xs
xsm
sm
md
lg

"แฟนหมอกฤษฏ์" แฉ "มดดำ" จงใจแหกสคริปต์ให้ "แม่ลิเดีย" ด่าเผยโดนโทรลึกลับขู่ฆ่า สุดแค้นเตรียมแจ้งความหาคนบงการ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"แฟนหมอกฤษฏ์" แฉ "มดดำ" จงใจแหกสคริปต์ลาก "หมอกฤษฏ์" ขึ้นเวทีให้ "แม่ลิเดีย" ด่า เผยมีโทรศัพท์ลึกลับโทรขู่ฆ่าด่าคำหยาบคาย ลั่นพร้อมสู้ไม่กลัวอิทธิพลจวกแม่ลิเดีย ฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด

หลังจากที่ตกเป็นข่าวใหญ่โตโดน "แม่ลิเดีย" ศันสนีย์ วิสุทธิธาดา บุกเข้าไปด่าบนเวทีกลางงานแห่งหนึ่ง แถมยังประกาศศักดา "กราบที่ตีนดิ" จนฮือฮาไปทั่ว เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ "นุ่น" แฟนสาวของ "หมอกฤษฏ์" ศุกฤษฎ์ ปทุมศรีวิโรจน์คู่กรณีถึงกับช็อกต้องหามส่งโรงพยาบาล ทั้งนี้ได้รับการเปิดเผยจากหมอดูคนดังว่า สาเหตุที่ทำให้แฟนสาวช็อกนั้นเป็นเพราะว่าตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และที่ผ่านมาก็เป็นคนรับโทรศัพท์ที่บุคคลลึกลับโทรมาขู่ฆ่าแทนตนตลอดจนเครียด

"เขารู้สึกช็อกเพราะก่อนหน้านี้ก็มีโทรศัพท์ขู่ฆ่าพักใหญ่แล้ว แต่ผมไม่ได้เป็นคนรับส่วนมากจะเป็นผู้จัดการหรือว่าแฟนรับ เขาก็จะโทรมาแบบระวังอย่าให้เจอที่งานไหนจะกระทืบให้ นอกจากนั้นแล้วก็ยังโทรไปก่อกวนที่บ้านด้วย โทรไปขู่พ่อแม่ผมที่บ้าน อันนี้ผมไม่ได้ระบุนะครับว่าเป็นใคร เพราะผมก็ไม่ทราบว่าเป็นใครทำ อาจจะเป็นมือที่สามก็ได้ ล่าสุดแฟนผมก็เครียดมากถึงขั้นช็อกเข้าโรงพยาบาลไปเมื่อคืน พึ่งจะออกมาเมื่อกี๊นี้เอง เรื่องรายละเอียดยังไงถามแฟนผมเองก็ได้"

พอพูดจบ "หมอกฤษฏ์" ก็ยื่นโทรศัพท์ให้ "นุ่น" แฟนสาวเล่าถึงเหตุการณ์โดนขู่ฆ่าทางโทรศัพท์
"เขาโทรมาบ่อยมาก เป็นเสียงผู้ชายบางครั้งก็เป็นคนเดียวกัน บางครั้งเปลี่ยนคนวนเวียนโทรมาด่า เวลาโทรมาก็จะใช้คำพูดหยาบๆ คายๆ อย่าให้เจอแ - งจะกระทืบให้ อี.....ฝากบอกแฟนมึงด้วยว่า ทำตัวเ - ยแบบนี้ ให้เลิกดูดวงไปเลย มิหนำซ้ำยังด่าถึงพ่อถึงแม่ด้วย หนูฟังแล้วก็อึ้งๆ ค่อนข้างตกใจเพราะปกติก็เป็นคนเซ้นซิทิฟอยู่แล้ว คืออยากจะบอกว่า ทำไมจะต้องมาขู่ฆ่าด้วย ทำไมต้องทำกันขนาดนั้น"

"แต่เมื่อวานที่ช็อกก็เพราะตกใจที่แม่ของคุณลิเดียโผล่เข้ามาในงาน ไม่คิดว่าพี่มดดำ(คชาภา ตันเจริญ)จะชงเรื่องนี้ขึ้นมา เมื่อวานนี้มันผิดคิว จริงๆ แล้วคิวของพี่กฤษฏ์จะต้องขึ้นครั้งเดียวกับวู๊ดดี้(วุฒิธร มิลินทจินดา) แต่จู่ๆ พี่มดดำก็ไปลากตัวมาจากหลังเวทีให้ขึ้นมาพูดเปิดงานด้วยกัน ไม่ทราบว่าทำไมถึงทำแบบนี้ และไม่ทราบว่าพูดเรื่องนี้ขึ้นมาทำไม ในสคริปต์ก็ไม่มีและมันก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรจะพูดถึงอยู่แล้ว แต่เขาก็มาเปิดประเด็น พอจบงานก็ไม่ได้เข้ามาขอโทษก็ยังเริงร่าของเขาอยู่ ผู้ใหญ่ในงานก็บอกว่าไม่มีในสคริปต์ทำไมเอาพูด"

"คุณแม่ลิเดียเองก็เป็นผู้ใหญ่มากแล้ว ทำไมไม่รอเคลียร์หลังเลิกงาน ทางผู้ใหญ่ก็เข้าไปคุยแล้วว่าให้รอเคลียร์หลังเลิกงานแต่เขาก็ยังมาทำแบบนี้ ขึ้นมาด่าให้กราบเท้า คือการกราบเท้าเนี่ย มันต้องกราบเท้าพ่อแม่หรือกราบพระพุทธรูปนะคะ มันเหมือนผู้ใหญ่รังแกเด็กหนูเห็นแล้วรับไม่ได้ พี่กฤษฏ์เขาไม่ได้ไปฆ่าใครตาย หรือไปข่มขืนใครทำไมจะต้องกราบเท้าด้วย"

"พอพี่กฤษฏ์วิ่งเข้าไปหลังเวทีหนูก็ตามเข้าไปถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า พยายามปลอบใจเขาแต่ตัวเราเองก็ร้องไห้ไปด้วยคือมันช็อกกับสิ่งที่เกิดขึ้น และก็เครียดมากๆ ไหนจะเรื่องโดนฟ้อง 100 ล้าน ไหนจะเรื่องโดนขู่ฆ่า พอหลายๆ อย่างมารวมกันทำให้ช็อกอย่างแรง หายใจไม่ออก มือชาเท้าชาร่างกายมันน็อคจนต้องไปโรงพยาบาล ทางคุณหมอก็บอกว่า เป็นอาการช็อกเครียดเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น"

"เราก็ไม่ได้มีเจตนาอยากให้เขาฟังข้อเท็จจริง ไม่ใช่ฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียก อย่างคุณลิเดียเองให้สัมภาษณ์แต่ละครั้งก็พูดไม่เตรงกัน เดี๋ยวก็บอกว่าท้อง 100 เปอร์เซ็นต์ เดี๋ยวก็บอกว่าท้องไม่มีพ่อ ท้องกับคุณทักษิณ(พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร) ท้องแล้วไปทำแท้ง เขาพูดไม่ตรงกันเลย พี่กฤษฏ์ไม่ได้บอกเลยว่าท้องกับใคร ไม่ได้บอกด้วยว่าไปทำแท้ง หรือว่าท้องไม่มีพ่อ ไปเอาเทปมายืนยันถ้าไม่มีมายืนยันเราก็ต้องเอาบ้าง เขาย่ำยีเรากลางงานแบบนี้รับไม่ได้"

"คุณแมทธิว(แมทธิว ดีน) ก็ด่าว่าเป็นหมอหรือเป็นหมาพูดแบบนี้ได้ไง ถ้าเขาทำให้เราเสียหายก็ต้องฟ้อง เขาทำเราได้เราก็สิทธิ์ที่จะตอบโต้ ถ้าเขาไปแจ้งความหรือได้รับหมายศาลวันไหนเราก็ต้องมีเหมือนกัน เราก็จะดำเนินการเหมือนกัน เขาทำแบบนี้เหมือนจงใจประจาน เขาก็รู้อยู่แล้วว่าพี่กฤษฏ์ต้องมา บอกให้เคลียร์หลังเลิกงานก็ยังไม่ยอม ยืนล้วงกระเป๋าสั่งให้กราบตีนพูดแบบนี้ได้ไง"

"หนูไม่กลัวถึงเขาจะเป็นคนใหญ่คนโต ถ้าเป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรมเพราะเราก็จะทำอย่างเต็มที่ แต่ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเราก็บอกไว้เลยว่า เราไม่มีศัตรูกับใครที่ไหน"

อย่างไรก็ตาม "หมอกฤษฏ์" กลับไม่มีท่าทีจะฟ้องกลับหรือแจ้งความจับบุคคลลึกลับที่โทรมาขู่ฆ่า เผยตายเป็นตาย
"เราไม่ได้ทายให้เขาเสียหาย แต่เราก็ต้องยอมรับผิดในส่วนหนึ่ง จริงๆ เรื่องนี้มันมีข่าวลือมานานแล้ว นักข่าวมาถามผมก็ตอบคำถามนักข่าว ส่วนเรื่องฟ้องร้องผมก็ทำใจรับเพราะเราอยู่ตรงนี้เป็นคนสาธารณะอยู่แล้ว ผมทำใจรับฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทุกอย่าง แต่แฟนผมพ่อแม่ผมเขาไม่เกี่ยวข้องด้วยตรงนี้ก็รู้สึกเห็นใจเขา โดยเฉพาะคุณแม่ท่านค่อนข้างขี้กลัว คนที่โทรมาข่มขู่ก็มีความเป็นลูกผู้ชายสูงมากพอโทรมาก็ด่าเลย ผมก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นใครอาจจะเป็นมือที่ 3 ก็ได้ แต่เรื่องนี้ผมไม่อยากจะแจ้งความปล่อยไปให้มันตายไปเลย คือดวงเรามันก็เจอแบบนี้ ผมมีเกณฑ์ถูกรอบทำร้ายหรือฟ้องร้องอยู่แล้วก็ไม่เป็นไร แต่พ่อกับแม่ผมค่อนข้างขวัญหนีดีฝ่อ"
กำลังโหลดความคิดเห็น