“เบลล์” ยันไม่ได้ทะเลาะ “หญิง-หลิว” หลังปิดกิจการสอนเต้นกลางสยามสแควร์ ปัดไม่ขอพูดพาดพิงใคร บอกขอไม่ลงละเอียดเรื่องการเงิน ฝากแจ้งนักเรียนที่ลงเรียนไว้แล้ว แจงมาเรียนให้จบคอร์สได้ และพร้อมคืนเงินมัดจำ ด้าน “หญิง-หลิว” ยันเสียดายกิจการแต่หากทำต่อไปไม่ได้ก็พร้อมหยุด
ปิดตัวลงอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม ที่ผ่านมาสำหรับสตูดิโอสอนเต้น “แชลวีแดนซ์” ของนักร้องสาว “เบลล์ ไชน่าดอลล์” หรือ “สุภัชญา ลิทธิโสภณกุล” , “ญาญ่า หญิง” หรือ “รฐา โพธิ์งาม” , “หลิว มนัสวี กฤตตานุกูล” ร่วมด้วยหุ้นส่วนอีกคน คือ “จอย หว่อง” เปิดสอนที่สยามสแควร์ซอย 11 โดยวันนี้ (8 ม.ค.) ทั้งสามเปิดแถลงข่าวถอนตัวจากการหุ้นครั้งนี้แล้ว
ซึ่งการเปิดสตูดิโอสอนเต้นครั้งนี้นั้นที่ผ่านมาสาวเบลล์จะทำหน้าที่บริหารกลยุทธ์และประชาสัมพันธ์ จอย หว่อง ทายาทร้านสักรายใหญ่ของประเทศไทย รับหน้าที่ด้านการเงิน ตอนหลังมีปัญหาเรื่องการไกล่เกลี่ยไม่ลงตัวจึงขอยุติการหุ้นในครั้งนี้ โดยสาวเบลล์ยืนยันว่าทั้งตนสามคนไม่เคยมีปัญหากันมาก่อน แต่จะไม่ขอพูดพาดพิงถึงบุคคลอื่น ยันไม่ใช่ปัญหาของตนทั้งสามแน่นอน แต่ขอไม่ตอบเรื่องการเงิน
“หลายคนอาจจะสงสัยว่าทะเลาะกันหรือเปล่า ไม่มีนะคะ ยังรักกันดีอยู่แต่ว่าเป็นหาภายในที่เราไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้นะคะ แต่ก็เป็นอันว่า ตรงนี้เนี่ยเราแค่อยากให้ป้องกันปัญหาทางด้านของการที่หลังจากนี้เนี่ยถ้าใครเขาแอบอ้างเป็น แชลวีแดนซ์ หรือว่าบริเวณสยามสแควร์เนี่ยไม่มีโรงเรียนสอนเต้นแชลวีแดนซ์แล้วนะคะ ก็คือไม่อยากให้เกิดความเสียหายที่ตามมาหลังจากนี้ ก็เลยต้องมีการแถลงข่าวขึ้น”
“จริงเรื่องเงินนี่ลงดีเทลไม่ได้จริงๆ แต่ว่าไม่ได้เป็นปัญหาทางวิกฤตเศรษฐกิจ และก็ไม่ใช่เรื่องของการขาดทุน ไม่ใช่เรื่องที่ไม่มีลูกค้า จริงๆแล้วตรงกันข้ามคือเป็นเพราะมีลูกค้าต้องการมาเรียนกับเรามากเราจึงจำเป็นต้องแถลงเรื่องตรงนี้ เรามีปัญหาภายในทำให้ดำเนินกิจการบริเวณสยามสแควร์ต่อไปไม่ได้ แต่ยังไงพวกเราสามคนก็ยังมีความฝันที่จะทำโรงเรียนนี้ต่อ คือถ้ามีโอกาสที่จะทำการเปิดใหม่สาขาใหม่อะไรที่ไหนอย่างไรเนี่ยเราจะบอกพี่ๆสื่อมวลชนอยู่แล้วค่ะ
“ปัญหาเรื่องเงิน เราลงดีเทลไปในเรื่องของตัวเงินนี่ไม่ได้จริงๆ แต่ว่าก็จะมีทางทนายความเข้ามาดูแล ก็ไม่ได้มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องเพื่อนทั้งสามคน แต่เป็นปัญหาของภายในมากกว่า ที่ทำให้เกิดปัญหาซึ่งก็ต้องขอโทษพี่ๆตรงนี้ด้วยที่ไม่สามารถเปิดเผย ลงรายละเอียดให้ไม่ได้ เพราะเราก็ไม่อยากให้มีการพาดพิงถึงใคร”
ยอมรับเสียใจกับการปิดกิจการครั้งนี้ ฝากถึงนักเรียนที่ลงเรียนค้างไว้ยืนยันจะสอนต่อจนจบคอส ส่วนใครที่มัดจำ พร้อมทยอยส่งเงินคืนแน่นอน
“จริงๆเสียใจมาก แล้วไม่อยากให้มีวันนี้เลย ก็ยังคุยกันทั้งสามคนว่ายังอยากทำต่อ แต่ว่ามันเนื่องด้วยปัญหาที่ทำให้ไม่สามารถที่จะดำเนินการต่อต้องหยุดไว้ชั่วคราว ต้องเรียกอย่างนี้ว่ามันไปต่อไม่ได้ตอนนี้ต้องยุติไว้ชั่วคราวค่ะ”
“ในส่วนของการสอนที่ค้างอยู่ ตรงนี้เราต้องชี้แจงนิดนึง ตรงในส่วนของน้องๆที่ยังเรียนแล้วยังติดค้างอยู่ คือบางคนมาชำระเงินแล้วก็เรียนยังไม่ครบชั่วโมง ตรงนี้เราทั้งสามคนจะรับผิดชอบโดยการที่จะสอนน้องๆต่อ โดยจะหาสถานที่แล้วสอนน้องๆต่อจนจบคอสแน่นอน ส่วนคนใดที่เป็นการมัดจำเงิน เราทั้งสามคนก็จะมีการทยอยคืนเงินให้นะคะ คือตรงนี้ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะว่าเราก็จะติดต่อเพราะว่าเราก็จะมีเบอร์ แล้วก็จะติดต่อไปยังลูกค้าแต่ละท่าน”
“จริงๆแชลวีแดนซ์ก็เป็นชื่อของทุกๆคน ตอนเปิดก็เป็นชื่อของทุกๆคนนั่นแหละค่ะ และเราก็ได้ทำจดหมายไปยังจุฬาฯ ทำจดหมายในการปิดกิจการ คือไม่มีผลในทางกฎหมาย ต่อจากนี้คือถ้าใครออกบิลในนามของแชลวีแดนซ์ก็ไม่สามารถทำได้ คือหลังจากนี้เนี่ยเราสามคนยุติในชื่อของแชลวีแดนซ์แล้ว”
ด้าน “หญิง รฐา โพธิ์งาม” ยอมรับเสียดายกับการปิดตัวโรงเรียนสอนเต้นครั้งนี้... “ก็เสียดายค่ะ จริงแล้วโรงเรียนนี้มันเกิดจากพวกเราสามคนคุยกันว่าอยากจะทำด้วนกับ แต่เมื่อมันมาถึงวันนึงมันเดินทางมาถึงจุดที่มันไม่สามารถถอยหลังหรือก้าวเดินหน้าได้มันก็ต้องหยุด ไม่อยากจะตะบี้ตะบันทำต่อ แต่ว่าไม่อยากที่จะหยุดไปเลย เพราะว่าความฝันและความตั้งใจก็ยังมีอยู่”
ด้านหุ้นส่วนอีกคนอย่าง “หลิว มนัสวี” เผยสั้นๆเสียดาย เพราะกว่าจะมารวมตัวกันไม่ใช่เรื่องง่าย... “เสียใจอยู่แล้วค่ะ ก็อยู่กันมาตั้งนานกว่าจะรู้จักกัน กว่าจะทำงานด้วยกันก็ไม่ใช่เรื่องที่ เป็นระยะเวลาสั้นๆ เพราะฉะนั้นในอนาคตจะเป็นยังไงก็เดี๋ยวเรารอกันต่อไปแล้วกันค่ะ”
ส่วนจะกลับมาเปิดร่วมกันอีกหรือไม่ สาวเบลล์บอกเป็นเรื่องของอนาคต
“คือถ้าพูดถึงในเรื่องของความรู้สึก เราสามคนอยากทำอยู่แล้วค่ะ แล้วก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะปิดด้วย อยากจะดำเนินการต่อ อย่างที่บอกไปปัญหามันเกิดจากเรื่องอื่นทำให้ไม่สามารถดำเนินการต่อได้ แต่ว่าแพลนในอนาคตต้องวางแผนให้ดีกว่านี้ จะเปิดพร้อมกันอีกมั้ย อันนั้นเป็นเรื่องอนาคตคงต้องคุยกันอีกที”
ส่วนหุ้นส่วนอีกคนสาวทอม “จอย หว่อง” ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของ “เบลล์” นั้น อดีตนักร้องสาวเผยไม่ขอพาดพิงถึง และยังไม่มีการดำเนินคดีแต่อย่างใด
“เรื่องดำเนินคดีตอนนี้ยังไม่มีนะคะ ทางทนายกำลังดูในเรื่องของหลักฐานอื่นๆ จริงๆตอนนี้เราก็ยังพุดในเรื่องของรายละเอียดไม่ได้ ยังไม่ได้บอกว่าจะมีการดำเนินคดีอย่างไร จริงๆแล้วตอนเปิด เรามีหุ้นส่วนอยู่ 4 ท่าน ให้ข้อมูลได้เพียงเท่านี้ค่ะ”
“คือมันตอบไม่ได้ค่ะว่าหุ้นส่วนอื่นมีปัญหา ตรงนี้เราจะไม่พาดพิงถึงบุคคลอื่นที่ไม่ได้อยู่ที่นี่แล้วกัน คือจริงๆแล้วมันมีความเสียหายเกิดขึ้นแหละแต่ว่าเราพูดลงดีเทลตรงนี้ไม่ได้ คือส่วนตัวเบลล์เองก็เยอะเหมือนกันที่ต้องแบกรับ”
ก่อนทิ้งท้ายยอมรับลูกศิษย์เสียใจกับการปิดสตูดิโอเต้นครั้งนี้ ..."ลูกศิษย์ก็มีเสียใจ โพสต์ทางอินเทอร์เน็ตบ้าง ก็ผูกพัน ก็เคยบอกแล้วว่าที่นี่จะเหมือนบ้านมากกว่า ที่น้องๆได้มาเจอพี่ๆ คอยสอนเรื่องเต้น เวลาเขามาสยามก็เหมือนกับเขาได้มาบ้าน เขาก็บอกว่า อ้าวแล้วจากนี้จะไปนั่งที่ไหน จะไปเจอพี่ๆได้อีกที่ไหน"
