“สา” รับห่าง “ต้าร์” ยัน ไม่ได้เป็นกิ๊กกับ “เปรม”

รักสะดุด “สา” เผยห่าง “ต้าร์” แล้ว บอก เป็นช่วงพักใจกลับไปทบทวนตัวเอง ยัน “เก๋” ไม่ได้เป็นแม่สื่อให้กิ๊กกับ “เปรม” โอด สงสารที่ต้องถูกลากมาเป็นข่าว ทั้งที่เคยเจอกันแค่ไม่กี่ครั้ง

ส่อแววเลิกกันอีกราย สำหรับนางแบบดูม ดูม "สา มาริสา แอนนิต้าร์" กับแฟนหนุ่ม "ต้าร์ บาร์บี้" พร้อมกับข่าวลือหันไปคบกับไฮโซเนื้อหอม “เปรม บุษราคัมวงศ์” อดีตคู่หมั้น “ทาทา ยัง” โดยมี “เก๋ ชลดา เมฆราตรี” เป็นแม่สื่อชักใยรัก เรื่องนี้หนุ่มเปรมเคลียร์ไปแล้ว ว่าไม่เป็นความจริง คราวนี้เป็นคิวของสาวสาออกโรงเอง รับรักสะดุดกับหนุ่มต้าร์จริง แต่ไม่มีมือที่สาม และไม่ได้กิ๊กกับเปรมแต่อย่างใด

“ก็ยังถอยไปเรื่อยๆ ความสัมพันธ์ ก็เหมือนเดิม ที่พูดไปตั้งแต่คราวก่อนแล้วค่ะ ตอนนี้ก็ยังไม่มีอะไรดีขึ้น ก็ยังถอยหลังอยู่ค่ะ ก็มีคุยกันบ้างค่ะ แต่ว่าไม่ได้เจอเลยค่ะ ถามว่าจบดีมั้ย สาไม่ได้พูดนะว่าจบ ตอนนี้เป็นช่วงปิดเทอม เดี๋ยวถ้าโรงเรียงเจ๊งเมื่อไหร่แล้วเดี๋ยวบอก (หัวเราะ) ตอนนี้ปิดเทอมถอยหลังกันไปก่อน”

“ตอนนี้ไม่เศร้าค่ะ จะกลับมาเหมือนเดิมได้หรือเปล่านั้น ขอใช้เวลาดีกว่าค่ะ ยังไม่รู้จะตอบอะไร ตอนนี้ก็โทรคุยกับปกติ สลับกันโทร แต่ก็ไม่ได้เยอะ ก็คนไม่ได้เกลียดกัน คุยกันได้ ต่างคนต่างโตค่ะ ถ้าจะก้าวไปไหนสักก้าวนึง ก็ต้องหันหลังดูตัวเองด้วย ว่า ตัวเองเดินไหวหรือเปล่า ถ้าไม่ไหวก็นั่งพักก่อนดีกว่า”

“ตอนนี้ยังไม่เปิดใจ ไม่พร้อมค่ะ เอาไว้ปีหน้าค่อยมาถามใหม่ ปีนี้ไม่มีค่ะ ขออยู่กับเพื่อนแล้วก็อยู่กับครอบครัว เพื่อนก็ให้กำลังใจอยู่ด้วยตลอดเวลา อย่าเพิ่งคิดไปไกลค่ะ อย่างที่บอกสายังไม่มีคำตอบที่แน่นอน 3-5 เดือนค่อยมาถามใหม่ สาอาจตอบอะไรได้ดีขึ้น”

ปฏิเสธหนุ่มเปรมไม่ใช่มือที่สาม ย้ำเป็นแค่เพื่อร่วมงานกันเท่านั้น โอด สงสารที่ต้องมาโดนข่าวจับคู่ ก่อนป้อง "เก๋ ชลดา" ไม่ใช่แม่สื่อ
“สาไม่ได้คุยอะไรกับเปรมเลยค่ะ เจอกันวันงาน zense of joy spa เมื่อวันที่ 3 ก.พ.ค่ะ แล้วก็ไม่เจออีกเลย ก็สงสารเขานะ คืออย่างที่บอก เป็นแค่คนร่วมงานกัน สงสารเขาที่อยู่ๆ ก็โดนจับคู่ เราเป็นแค่เพื่อนร่วมงาน จะพัฒนาความสัมพันธ์ไหม อันนี้ไม่ทราบค่ะ ก็อย่างที่บอกไม่ได้สนิทกันมาก ไม่ได้ทานข้าว ไม่ได้โทรคุยกัน แค่รู้จักกัน”

“ข่าวที่บอกว่าพี่เก๋เป็นแม่สื่อ ไม่ใช่ค่ะ เพราะว่าสาเองก็สนิทกับพี่เก๋มานาน แล้วก็เป็นน้องที่ดีของพี่เก๋มาตลอด พี่เก๋เองก็สนิทกับเปรมมาตั้งนานแล้วค่ะ คนก็เลยเอาไปผูกกันยุ่งเหยิงไปหมดเลย จริงๆ แล้วไม่มีอะไร”