Slumdog Millionaire หนังแรงปลายจากอังกฤษกลายเป็นผลงานที่มาแรงที่สุดของเวทีลูกโลกทองคำปี 2009 หรือ 66th Golden Globe Award ที่กวาดทุกรางวัลจากการเข้าชิงทั้ง 4 สาขา โดยเฉพาะภาพยนตร์ยอดเยี่ยมสายดรามา ขณะที่ดาราสาวอังกฤษอย่าง "เคท วินสเล็ท" สิ้นสุดการรอคอยด้วยการคว้ารางวัลไปคืนเดียว 2 สาขา แต่ที่พลิกโผก็คือผลงานที่เข้าชิงมากที่สุดทั้ง 3 เรื่องต้องกลับบ้านมือเปล่าเรียบวุธ
Slumdog Millionaire หนังอังกฤษที่ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องดังของอินเดียอย่าง Q and A ของ วิคัส ซวารัป กลายเป็นพระเอกของการประกาศผลลูกโลกทองคำเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ด้วยการกวาดทั้ง 4 สาขาที่เข้าชิง ทั้ง ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมสายดรามา, ผู้กำกับยอดเยี่ยม ของ แดนนี บอยล์ (Trainspotting, A Life Less Ordinary, The Beach, 28 Days Later, Sunshine) บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ของ ไซมอน โบฟอย และ ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม ของ เอ.อาร์ ราห์มัน ในเรื่องราวของเด็กชายกำพร้าในมุมไบ ที่เติบโตมาด้วยความยากไร้ก่อนที่จะกลายเป็นแชมป์รายการทีวีประเภทเกมเศรษฐีของอินเดีย ขณะเดียวกันก็พยายามกลับไปตามหาความรักที่หายไปในวัยเด็กของเขา
ในส่วนของความสำเร็จส่วนบุคคล ต้องยกให้เป็นคืนของสาวอังกฤษ เคท วินสเล็ท ที่หลังจากเข้าชิงโดยไม่เคยสัมผัสรางวัลเลยทั้งลูกโลกทองคำและออสการ์ถึง 5 ครั้ง (จากเรื่อง Sense and Sensibility, Titanic, Iris, Eternal Sunshine of the Spotless Mind, Little Children ทั้งสองเวที) เธอก็ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่คว้ามาได้ทั้ง 2 รางวัลที่เข้าชิง ทั้ง นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมสายดรามา ในบทหญิงสาวที่พยายามประคับประคองชีวิตแต่งงานจากเรื่อง Revolutionary Road และ นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม ในบทพยาบาลของค่ายนาซีจาก The Reader
แต่ที่เซอร์ไพรส์เล็กๆ สำหรับการแจกรางวัลปีนี้ได้แก่ผู้ที่เข้าชิงมากที่สุด 5 สาขาทั้ง 3 เรื่องอย่าง The Curious Case of Benjamin Button, Doubt และ Frost/Nixon ต่างชวดทุกรางวัลที่เข้าชิงไปอย่างไม่น่าเชื่อ
ส่วนรางวัลที่ผู้คนเฝ้าจับตาในปีนี้ได้แก่สาขานักแสดงสมทบยอดเยี่ยม ที่ในที่สุด ฮีธ เลดเจอร์ ที่ทิ้งมรดกในการสวมบทเป็นตัวร้ายโจ๊กเกอร์ได้ยอดเยี่ยมที่สุดใน The Dark Knight ก็คว้ารางวัลใหญ่หนึ่งเดียวที่เรื่องนี้เข้าชิงได้สำเร็จ และยิ่งเป็นการตอกย้ำการเป็นเต็งหนึ่งในสาขานี้ของเวทีออสการ์ที่จะประกาศผู้เข้าชิงในวันที่ 22 ม.ค.นี้ ที่เป็นวันครบรอบหนึ่งปีที่นักแสดงหนุ่มออสซีผู้นี้ลาโลกก่อนวัยอันควร
ซึ่งผู้ที่มารับรางวัลแทนดาราหนุ่มผู้ล่วงลับได้แก่ คริสโตเฟอร์ โนแลน ผู้กำกับแบทแมน ที่กล่าวว่าการแสดงของเขาเป็นกำลังสำคัญที่ส่งให้หนังได้รับการชื่นชมอย่างยิ่งใหญ่ไปทั่วโลกในปีที่ผ่านมา
"พวกเราทั้งหมดที่ได้ร่วมงานกับฮีธใน The Dark Knight ขอรับมันด้วยความเศร้าสลดและความภูมิใจอย่างเหลือล้น หลังการจากไปของฮีธ คุณจะพบรอยตำหนิในอนาคตของวงการภาพยนตร์"
ในประวัติศาสตร์ออสการ์ที่ผ่านมา มีเพียง ปีเตอร์ ฟินช์ นักแสดงจาก Network หนังออสการ์เมื่อปี 1976 ผู้เดียวเท่านั้นที่เป็นนักแสดงที่คว้าออสการ์ได้หลังจากเสียชีวิตไปแล้ว
อีกคนที่ประกาศการเป็นตัวเต็งของปีนี้ได้แก่สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมสายดรามา ที่ มิคกี รูค ที่รับบทเป็นอดีตนักมวยปล้ำที่ได้โอกาสสุดท้ายในการกลับมาสร้างชื่อเสียงบนเวทีอีกครั้ง ในเรื่อง The Wrestler ที่แรงจนคว้ารางวัลไปครองได้สำเร็จ ที่หลายคนเห็นว่าเป็นเหมือนภาพสะท้อนของตัว มิคกี รูค เอง ที่เส้นทางดาราต้องมัวหมองหลังจากการเป็นแบดบอยของเขาในอดีต ก่อนที่จะกลับมาได้อย่างยิ่งใหญ่จากผลงานเรื่องนี้
ในสาขานักแสดงนำในสาขาตลกหรือเพลงที่คว้ารางวัลไปแบบไม่ผิดคาดได้แก่ แซลลี ฮอว์กินส์ ในบทสาวมองโลกในแง่ดีตลอดกาลจากเรื่อง Happy-Go-Lucky ที่ย้ำการเป็นตัวเต็งในสาขานักแสดงนำหญิงของออสการ์ขึ้นไปอีก แต่ที่เซอร์ไพรส์เล็กๆ ได้แก่การคว้ารางวัลดารานำชายของ โคลิน ฟาร์เรล จากบทนักฆ่าที่มาหลบซ่อนตัวในเมืองท่องเที่ยวของเบลเยี่ยมจากเรื่อง In Bruges
ในส่วนของแอนิเมชั่นขวัญใจคอหนังอย่าง WALL-E ก็ไม่พลิกโผในการคว้าสาขาแอนิเมชั่นยอดเยี่ยมไปครองได้สำเร็จ ซึ่งผู้ที่มารับรางวัลนี้ได้แก่ผู้กำกับ แอนดรูว์ สแตนตัน ที่กล่าวขอบคุณทีมงาน Pixar Animation และผู้จัดจำหน่ายอย่าง Walt Disney ในการช่วยกันสร้างเรื่องราวความรักที่ประหลาดของหุ่นยนตร์สองตัวที่สื่อสารกันด้วยเพียงเสียงปี๊ปและเอี๊ยดที่ "คงจะไม่มีใครคิดจะทำนอกจากที่นี่"
สรุปผลรางวัล 66th Golden Globe Award
ภาพยนตร์
ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมสายดรามา: Slumdog Millionaire
ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมสายตลกหรือเพลง: Vicky Christina Barcelona
นักแสดงนำชายยอดเยี่ยมสายดรามา: มิคกี รูค จาก The Wrestler
นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมสายดรามา: เคท วินสเล็ท จาก Revolutionary Road
ผู้กำกับยอดเยี่ยม: แดนนี บอยล์ จาก Slumdog Millionaire
นักแสดงนำชายยอดเยี่ยมสายตลกหรือเพลง: โคลิน ฟาร์เรล จาก In Bruges
นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมสายตลกหรือเพลง: แซลลี ฮอว์กินส์ จาก Happy-Go-Lucky
นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม: ฮีธ เลดเจอร์ จาก The Dark Knight
นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม: เคท วินสเล็ท จาก The Reader
ภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม: Waltz With Bashir
แอนิเมชั่นยอดเยี่ยม: Wall-E
บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม: Slumdog Millionaire
ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม: Slumdog Millionaire
เพลงประกอบยอดเยี่ยม: The Wrestler โดย บรูซ สปริงสทีน จาก The Wrestler
โทรทัศน์
ซีรีส์ดรามา: Mad Men
นักแสดงนำชายสายดรามา: แกเบรียล ไบร์น จาก In Treatment
นักแสดงนำหญิงสายดรามา: แอนนา พาควิน จาก True Blood
ซีรีส์เพลงหรือตลก: 30 Rock
นักแสดงนำชายสายเพลงหรือตลก: อเล็กซ์ บอลด์วิน จาก 30 Rock
นักแสดงนำหญิงสายเพลงหรือตลก: ทีนา เฟย์ จาก 30 Rock
มินิซีรีย์หรือภาพยนตร์: John Adams
นักแสดงนำหญิงสายมินิซีรีย์หรือภาพยนตร์: ลอว์รา ลินนีย์ จาก John Adams
นักแสดงนำชายสายมินิซีรีย์หรือภาพยนตร์: พอล เจียแมตติ จาก John Adams
นักแสดงสมทบหญิงสายมินิซีรีย์หรือภาพยนตร์: ลอว์รา เดิร์น จาก Recount
นักแสดงสมทบชายสายมินิซีรีย์หรือภาพยนตร์: ทอม วิลกินสัน จาก John Adams
รางวัลเชิดชูเกียรติ ซีซิล บี. เดอมิล: สตีเวน สปีลเบิร์ก
รายชื่อผู้เข้าชิง 66th Golden Globe Awards ในสาขาภาพยนตร์และโทรทัศน์