“ปิ๊ด” โผล่เคลียร์ เลิก “ยุ้ย” ไม่มีมือที่สาม สุดแมน บอกไม่มีใครทำให้เลิกกับยุ้ยได้ นอกจากตนเอง ยืดอกรับมีคนใหม่แล้ว แต่ยังห่วงใยสาวยุ้ยอยู่ บอกเป็นคนดีไม่อยากให้ถูกคนเลวรังแก เจ้าตัวปัด แม่ยุ้ยห้ามเข้าบ้าน พร้อมโต้เตรียมขายเรือนหอทิ้ง
ตั้งแต่เลิกรากับนางเอกสาว “ยุ้ย จีรนันท์ มะโนแจ่ม” ไป หนุ่ม “ปิ๊ด ธนดล ช้างเสวก” มือเบสวงบอดี้สแลม ก็เงียบหายเข้ากลีบเมฆ จนฝ่ายหญิงเองก็ไปมีข่าวกิ๊กกั๊กกับหนุ่ม “ธัญญ์ ธนากร”
ล่าสุด เจ้าตัวโผล่มาร่วมงานแถลงข่าวเปิดอัลบัม “Play” ของค่ายแกรมมี่ ที่ เซ็นทรัล เวิลด์ ก็เลยถูกผู้สื่อข่าวรุมซักยกใหญ่ ซึ่งหนุ่มปิ๊ด เผยว่า ตอนนี้หัวใจหายเป็นปกติ เพราะมีคนรักใหม่แล้ว แต่ยังโทร.หาและเป็นห่วงสาวยุ้ยอยู่ ลั่นเลิกกันด้วยดี ไม่มีมือที่สาม แจงที่ผ่านมาเลือกที่จะเงียบ เพราะไม่อยากให้ข่าวบานปลาย ก่อนเปรยอยากให้สาวยุ้ยเจอคนที่สามารถดูแลได้ดีกว่าตน
“สภาพหัวใจก็ปกติธรรมดาทั่วไปครับ คือ มันเป็นเรื่องของความเข้าใจจริงๆ ครับ เราคุยกันมานานแล้ว และเรื่องนี้มันก็ผ่านมาได้สักพักนึงแล้ว ต่างคนก็ต่างใช้ชีวิตของตัวเองอย่างมีความสุข คือผมรู้สึกว่าเรื่องนี้มันต่างคนต่างพูด มันก็จะยิ่งเยอะ เนื้อความจะยิ่งไปกันใหญ่ ปิ๊ดเลยอยากให้ยุ้ยพูดคนเดียว แล้วก็ทุกสิ่งทุกอย่างที่ตอบมาจากยุ้ยก็คือเรื่องจริงหมดเลย”
“เรื่องรีเทิร์น คือ ณ วันนี้ผมก็พยายามคิดทบทวนทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมา ผมรู้สึกว่าเรื่องอนาคตเราไม่ควรจะพูดอะไรเยอะแล้วครับ การจะกลับมาในเรื่องของความรักกับยุ้ยหรือว่าในเรื่องต่างๆ ในอนาคตเนี่ย เอาเป็นว่าให้มันเป็นไปตามเวลาดีกว่า ณ วันนี้กับยุ้ยก็ยังมีความรู้สึกดีๆ ต่อกันมากๆ ครับ ยังมีความเป็นห่วง ยังมีความกังวลอยู่ในข่าวที่ผมรับรู้มา ว่ามีการให้ข่าวยุ้ยไม่ดี ผมก็ยังรับรู้อยู่ ก็ยังเป็นห่วงเรื่องนั้นมากกว่า”
“ทุกวันนี้ก็ยังมีโทร.คุยกันบ้างครับ เพราะว่าเป็นห่วง จริงๆ ผมกังวลมากในเรื่องที่เขาเป็นคนดี แล้วก็มีคนเลวมาคอยรังแกเขา ก็เป็นห่วงเรื่องนี้ครับ แต่ไม่ได้โทรไปง้อครับ เพราะว่าเรื่องความเข้าใจของเรา คือ เราเคลียร์กันด้วยความเข้าใจจริงๆ ไม่ได้มาจากมือที่สามชัวร์ร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ ไม่มีใครมาทำให้ผมเลิกกับยุ้ยได้ นอกจากตัวผมเอง แล้วก็ตัวยุ้ยครับ”
เผยว่า ส่วนตัวมีคนที่ดูๆ อยู่ แต่ยังไม่ได้เลื่อนสถานะ แต่ข่าวที่ว่าแม่สาวยุ้ย โกรธจนไม่ยอมให้เข้าบ้าน เจ้าตัวเผยว่าเป็นแค่ข่าว ไม่มีความจริงเลย
“ตอนนี้ผมยังใช้ชีวิตของผมอยู่ แต่ว่าผมก็ดูของผมเป็นเพื่อนกัน ผมก็ดูคนที่จะเข้ามาดูแลผมได้ คนที่เข้ามาแล้วเข้าใจผม และผมเข้าใจเขาครับ แต่เรื่องข่าวมันก็คือข่าว คือไม่ว่าผมจะไปยืนอยู่จุดไหน หรือไม่ว่าดาราคนไหนยืนอยู่จุดไหน ถ้ามีคนประสงค์ร้ายหรือว่ามีคนต้องการจะปล่อยข่าว แค่เพียงประโยคๆ เดียวลงในอินเตอร์เน็ตมันก็คือข่าวน่ะครับ แต่ว่าขอให้ท่านผู้ชม ท่านผู้ฟังทุกคนรับข่าวตรงนั้นมาแล้วก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง อย่าไปเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะยังไงก็ตามเราสามารถปั้นข่าวทุกข่าว ให้มันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว”
“ส่วนข่าวที่ว่าแม่ยุ้ยโกรธจนไม่ยอมให้เข้าบ้าน อันนี้คือข่าวครับ จริงไม่จริงไม่รู้ แต่กับตัวผมเองทุกวันนี้ผมก็ยังรู้สึกว่าผมยังรู้สึกดีกับครอบครัวยุ้ยอยู่ พ่อแม่ผมก็รู้สึกดีกับครอบครัวยุ้ยอยู่ ทุกอย่างมีแต่สิ่งดีๆ ทั้งนั้นเลยครับ หลังจากเลิกกันไป ตอนยุ้ยป่วยผมก็ไปเยี่ยม ก็ยังเจอแม่ยุ้ยอยู่ แต่ตอนนั้นยังไม่มีข่าวครับ ท่านก็เฉยๆ นะครับ”
“สำหรับผม การดูๆ ครั้งนี้ มันไม่ใช่ชีวิตรักครั้งใหม่ครับ มันเป็นชีวิตจริงของผมเอง และเป็นชีวิตจริงของยุ้ยด้วย ตอนที่ผมกับยุ้ยเป็นแฟนกัน ต่างคนต่างก็ให้สิ่งดีๆ ต่อกันมาก คือผมก็ให้ยุ้ยเต็มที่ร้อยเปอร์เซ็นต์ และคิดหวังอะไรอย่างที่ผมเคยพูดไปร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ว่าเมื่อชีวิตจริงมันเริ่มที่จะมีรายละเอียดอะไรมากขึ้น เราก็ต้องทำความเข้าใจกับชีวิตว่าเราจะไปฝืนมันไม่ได้ เราก็ต้องตัดสินใจในสิ่งที่ดีที่สุดในอนาคต”
“ผมบอกแล้วว่าเรื่องในอนาคตผมตัดสินใจไม่ได้ และก็ผมไม่อยากพูดถึงอีกแล้ว ว่าต่อไปผมจะเป็นยังไง ต่อไปผมจะกลับมารีเทิร์น ผมไม่พูดดีกว่า ผมปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามความจริง มันถึงจะออกมาดีที่สุด”
“ซึ่งผมยินดีมากครับ ถ้ายุ้ยจะมีผู้ชายคนหนึ่งที่ดูแลยุ้ย ผมบอกได้เลยว่ายุ้ยต้องการคนที่จะดูแลยุ้ย ไม่ใช่ว่าผู้ชายคนนั้นต้องให้ยุ้ยดูแล ไม่ใช่ คือต้องการคนที่ดูแลยุ้ย ผมจะยินดีมาก ถ้าเกิดวันหนึ่งมีผู้ชายมาดูแลยุ้ยได้ดีกว่าผม”
ส่วนเรื่องบ้านที่เจ้าตัวเก็บหอมรอมริบ และเคยประกาศว่าจะใช้เป็นเรือนหอกับนางเอกสาวนั้น “ปิ๊ด” เผยว่ายังคงจะใช้เป็นเรือนหอเช่นเดิม
“บ้านก็ยังอยู่ใกล้ยุ้ยเหมือนเดิมครับ เพราะบ้านคือความภูมิใจที่ผมมี จะย้ายหนีทำไม ผมไม่ได้ทำผิดอะไร ผมเก็บเงินที่ผมใช้แรงกายทุกอย่างเพื่อใช้บ้านหลังนี้ คือผมภูมิใจมากถ้าเกิดบ้านหลังนี้สำเร็จ แล้วก็อยู่ได้อย่างมีความสุข”
“มันยังเป็นเรือนหอผมแน่ๆ ครับ แต่กับใครผมก็ยังไม่รู้ มันเป็นเรื่องอนาคตจริงๆ แต่ผมก็อยู่บ้านหลังนี้แน่ๆ คือ ผมเคยรู้สึกเหมือนกันว่าเรามีความหวังกับบ้านหลังนี้ยังไง แต่ความจริงมันก็คือความจริงครับ เราไม่สามารถที่จะหลอกตัวเองได้จริงๆ เพราะฉะนั้นเราต้องทำความเข้าใจ ว่าความจริงในชีวิตต่อไปในอนาคตคืออะไร”