รักทรหด 17 ปี “วุธ-ผานิต” แต่งแล้ว เจ้าบ่าวฟุ้ง ประทับใจเจ้าสาวที่เคียงข้างยามลำบาก มองตาก็เข้าใจ ด้านเจ้าสาวสุดตื่นเต้น พร้อมเผย รู้สึกดีที่อีกฝ่ายรักที่ตัวตน ไม่เคยเรียกร้องให้เปลี่ยนแปลง ก่อนบอกพร้อมปั๊มทายาททันที
หลังคบหากันมายาวนาน 17 ปี พระเอกวิกหมอชิต “วุธ อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร” จูงมือแฟนสาว “ผานิต เจียรวิบูลยานนท์” เข้าสู่ประตูวิวาห์ไปเรียบร้อย เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา (2 มี.ค.) ที่ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ หลังไปจัดพิธีแต่งงานมาแล้วที่บ้านเจ้าสาว จังหวัดจันทบุรี ก่อนจะจัดงานอีกครั้งที่จังหวัดพัทลุง ซึ่งเป็นบ้านของเจ้าบ่าว ส่วนเหตุผลที่จัดงานถึง 3 รอบ บ่าว-สาว ให้เหตุผลว่า เนื่องจากแขกผู้ใหญ่ และเพื่อนฝูงไม่สะดวกที่จะไปร่วมงานยังต่างจังหวัด
บรรยากาศภายในงานถูกเนรมิตให้เป็นซุ้มสวนดอกไม้ประดับด้วยลูกแอปเปิล ก่อนเข้าถึงช่วงพิธีเจ้าบ่าวและเจ้าสาวให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนอย่างอารมณ์ดี ถึงแม้เจ้าสาวจะพูดน้อยและตื่นเต้น เมื่อเจอสื่อมวลชน แต่บรรยากาศก็เต็มไปด้วยความอบอุ่นประทับใจ โดยมีเหล่าบรรดาดาราทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ ตบเท้ามาร่วมอวยพรคับคั่ง อาทิ กบ สุวนันท์-บรู๊ค ดนุพร, หาญส์-ปู มัณฑนา, บ๊วย เชษฐวุฒิ-ตุ๊ก ชนกวนันท์ ส่วนที่มาเดี่ยว ก็อาทิ ยุ้ย จีรนันท์, นุ่น วรนุช, หนิง ปณิตา, พิ้งกี้ สาวิกา, เมย์ อรวรรษา, โอ๋ รุ่งระวี, ท็อป พิพัฒน์ ฯลฯ โดยมี “ไพรัช สังวริบุตร” เป็นประธานในพิธี
ซึ่งก่อนที่งานจะเริ่มคู่บ่าว-สาว ได้ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชน เจ้าบ่าวเผย ประทับใจที่เจ้าสาวอดทน และอยู่เคียงข้างเมื่อลำบาก ด้านเจ้าสาวถึงกับออกอาการตื่นเต้น พร้อมเอ่ยชมเจ้าบ่าวนิสัยดี ไม่เคยบอกให้เปลี่ยนแปลงตัวเอง
ผานิต : “ตื่นเต้นค่ะ ตื่นเต้นมาก ยิ่งพอเห็นนักข่าวมาเยอะยิ่งตื่นเต้นมากกว่าวันที่จันทบุรีอีก ที่จันทบุรีจะสนุกกว่าคะ(ยิ้ม)”
วุธ : “ความสนุกที่นี่ยังไม่เกิดขึ้นครับ ยังไม่รู้เลยว่าจะสนุกแค่ไหน ที่นี่อาจจะสนุกอีกแบบหนึ่ง อย่างที่จันทบุรีก็จะมีเพื่อนๆ ที่มหาวิทยาลัย และก็จะมีนักข่าวอีกแบบหนึ่ง มีเพื่อนร่วมวงการที่รู้จักกัน”
“ความประทับใจที่มีต่อผานิต คือ เวลาที่เราเจอปัญหา เขาจะอยู่ข้างเราตลอด ถ้าเรามีความสุขเราหาคนมาอยู่ข้างเราง่ายอยู่แล้ว แต่เขาคือคนที่อยู่ข้างเราในยามที่เรามีความทุกข์ และอีกอย่างอาชีพนักแสดงไม่ใช่ว่าจะสุขตลอดไป ก็มีบ้างวันที่เราไม่มีตังค์ต้องยืมตังค์จากเขา แม้แต่ตังค์กินข้าว เรายังไม่มี ใครบอกว่าอาชีพนักแสดงสบายไม่ต้องลงทุน จริงๆ ต้องลงทุนนะ ต้องมีตังค์แต่งตัวซื้อข้าวให้ถึงวันที่เขาปิดกล้อง วันที่ต้องจ่ายตังค์ค่าเช่าห้องต้องแอบนะ ถ้ามีคนมาเคาะเรียกเก็บตังค์ก็อายนะ แต่พอได้ตังค์มาแล้วก็เอาไปให้เขา”
ผานิต : “ไม่เคยรู้สึกว่าลำบากเลยค่ะ คิดว่ามันเป็นชีวิตอีกแบบหนึ่ง”
วุธ : “ถ้าเราไม่มีความทุกข์ ก็จะไม่มีความสุข วันนี้เราก็มีความสุขแล้ว”
ผานิต : “ที่ผ่านมา เราคิดว่าเราโชคดีมาตลอด และทางบ้านก็ไม่เคยคาดหวังเลยว่าลูกสาวจะได้แต่งงาน และวันหนึ่งพอได้มาเจอกับวุธ ก็รู้สึกดีมากๆ เขาไม่เคยให้เราเปลี่ยนแปลงตัวเอง ไม่เคยให้เราเปลี่ยนแปลงอะไรเลย เขาไม่เคยบอกว่าอ้วนไปนะ ลดหน่อยหรือไม่สวยอะไร เขาไม่เคยตามกระแส เขาไม่เคยบอกให้เราเปลี่ยนอะไรใดๆ ทั้งสิ้น เขารักที่เราเป็นตัวเรา(ยิ้ม)”
วุธ : “การที่เราจะหาใครคนหนึ่งที่เข้าใจเรา คุยกับเราได้ทุกเรื่องนั้นมันเป็นเรื่องยาก เขาสามารถคุยกับเราได้ทุกเรื่อง คือสมมติ ถ้าเอาคนสนิทมาอยู่ด้วยกัน 5 ชั่วโมง สักพักมันก็ต้องเลิกคุยกัน แต่เราอยู่ด้วยกันเราไม่มีทางหมดเรื่องคุย ขนาดอยู่กองด้วยกัน 24 ชั่วโมงเรายังคุยกันไม่หยุด เราไม่ได้คุยกันแต่เรื่องงานนะ เราคุยกันทุกเรื่อง หนังเรื่องจิปาถะ ขนาดหมาเดินข้างถนนเรายังหาเรื่องมาคุยกันได้ ก็รู้สึกดีครับ ต่างคนต่างที่อยากจะฟังกัน”
ส่วนเรื่องทายาท บ่าว-สาว บอกอยากให้เป็นเรื่องของธรรมชาติ จะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็ได้ไม่เกี่ยง
วุธ : “น่าจะปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติครับ เพราะคนที่ทำงานมากๆ มันก็ไม่ง่าย ต่อให้มีเงินเยอะๆ หรือคนที่นอนตามเวลาก็ยังมียากเลย ผมเคยไปเป็นพิธีกรงานแต่งงานเพื่อนผม แล้วผมถามเจ้าสาวมีลูกเลยไหม เจ้าบ่าวบอก โอ้ยสบายมากครับ ผมมีน้ำยา นี่ 6 ปีแล้ว มันก็ยังไม่มีลูกเลยครับ (หัวเราะ)”
“เราก็เลยไม่อยากให้เป็นแบบนั้น ปล่อยไปตามธรรมชาติดีกว่าครับ จะมีผู้หญิงหรือผู้ชายก็ได้ ก็คิดไว้เหมือนกันว่า ถ้าเป็นผู้ชายจะยังไง ถ้าเป็นผู้หญิงจะยังไง คิดเผื่อไว้แล้วทั้งสอง แต่ก็ไม่ได้กำหนดว่าจะต้องเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายอย่างเดียวครับ”
ผานิต : “ก็คือไม่ได้หวังอะไร ถ้าเขามาก็มาคะ”
เผยเตรียมไปฮันนีมูนที่นิวยอร์ก แต่ต้องรอละครปิดกล้องก่อน
ผานิต : จริงๆ ดูไว้หลายที่นะคะ อยากไปหลายที่ แต่อยากไปนิวยอร์กคะ ถึงไปเรียนที่นั่นแต่ก็ไม่ได้ไปเที่ยวเลย
วุธ : “ตอนที่เขาเรียนที่ซานฟรานซ์ จะตามไปเยี่ยมที่นู่นก็ไม่มีโอกาสไป พอเขากลับมาก็บอกว่าอยากไปทัวร์ที่นั้นอีก เราก็อยากจะไปเป็นไกด์พาเขาไปเที่ยว ถ้าไม่ได้ไปซานฟรานซ์ก็คงจะไปอเมริกาก็วางแผนไว้แต่ก็ต้องถ่ายละครที่ค้างไว้ให้เสร็จก่อน ถ้ายังไม่เสร็จก็คงต้องฮันนีมูนที่จังหวัดกาญจน์ เพราะเป็นสถานที่ถ่ายทำละครครับ (ยิ้ม)”
แย็บถามเรื่องสินสอด เจ้าบ่าวรีบตอบ ฟุ้ง มรดกที่สร้างมาให้เจ้าสาวหมดแล้ว บอก ตอนนี้ตนเป็นคนไม่มีหัวนอนปลายเท้า อ้อน แล้วแต่เจ้าสาวจะเมตตา ส่วนแหวานหมั้นเป็นของเก่าที่แม่ให้มา
วุธ : “สินสอดทองหมั้นจริงๆ แล้ว ถ้าเป็นจำนวนเงินก็ไม่กี่แสนหรอกครับ จะเป็นของซะมากกว่า สตางค์ไม่ค่อยมี ก็จะเป็นบ้านที่ดินและที่เปล่ายกให้กับเจ้าสาวครับ ตลอดหลายปีที่เก็บมา ตอนนี้ก็ถือว่าไม่มีหัวนอนปลายเท้าไม่มีที่พักต้องอาศัยเจ้าสาวช่วยเมตตา บ้านก็จะอยู่ที่ลาดพร้าว 71 ครับ ซื้อที่ดินเปล่าแล้วเอามาสร้างเอง สร้างใหม่ครับสร้างมา 4 ปีครับ ส่วนแหวนของผมเป็นแหวนใหม่ครับ ส่วนของเจ้าสาวเป็นแหวนเก่า คุณแม่เป็นคนเตรียมให้ครับ (ยิ้ม)”