xs
xsm
sm
md
lg

Coldplay ปัดลอกเพลง / Joe Satriani รับ "เจ็บเหมือนมีดปักอก"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หลังจากถูกฟ้องร้องจนกลายเป็นข่าวใหญ่ของโลกดนตรี ทางจำเลยอย่าง Coldplay ก็ออกมาเปิดปากถึงข้อกล่าวหาเรื่องการลอกเพลงเป็นครั้งแรกว่าพวกเขาไม่ได้รับอิทธิพลใดๆ ในการแต่งเพลงเจ้าปัญหา Viva La Vida มาแม้แต่น้อย ขณะที่ฝ่ายโจทก์ยืนฟ้องอย่างมือกีตาร์ "โจ แซทริอานี" เปิดใจว่าเจ็บปวดอย่างมากที่เห็นเพลงที่ตัวเองปั้นมากับมือถูกนำไปใช้โดยศิลปินรายอื่นอย่างนี้

โดยฝ่าย Coldplay ได้กล่าวฝ่ายทางเว็บไซต์ของวงเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยเนื้อหาปฏิเสธคำฟ้องร้องเรื่องการลอกเพลงอย่างชัดเจน

"ด้วยความเคารพอย่างสูงต่อ โจ แซทริอานี ตอนนี้เราจำใจต้องตอบกลับข้อกล่าวหาของเขาต่อสาธารณชน ถ้าเกิดว่ามีความเหมือนใดๆ ระหว่างดนตรีของเราทั้งสองคน มันเป็นเรื่องบังเอิญอย่างที่สุด มันสร้างความแปลกใจต่อพวกเราพอๆ กับตัวเขา โจ แซทริอานีเป็นนักดนตรีผู้ยิ่งใหญ่ แต่เขาไม่ได้เขียนหรือสร้างแรงบันดาลใจแก่เพลง Viva La Vida เราวอนขอให้เขายอมรับในสิ่งเหล่านี้ และขออวยพรให้เขาโชคดีในความพยายามครั้งต่อไป"



Coldplay - Viva La Vida

ขณะที่ฝ่ายยืนฟ้องอย่าง โจ แซทริอานี ได้ไปเปิดใจให้สัมภาษณ์ต่อทางเว็บไซต์ MusicRadar ว่ารู้สึกเจ็บปวดอย่างมากที่ผลงานของเขาถูกนำไปใช้โดยศิลปินรายอื่นอย่างนี้

"ครั้งแรกที่ได้ฟัง ผมก็รู้ในทันที ผมรู้สึกเหมือนมีคนเอามีดมาแทงเข้าที่หัวใจ มันเจ็บปวดสาหัส ครั้งที่สองที่ผมได้ยินมัน ผมก็รู้ทันทีว่ามันคือเพลง If I Could Fly ของผมนั่นเอง"

และดูเหมือนจะไม่เพียงแค่เขาคนเดียวที่เห็นความคล้ายคลึงระหว่างทั้งสองเพลง

"แทบจะในทันทีที่เพลงนั้นถูกนำมาเผยแพร่ อีเมล์ของผมก็ล้นไปด้วยข้อความของแฟนเพลงที่ส่งมาว่า 'คุณได้ฟังเพลงนี้ของ Coldplay หรือยัง เขาลอกคุณมาเลยพวก' จนผมบอกไม่ได้ว่าได้รับอีเมล์แบบนี้มามากแค่ไหน"

"ทุกๆ คนรับรู้ถึงความคล้ายคลึงของทั้งสองเพลงเป็นอย่างดี มันชัดมากๆ มันง่ายๆ เหมือนกับว่าตอนที่คุณได้ฟังเพลงซักเพลงแล้วอุทานออกมาว่า 'ว้าว มันลอกกันเห็นๆ' "

สิ่งที่สร้างความเจ็บปวดให้กับแซทริอานีไม่ใช่เพราะ If I Could Fly เป็นเพียงแค่เพลงๆ หนึ่งที่เขาแต่งขึ้นมา แต่เป็นงานประพันธ์ที่เขาใช้ความอุตสาหะในการสร้างมันขึ้นมานับ 10 ปีก่อนที่จะลงมือบันทึกเสียง

"ผมเริ่มเขียนเพลงนี้ระหว่างทัวร์คอนเสิร์ต Flying In A Blue Dream ช่วงปี 1990 แต่ด้วยวิธีการเขียนเพลงของผมบางครั้งกว่าจะออกมาเป็นเพลงก็ต้องใช้เวลาซักพัก เหมือนกับเพลงนี้ จนกระทั้งปี 2003 ที่ผมเริ่มอัดเดโมมันอย่างจริงจัง เริ่มจากการเล่นด้วยกีตาร์โปร่งเพื่อผมจะได้ร้องท่อนเมโลดีได้ จากนั้นผมก็อัดเดโมด้วยกีตาร์ไฟฟ้าเพื่อให้ได้ซาวด์ ซึ่งผลงานนั้นถูกสร้างขึ้นมาอย่างเป็นธรรมชาติมากๆ"



Joe Satriani - If I Could Fly

If I Could Fly ถูกรวมอยู่ในอัลบั้มชุด Is There Love In Space? เมื่อปี 2004 ที่ทำให้เขาภูมิใจกับผลตอบรับที่แฟนๆ มีให้ ที่หลายคนบอกว่ามันเป็นหนึ่งในเพลงที่ฟังติดหูที่สุดที่เขาเคยเล่นมา

"มันเป็นเพลงที่มีความหมายชัดเจน มันคือจดหมายรักของผมต่อรูบินาภรรยาของผม มันเรียบง่าย ความรู้สึกที่ถ่ายทอดอย่างจริงใจ"

"มันเลยเป็นเรื่องที่เจ็บปวดที่สุด ที่ผมใช้เวลาอย่างมากในการเขียนเพลง, ใส่ความคิดลงไป, ให้ความรัก, เฝ้าเลี้ยงดู จนกระทั้งได้ลงมือบันทึกเสียง และได้ขึ้นไปแสดงมันบนเวทีให้คนทั้งโลกได้ดูผมเล่น แต่แล้วก็ใครซักคนโผล่มาและเล่นเพลงที่เหมือนกันเปี้ยบและบอกว่าเป็นผลงานของพวกเขาเอง "

ความอัดอั้นตันใจส่งผลให้ศิลปินอย่าง โจ แซทริอานี ทำสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนด้วยการยืนฟ้องศาลข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ต่อวง Coldplay เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมันกลับทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง

"มันเป็นเรื่องแปลกประหลาดที่สุดที่ผมเคยประสบมา การตกเป็นเป้าสนใจของสื่อมันพิลึกพิลั่นและเกินจะเชื่อ ผมไม่สามารถอธิบายความรู้สึกในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาได้เลยจริงๆ"

ซึ่งแซทริอานีเผยว่าการออกมาฟ้องร้องครั้งนี้เป็นเหตุผลของคุณค่า "ความบริสุทธิ์ของศิลปิน" และสร้างจิตสำนึกของสิ่งที่ควรและไม่ควร

"ทุกๆ คนคิดว่าผมจ้องเล่นงานสมาชิกของวง Coldplay เหมือนว่าผมทำด้วยใจอาฆาต แต่มันเป็นทางเส้นสุดท้ายที่ผมเลือก ผมแค่ต้องทำสิ่งที่ต้องทำในฐานะศิลปิน เพื่อปกป้องงานประพันธ์ ปกป้องความรู้สึกที่ผมทุ่มเทลงในบทเพลง"

"ผมทำทุกๆ อย่างแล้วเพื่อจะได้ไม่ต้องจบลงที่ศาลอย่างนี้ แต่คนของ Coldplay ไม่คิดจะเปิดโต๊ะเจรจากับมันเลย พวกเขาแค่นั่งดูให้เรื่องนี้มันเงียบลงไปเอง บางทีพวกเขาอาจคิดเอาว่าประเดี๋ยวเจ้ามือกีตาร์ตัวเล็กๆ คนนี้อาจจะเลิกตอแยกับเขาไปเอง ผมก็นึกไม่ออกเหมือนกัน

"แต่เรากำลังพูดถึงงานศิลปะที่ผมเป็นคนสร้างมากับมือ ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมให้ความสำคัญ ผมคิดว่าทุกๆ คนควรจะรู้สึกเช่นนั้น"

Coldplay ถูกฟ้องคดี "ลอกเพลง" Joe Satriani



Coldplay Vs Joe Satriani Ft. Alizee
กำลังโหลดความคิดเห็น