หลังจากประสบความสำเร็จโด่งดังถึงขีดสุดบนเวทีออสการ์ หนูน้อย"อาซาห์รุดดิน" ก็ได้เดินทางกลับจากโลกฮอลลีวูดดั่งเทพนิยายสู่ชีวิตจริงในสลัมเมืองมุมไบเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ท่ามกลางการต้อนรับดุจฮีโร่ของประเทศแต่ฮีโร่ก็ต้องมาเสียน้ำตาหลังโดนพ่อตบบ้องหูเมื่อเจ้าตัวงอแงไม่ให้สัมภาษณ์นักข่าวโดยอ้างตัวเองยังเหนื่อยล้าจากการเดินทางอยู่
หลังจากที่ต้องนั่งเครื่องบินเป็นเวลายาวนานจากลอสแองเจลิสเพื่อเดินทางกลับอินเดียบ้านเกิด พร้อมกับต้องหยุดเรียนไปเมื่อวานนี้ นักข่าวหลายสำนักสบโอกาสรอสัมภาษณ์หนูน้อยอาซาห์รุดดินแห่งสลัมมุมไบทันที แต่แล้วทุกคนก็ต้องอึ้งไปตามๆกันเมื่อพ่อของอาซาห์รุดดินบันดาลโทสะใส่เขาหลังเจ้าตัวปฏิเสธที่จะออกจากเต้นท์ผ้าใบที่เขาเรียกว่าบ้านมาให้สัมภาษณ์กับนักข่าว จนกระทั่งถูกพ่อตบบ้องหูเข้าจนได้
ผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า "พ่อเขาเริ่มโกรธ เขาต้องการจะโชว์ลูกชายของเขาให้นักข่าวท้องถิ่นที่มารอทำข่าวได้สัมภาษณ์ แต่อาซาห์รุดดินบอกว่าเขาอยากอยู่คนเดียวเพราะว่าเขาเหนื่อยมาก"
วินาทีนั้นเขาก็โดนพ่อฟาดเข้าไปที่กกหู ก่อนที่หนูน้อยจะวิ่งหลบหายไปซุกตัวร้องไห้อยู่ในมุมหนึ่งของเต้นท์ผ้าใบ ทางด้านแม่ของเขาวัย 40 ปี ผู้พิการตาข้างหนึ่งก็ได้ร้องห้ามปามอิสเมลผู้เป็นพ่อวัย 45 ปี โดยต่อมาพ่อของเขาก็ออกมาแสดงความเสียใจต่อนักข่าวที่รอทำข่าวว่าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ที่ทำไปเพราะรักลูกเท่านั้น
"ผมกำลังสับสนและเริ่มเครียดกับการกลับบ้านของลูกชายครั้งนี้ แต่ผมรักลูกผมและผมก็มีความสุขมากมากจริงๆที่เขากลับบ้าน"
เรียกได้ว่าฉากที่พ่อตบลูกนั้นช่างแตกต่างจากวันที่เขาไปรับลูกกลับบ้านจากสนามบินอย่างสิ้นเชิง เพราะในวันนั้นพ่อของหนูน้อยดีใจมากตรงปรี่เข้าไปรับตัวเขาแบกขึ้นนั่งบนบ่าก่อนจะแห่ลูกชายไปรอบๆอย่างภาคภูมิใจ
เห็นชัดว่าหลังจากที่สื่อต่างๆ ที่ทำข่าวในวันนั้นต่างแยกย้ายไปหมดแล้ว ดูเหมือนว่าชีวิตจริงในสลัมของหนูน้อยเพิ่งจะกลับมาเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งจนเรียกได้ว่าชีวิตจริงของเขาไม่ต่างจากในนิยายเลยทีเดียว
