“จูน” ชี้แจง “พีเค” พากินข้าวแถวคอนโด เปล่าพาขึ้นห้อง รับเจอครอบครัวฝ่ายชายแล้วสุดน่ารัก พร้อมปัดบ้านใหม่เรือนหอพิธีกรหนุ่ม บอกไม่รู้หน้าเหมือน “กาละแมร์” หรือไม่ แต่อยากเก่งเช่นพิธีกรสาว ยันไม่ได้ปากแข็งงดเรียกแฟนหวังโกยทรัพย์งานอีเวนต์ ฟุ้งดูใจพิธีกรสุดมั่นคนเดียว เผยไม่เสียใจที่อีกฝ่ายเปรยอยากแต่งงานกับอดีตแฟน
แม้จะเปิดตัวว่ากำลังศึกษาดูใจกันอยู่ได้เพียงแค่สองเดือนแบบไม่ค่อยเต็มปากเต็มคำเสียเท่าไร ล่าสุด ก็มีคนตาดีเห็นพิธีกรหนุ่มสุดมั่น “พีเค ปิยะวัฒน์ เข็มเพชร” ควงนางแบบโฆษณา “จูน ปวีณา รุ่งรัตนวิไล” ขึ้นคอนโดเสียแล้ว ข้อเท็จจริงเป็นเช่นไร เรื่องนี้สาว “จูน” ยอมรับเคยไปมาจริง
“เหรอคะ หนูไม่ทราบ เพิ่งทราบจากพี่ ไม่เคยไปค่ะ ถามว่าไปไหนมาไหนกับพี่พีเคไหม ไป แต่ที่คอนโดไม่เคยไป ทราบว่า ตอนนี้เขากำลังสร้างบ้านอยู่ แต่เขาคงอยู่คอนโดมั้ง ซีเรียสไหมก็เพิ่งทราบเดี๋ยวนี้ กลัวคนมองไม่ดีไหม คือ หนูห้ามความคิดใครไม่ได้ แล้วแต่คนจะคิดดีกว่า จะให้หนูไปบอกว่านี่ไม่ใช่ๆ ทุกอย่างมันไม่ได้ หนูจะไปห้ามให้คนเกลียดคนชอบคงไม่ได้ ก็ขอให้ใช้วิจารณญานนิดนึงแต่ก็เคยไปทานข้าวแถวๆ คอนโดพี่พีเคแต่ไม่เคยขึ้นค่ะ”
จากนั้นก็แจงให้ฟังต่อว่าได้พบหน้าครอบครัวฝ่ายชายเรียบร้อยแล้ว
“ก็มีเมื่อวันอาทิตย์ไปทานข้าว ท่านก็ไม่ได้พูดอะไร ไม่ได้ว่าอะไร ไม่ได้พูดอะไรด้วย หนูก็ไม่กล้าพูด พี่พีเคพาหลานไปด้วยไปกับครอบครัวเขา ครอบครัวเขาน่ารักค่ะ แต่ไม่ได้คุยอะไรพิเศษกับคุณแม่ เขาก็ไม่ได้บอกหนูก่อน บอกแค่ว่าจะพาไปทานข้าว ถ้าในความคิดหนูนะ ถ้าเป็นคุณพ่อคุณแม่หนูแล้วหนูมีข่าวแบบนี้หนูมีข่าวกับผู้ชายนะ แต่ท่านไม่เคยเจอ ถ้าเป็นหนูก็คงพาไปเจอ”
“แต่ถามว่าไปเจอในที่นี้ฐานะอะไร ก็คือ ตอบเหมือนเดิมว่ายังคุยๆ กันอยู่ แล้วก็ยังดูกันเหมือนเดิมไม่ได้เป็นแฟนกัน คือคุณพ่อคุณแม่หนูท่านเลี้ยงหนูให้มีความคิดเป็นของตัวเอง มีอะไรก็ให้ปรึกษาได้ แล้วท่านก็รู้ว่าจูนเป็นคนยังไง เขาก็ไม่ได้ถาม แต่จูนก็พูดให้ฟังว่าความจริงเป็นอย่างนี้นะ”
ส่วนบ้านของพิธีกรหนุ่มซึ่งสร้างในที่ดินติดกับอดีตแฟน “กาละแมร์ พัชรศรี เบญจมาศ” บอกไม่ใช่เรือนหอ
“ยังอีกไกลมากเลยค่ะ บ้านพี่เขาก็เป็นของเขา ของหนูนี่ยังอีกไกลเลยค่ะ อย่าเพิ่งเอามาเกี่ยวเลยค่ะ ถามว่าเขาชวนไปเลือกของแต่งบ้านไหม เขาไม่ได้ชวนไปเลือกค่ะ ส่วนมากเท่าที่หนูรู้คือเพื่อนพี่พีเคเขาทำงานหมดเลย แล้วก็ไม่ค่อยมีเวลาถ้าหนูว่างหนูชอบเดินชอปปิ้ง เขาก็จะถามแค่นี้ว่าอย่างนี้ดีไหมเคยเห็นแต่ในรูป ยังไม่เคยดูที่บ้าน เขาก็ภูมิใจในบ้านหลังนี้มาก ด้วยน้ำพักน้ำแรงทำงานมาทุกอย่างก็เพื่อบ้านหลังนี้มาก”
ถามต่อกรณีมีคนแซวว่านางแบบสาวหน้าคล้าย “กาละแมร์” ส่วนเรื่องที่ฝ่ายชายบอกพิธีกรฝีปากกล้าคือคนที่อยากแต่งงานด้วย เจ้าตัวเข้าใจเรื่องในอดีตของคนสองคนซึ่งจบไปแล้ว......"หนูเหรอ หน้าเหมือนนี่หนูไม่ทราบ แต่ถ้าให้หนูเก่งเท่าเขาหนูยินดีค่ะ”
“หนูคิดว่าช่วงคนสองคนคบกันมันก็ต้องมีอะไรดีๆ ด้วยกัน แล้วก็มีช่วงเวลาดีๆ ด้วยกัน มันไม่แปลกที่เขาจะคิดแบบนั้น แต่วันนี้มันไม่ใช่แบบนั้น แล้วอีกอย่างหนึ่งคือหนูคิดว่าทุกๆ คู่คงมีความรู้สึกแบบนั้นตอนที่เราคบกับใครสักคน อยากจะแต่งงานกับใครสักคน แต่ว่าตอนนั้นมันจบไปแล้ว เราก็คอนทินิวใหม่ เริ่มต้นชีวิตใหม่ เอ..หรือคบเล่นๆ ด้วย ยังไงนะคะ แต่ตอนนี้เขาไม่ได้แต่งแล้วนี่ค่ะ หนูไม่เสียใจ เรื่องบางเรื่องมันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา หนูไม่ค่อยได้ไปถามหรือไปรู้อะไรมากมาย”
ต่อข้อถามถึงเหตุผลที่ไม่ยอมรับว่าเป็นแฟนนั้นเพราะอยากดึงกระแสหวังโกยทรัพย์จากงานอีเวนต์ด้วยหรือไม่ เจ้าตัวโร่ปฏิเสธ
“จะบอกว่า ก่อนหน้านี้ ที่จะมาเป็นข่าวก็ทำงานอยู่แล้วนะ แต่ว่าพี่ๆ ไม่ได้ให้ความสนใจขนาดนี้ คือทำงานทุกวัน ทุกวันทำงานตลอด แล้วก็จนมาเป็นข่าวก็ยังทำงานอยู่เหมือนเดิม ไม่ได้เป็นคนดึงกระแสนะ เพราะเวลาไปไหนก็อึดอัดเหมือนกันงานไม่ได้เยอะขึ้นเลย แต่ว่าพี่ๆ จะเห็นว่า มีงานออกมาพร้อมๆ กันช่วงมีโฆษณาออกมาพร้อมกัน มันเป็นช่วงมากกว่า บางตัวถ่ายมาแล้ว 1-2 เดือน เพราะทุกวันจะมีแคสติ้งโฆษณาทุกวัน งานจะออกมาเรื่อยๆ อยู่แล้ว”
บอกไม่ได้ปากแข็งสะกดคำว่าแฟนไม่เป็น ลั่นหากมั่นใจเมื่อไรพาจูงมือไปพบหน้าครอบครัว
“หนูไม่ปากแข็งนะ แต่ว่าเวลาหนูจะคบใคร ถ้าเกิดหนูคบ โอเคหนูคบ แต่ถ้าเป็นแฟนหนูต้องพาไปเจอคุณพ่อคุณแม่ คือ ที่บ้านต้องรับรู้ทุกอย่าง มันอยู่ในสายตาที่บ้าน ถ้าเกิดหนูไม่มั่นใจหนูยังดีกว่า เพราะว่าที่บ้านหนูเป็นห่วงอยู่แล้วที่หนูทำงาน วันไหนที่มั่นใจแล้วโอเค จะพาไปถ้าเขาเป็นไปอย่างที่เราวางไว้นะ เป็นอย่างที่เราคิด ทุกอย่างต้องลงตัวเข้ากันได้ ถามว่ายังมีอะไรที่ยังไม่โดน หนูยังไม่รู้เลยว่ขาดอะไรบ้าง เพราะว่า ยังไม่ได้แบบว่า.... โหคบกันแบบว่ารู้รายละเอียดเขาหมดเลย เวลาเราคุยกับใครทุกวัน มันจะเห็นขึ้นมาเรื่อยๆ ทุกวันว่าเขาเป็นคนยังไง เราเป็นคนยังไง บางครั้งวันหนึ่งหนูอาจจะไม่ใช่ก็ได้”
“สถานะตอนนี้ประมาณว่าคบกัน แต่หมายความว่า ถ้าอีกข้างหน้าหนูบอกว่า พี่พีเคกับหนูเป็นแฟนกันหนูบอกว่าตกลงโอเคเป็นแฟนกัน สรุปอีกวันหนึ่งหนูเลิกกันขึ้นมา หนูเลยคิดว่า มันยังไม่มีอะไรแน่นอนเลย วันแต่ละวันทุกอย่างมันเปลี่ยนได้ตลอดเวลาเลยน่ะ เพราะว่าหนูเองยังอยากทำงานอยู่ แล้วเขาเองก็ยังอยากทำงานอยู่ เพราะฉะนั้นที่วันนี้แบบว่า ดูกัน คบกัน คุยกัน ก็คือให้กำลังใจกัน มีอะไรดีๆ ต่อกัน ทำดีๆ ให้กันไปก่อน”
สอบถามจากผู้จัดการส่วนตัวเผยมีงานติดต่อแพ็กคู่เข้ามามากมายแต่ยังไม่รับ ซึ่งเจ้าตัวกลับบอกไม่รู้เรื่องแต่ยินดีรับงานคู่หากฝ่ายชายเอ่ยปากตกลง
“ไม่มีนะ บอกว่า พี่ตั้วบอกมา ก็คือ งานเนี่ยจะผ่านพี่ตั้ว แต่ตอนนี้มีพี่บีอีกคนมาดูแล กว่าจะถึงตรงนี้ยังไม่ทราบเลยค่ะว่ามี พี่เขาจะดูว่าอันไหนทำได้ อันไหนจูนเหมาะสม เขาจะส่งมาให้ค่ะ ถ้าบางอย่างอยากทำก็จะขอ ถ้าเป็นอย่างวันนี้ชอบเดินแบบ หนูจะบอกเลยว่า ไปแฟชั่นโชว์นะ แบบว่าวันนี้อยากเดินไม่เป็นไร ไม่ให้เงินก็เดินแต่ถ้ามีงานโชว์ตัวติดต่อมาหนูยืนไม่นิ่งเลย ไม่ค่อยถนัดค่ะ แต่ถ้าพี่พีเคเป็นพิธีกรแล้วไปเดินแฟชั่นโชว์อย่างนั้นเขาก็ทำงานของเขา หนูทำงานของหนูได้ ถ้าได้ร่วมงานก็ดีค่ะแต่ถ้าสำหรับเป็นงานอย่างนี้ (โชว์ตัว) หนูไม่มีปัญหาค่ะ”
“ถามว่า กลัวคนจะมองไหมว่าทำงานเป็นแพ็คคู่ทุกคนก็มองอย่างนั้นอยู่แล้ว ทุกวันนี้หนูก็โดนไปแล้วค่ะ แต่ถ้าทำอย่างนั้นพี่พีเคคงไม่รับทำกับหนูมั้ง เพราะว่าทางสายงานของเขา เขาก็ไม่มีมาโชว์ตัวกับหนูอยู่แล้วเพราะหนูก็ไม่ได้ดังขนาดนั้น”
“หนูไม่ได้ไม่อยากเปิดตัวนะคะ แต่คือหนูยังดูกันอยู่เลย ยังไม่ได้ตกลงว่าคนนี้เป็นแฟนนะ ถ้าเกิดเป็นแฟนคือไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดเวลา เออ ใช่ คือ ทุกวันนี้หนูไปไหนไปทานข้าวกับพี่พีเค ยังมีไปชอปปิ้งกันบ้างแต่ว่าในส่วนตรงนี้ทั้งเขา ทั้งหนูยังสามารถดูคนอื่นได้อยู่ ถูกไหมค่ะ เพราะว่าเรายังไม่ได้แบบว่าโอเค ตกลงว่าเราเป็นแฟนกันนะ เราต้องอยู่กับคนนี้นะ เขาก็ยังมีอิสระในการที่เขาจะทำอะไร แล้วหนูก็ยังทำอะไรได้เรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยวกันอยู่แล้ว”
บอกกำลังดูใจหนุ่ม “พีเค” คนเดียว...“ยังดูทีละคนเหมือนกัน ถ้าวันนี้หนูบอกว่าเป็นแฟนกันแล้วอนาคตข้างหน้ามันไม่แน่นอน ถ้าวันข้างหน้าหนูไม่ได้คบกันก็เป็นเรื่องอีก”
ปัดอยู่ในช่วงโปรโมชัน เข้าสุภาษิตชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้...“ไม่ไม้เลย ไม่เห็นไม้เลย ไม่มีค่ะ เพราะเขาเป็นผู้ใหญ่ แล้วมองหนูเป็นเด็กตัวน้อย ยังสอนทุกวัน ส่วนมากเขาจะสอนมากกว่า สอนว่า ทำงานเป็นยังไง ไม่มีแบบชี้นกเป็นนก”
