จะด้วยเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม แต่ถึงวันนี้ชื่อ 2 ชื่อ คน 2 คนที่ต่างวัยต่างเพศ อย่าง “ยายเนียม” และ “ไอติม” ต่างก็กลายเป็นชื่อที่ใครหลายคนรู้จักไปแล้วจากความผูกพันกับคนที่ชื่อ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” นายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ของประเทศไทย
ยายเนียม มีชื่อจริงว่า “เนียม พันธุ์มณี” อายุ 84 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 48 ต.บ้านโนนค้อ อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี โดยจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทั้งสองรู้จักกันเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2550 ระหว่างที่ นายอภิสิทธิ์ ได้ลงไปช่วยผู้สมัคร ส.ส.อุบลฯ พรรคประชาธิปัตย์ หาเสียง
ในระหว่างที่กำลังนั่งรับประทานอาหารเที่ยงนั้นเอง ยายเนียม ที่ปั้นข้าวเหนียวให้กับ นายอภิสิทธิ์ รับประทานก็ได้ถอดแหวนทองเหลือง ซึ่งได้มาจากพระที่วัดพระธาตุพนม จ.นครพนม และสวมมาตั้งแต่อายุ 20 ปี โดยไม่เคยถอดเลยให้ พร้อมกับบอกว่าเป็นแหวนศักดิ์สิทธิ์ จะช่วยให้เป็นนายกฯ
จะด้วยอิทธิฤทธิ์ของแหวนหรือเหตุผลกลใดก็ตาม ในที่สุดสิ่งที่ยายเนียมพูดไว้ก็เป็นความจริงขึ้นมาจนได้
ชื่อของ ยายเนียม อาจจะถูกหลายๆ คนลืมไปแล้ว ทว่า ไม่ใช่กับคนที่ชื่อ อภิสิทธิ์ เมื่อเขาได้พูดถึงยายเนียมและแหวนวงดังกล่าวขึ้นมาในช่วงหนึ่งของการเปิดใจภายหลังได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้เองที่ทำให้ยายเนียมซึ่งนั่งชมการถ่ายทอดสดทางทีวีอยู่ถึงกับร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ
“ดีใจมากจนร้องไห้ ยกมือไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลกไปทั่ว ยายเห็นท่านอภิสิทธิ์รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ยิ่งดีใจร้องไห้ จนเพื่อนบ้านที่มางานที่บ้านก็ดีใจ อยากให้ท่านมาหาไวๆ คิดถึงมาก อยากให้มาหาอีก”
ถึงวันนี้โอกาสที่ทั้งสองคนจะได้เจอะเจอพูดคุยกันอีกครั้งคงไม่สามารถเป็นไปได้แล้ว หลัง ยายเนียม ได้หมดลมหายใจลงไปในช่วงเช้าที่ผ่านมาของวันที่ 8 มกราคม 2552 ด้วยโรคมะเร็งในท่อถุงน้ำดี โดยในขณะที่ยายเนียมมีอาการป่วยทรุดลงไปนั้น ทางด้านนายอภิสิทธิ์เองก็ได้เขียนจดหมายไปหาเพื่อเป็นกำลังใจด้วย
...
6 มกราคม 2552 ที่ผ่านมา บรรยากาศภายในทำเนียบรัฐบาลดูจะแตกต่างไปจากวันก่อนๆ เมื่อข้างกายของนายกฯ ไทยคนที่ 27 ได้ปรากฏร่างของเด็กหนุ่มวัยรุ่นลักษณะท่าทางสุภาพเรียบร้อยคนหนึ่งเดินคู่พูดคุยกันมาอย่างนิทสนม
ที่สำคัญก็คือ เด็กหนุ่มคนที่ว่ามีใบหน้าคมคายกว่าตัวนายกฯ ที่หลายคนชมว่าหล่อแล้วเสียอีก
จากนั้นไม่นานถึงคนก็ถึงบางอ้อ เมื่อ นายอภิสิทธิ์ ได้เปิดเผยว่า เด็กหนุ่มคนดังกล่าวมีชื่อว่า “ไอติม” เป็นหลานชายแท้ๆ ของตน ส่วนที่พามาที่ทำเนียบด้วย ก็เพราะว่าหลานชายเป็นคนที่มีความสนใจในเรื่องการบ้านการเมืองอยู่บ้าง เลยขอติดตามน้าชายมาดูการทำงาน ประกอบกับอีกฝ่ายอยู่ในช่วงหยุดเรียนอยู่ด้วย ตนจึงพามา
หลังถูกเปิดตัวข้อมูลของ “ไอติม” ก็หลั่งไหลมาทันที และดูเหมือนจะยิ่งทำให้ใครต่อใครชื่นชมเขามากยิ่งขึ้น เพราะไม่ใช่เพียงแค่รูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้นที่เข้าท่า ทว่าในเรื่องของพื้นฐานครอบครัว-การศึกษาต่างๆ ของเขาก็ล้วนดูดีไม่แพ้กัน
ไอติม มีชื่อจริงว่า “พริษฐ์ วัชรสินธุ” เป็นบุตรชายของศาสตราจารย์แพทย์หญิง อลิสา วัชรสินธุ อาจารย์หน่วยจิตเวชเด็ก ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ พี่สาวของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กับศาสตราจารย์ นายแพทย์ สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ อาจารย์ประจำหน่วยต่อมไร้ท่อ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
มีพี่ชายหนึ่งคนชื่อ “อะตอม พศุตม์ วัชรสินธุ” ซึ่งหากใครยังจำกันได้ ไอติม เคยมาออกรายการทีวีร่วมกับครอบครัวในรายการ “คืนนี้กับสายสวรรค์” ทางช่องทีไอทีวีเมื่อ 3 ปีที่แล้ว
ปัจจุบันเจ้าตัวมีอายุ 16 ปี และเป็นอีกคนหนึ่งในสายเลือดเวชชาชีวะ ที่มีความสามารถทางด้านการเรียนไม่แพ้ใครๆ หลังตามรอยน้าชายนายกฯ ด้วยการสอบได้ทุน King's Scholarship จาก Eton College สถาบันการศึกษาชื่อดังอายุเก่าแก่ของประเทศอังกฤษ (ก่อตั้งในปี ค.ศ.1440) ซึ่ง เจ้าชายวิลเลี่ยม และ เจ้าชายแฮร์รี่ เองก็เป็นหนึ่งในศิษย์เก่าของสถาบันแห่งนี้ด้วย
แต่ถึงแม้จะร่ำเรียนที่เดียวกับน้าชาย ทว่า ทีมฟุตบอลที่เชียร์นั้นไม่เหมือนกัน เพราะในขณะที่น้าชายนายกฯ เต็มเปี่ยมไปด้วยเลือดของสาลิกาดง “นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด” หลานชายคนนี้กลับเลือกที่จะเป็นแฟนของหงส์แดง “ลิเวอร์พูล”
เร็วเหลือเกินที่วันนี้จะไปพูดถึงหรือคาดเดาถึงบทสรุปในอนาคตของไอติมว่าจะเป็นไปในทิศทางใด? จะประสบความสำเร็จด้านไหน? จะเป็นนักการเมืองเหมือนน้าชายหรือไม่? หรือจะล้มเหลว-ดีแตกเช่นไร? แต่ที่สรุปได้ก็คือเขามีต้นทุนที่ดีจริงสำหรับภาพข่าวของนายกฯ คนปัจจุบัน
ช่วงหนึ่งที่ “ทักษิณ ชินวัตร” เป็นนายกรัฐมนตรี นักร้องลูกทุ่งหญิง “หลิว อาจารียา พรหมพฤกษ์” เคยร้องเพลง “สะใภ้นายก” กระทั่งมีข่าวซุบซิบแซวไปถึงบุตรชายหนุ่ม “โอ๊ค พานทองแท้” มาแล้ว
ก็ไม่รู้ว่า อนาคตจะมีเพลง “หลานสะใภ้นายก” ออกมาหรือเปล่า?