆ แล้ว ทางกระทรวงยังร่วมกับศูนย์ปลอดภัยทางถนนให้ช่วยกันเล่นสงกรานต์อย่างถูกต้องและปลอดภัยตามท้องถนนอีกด้วย"
เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของกระทรวงวัฒฯ คนหนึ่งเผยก่อนจะบอกว่าสงกรานต์ปีนี้น่าจะดีขึ้นในเรื่องของการเล่นน้ำที่ออกไปในทางรุนแรง หรือเรื่องลามกอนาจาร..."สำหรับปีนี้ทางกระทรวงก็มีหลายกิจกรรม เช่นรณรงค์การแต่งกายอย่างสุภาพเหมาะสม ไม่ล่อแหลม รวมทั้งรดน้ำไม่รุนแรง ไม่มีแป้ง สี กระบอกฉีดน้ำ ที่สำคัญคือการรณรงค์ลดการกระทำอนาจารลวนลาม"
ก็คงจะต้องรอดูกันว่าบทสรุปของสงกรานต์ปีนี้ที่ไม่มีพรีเซ็นเตอร์(อย่างเป็นทางการ)จะเป็นเช่นไร? หรือจะมิได้แตกต่างอะไรจากปีที่ผ่านๆ มา
ซึ่งก็ให้รวมถึงเทศกาลสงกรานต์เช่นนี้
ย้อนไป 2 ปีที่แล้วในส่วนของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ต้องถือว่าสร้างความประหลาดใจไม่น้อยหลังเกาะกระแสเกาหลีฟีเวอร์ในบ้านเราด้วยการดึงเอาดารา-นักร้องชื่อดังจากแดนโสมอย่าง "คิม จอง ฮุน" มาร่วมเป็นทูตท่องเที่ยวในงานเย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์ ปี พ.ศ. 2550
โดยมีหวังว่าดารานักร้องที่โด่งดังเป็นที่รู้จักในประเทศไทยจากเรื่อง "เจ้าหญิงวุ่นวายกับเจ้าชายเย็นชา" คนนี้จะสามารถดึงเอาแฟนคลับของเขาทั้งในประเทศไทย เกาหลี ตลอดจนอีกหลายๆ ประเทศในแถบเอเชีย ให้มาร่วมในเทศกาลสงกรานต์ได้เยอะมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ผลตอบรับที่ออกมาแม้จะมีบางส่วนที่ชื่นชอบ(โดยเฉพาะกลุ่มแฟนคลับของเขา) ทว่าในด้านของกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากทางด้านสื่อมวลชนแล้วต้องถือว่าไม่น่าประทับใจเท่าไหร่ โดยเฉพาะกับทาง ททท.เองที่ถูกมองว่า "หากิน" กับประเพณี อาศัยกระแส มองเห็นวัฒนธรรมที่ดีงามเป็นเพียงแค่ผลประโยชน์ทางด้านตัวเงินจากนักท่องเที่ยว โดยมิได้ปลูกฝังให้คนไทยหรือแม้กระทั่งนักท่องเที่ยเองได้เข้าใจถึงการละเล่นที่มีมานานของไทยนี้มีวัตถุประสงค์ที่แท้จริงคืออะไร? และนำมาซึ่งการเล่นสงกรานต์ที่แผลงขึ้นในทุกๆ ปี
ครั้นยิ่งปีถัดมาต้องบอกว่ายิ่งแย่ใหญ่
ก่อนที่เทศกาลสงกรานต์ในปี พ.ศ.2551 บรรดาสื่อมวลชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งสายบันเทิงต้องพากันแปลกใจไม่น้อยกับการปรากฏตัวของ 4 สาวเกิร์ลแบนด์อย่าง "เกิร์ลลี่ เบอร์รี่" ด้วยชุดไทยสไบเฉียงในฐานะของ“พรีเซ็นเตอร์มหกรรมสงกรานต์ 4 ภาค” จากการแต่งตั้งของคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (วธ.) (ตามข่าวที่ออกมาในตอนแรก)
พร้อมๆ กับกล่าวเชิญชวนให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ (โดยเฉพาะผู้หญิง) แต่งกายมิดชิด และเล่นน้ำสงกรานต์ด้วยความสุภาพเรียบร้อยตามแบบแผนประเพณีไทย
แต่แล้วก็กลับกลายเป็นว่าในวันสงกรานต์นั้นเอง ทั้ง 4 คนต่างก็ไปปรากฏตัวบนเวทีคอนเสิร์ตที่ถนนข้าวสาร ย่านบางลำภู ด้วยภาพลักษณ์ที่หลายคนคุ้นเคยซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์ของวงเกิร์ลลี่ เบอร์รี่อยู่แล้ว กับเสื้อผ้าที่เน้นโชว์เรือนร่างและท่าเต้นซึ่งออกไปในทางเย้ายวน เชิญชวน ส่อเจตนาไปในเรื่องของการเล้าโลมอารมณ์ทางเพศ
นั่นเองที่ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมายถึงความเหมาะสมกระทั่งทางต้นสังกัดอย่างอาร์เอสฯ ต้องจัดแถลงข่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ขณะที่ทั้งสี่สาวเองแม้จะออกปากขอโทษแต่ดูเหมือนทั้งหมดเองจะไม่ได้สำนึกเลยว่าเธอต้องขอโทษเพราะอะไร? ในลักษณะที่ว่า
กิ๊ฟซี่...“ถามว่า คิดว่าโป๊ไปไหมในวันนั้น ก็อาจจะโป๊เกินไปคะ ถ้าเราไปเล่นน้ำสงกรานต์ในชุดนั้น แต่โอเคเราไปแสดงโชว์ ในลักษณะของเพลง กิ๊ฟ คิดว่าเหมาะสมกับงานตรงนั้น และเป็นสิ่งที่คิดว่าคนดูคงแฮปปี้ตรงนั้น”
ที่สำคัญในเหตุการณ์ครั้งนี้เองที่ทำให้คนทั่วไปได้รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วการเข้ามารับบทบาทดังกล่าวของพวกเธอหาใช่เกิดจากการคัดเลือกของ วธ. แต่อย่างใด หากแต่เป็นการอาสาเข้ามาเองของค่ายเพลง
จะด้วยเหตุการณ์ปีที่แล้วหรือเปล่าไม่ทราบถึงทำให้สงกรานต์ในปี 2552 นี้ ทางกระทรวงวัฒนธรรมจึงไม่มีพรีเซ็นเตอร์หรือทูตสงกรานต์อย่างเป็นทางการแต่อย่างใด แต่ถ้าจะมีก็เกิดจากหน่วยงานอื่น ร้านค้า องค์กรต่างๆ แต่งตั้งหรือว่าจ้างกันเอง
"คือเราจะไปเน้นในเรื่องของการทำกิจกรรมกับหน่วยงาน องค์กรต่างๆ ซึ่งนอกจากจะมีดาราและศิลปินมาพูดรณรงค์เชิญชวนในนามของค่ายและของช่องต่างๆ แล้ว ทางกระทรวงยังร่วมกับศูนย์ปลอดภัยทางถนนให้ช่วยกันเล่นสงกรานต์อย่างถูกต้องและปลอดภัยตามท้องถนนอีกด้วย"
เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของกระทรวงวัฒฯ คนหนึ่งเผยก่อนจะบอกว่าสงกรานต์ปีนี้น่าจะดีขึ้นในเรื่องของการเล่นน้ำที่ออกไปในทางรุนแรง หรือเรื่องลามกอนาจาร..."สำหรับปีนี้ทางกระทรวงก็มีหลายกิจกรรม เช่นรณรงค์การแต่งกายอย่างสุภาพเหมาะสม ไม่ล่อแหลม รวมทั้งรดน้ำไม่รุนแรง ไม่มีแป้ง สี กระบอกฉีดน้ำ ที่สำคัญคือการรณรงค์ลดการกระทำอนาจารลวนลาม"
ก็คงจะต้องรอดูกันว่าบทสรุปของสงกรานต์ปีนี้ที่ไม่มีพรีเซ็นเตอร์(อย่างเป็นทางการ)จะเป็นเช่นไร? หรือจะมิได้แตกต่างอะไรจากปีที่ผ่านๆ มา
