“แม่ตั๊ก” ระเบิดความในใจ หลังพ้นอกสหมงคล แฉไม่เคยได้เงินค่าเซ็นสัญญา 10 ล้านเหมือนที่เป็นข่าว บ่นอึดอัดรับงานอื่นไม่ได้ ถามกลับแล้วลูกจะเอาอะไรกิน ลั่นที่ผ่านมาเป็นฝ่ายไม่ต่อสัญญากับสหมงคล ไม่ใช่สหมงคลไม่เอาตั๊ก ส่วนเรื่องกิ๊กกับ “จา พนม” บอกเป็นไปไม่ได้ ได้ เพราะฝ่ายชายมีความคิดแบบดารารุ่นเก่า ซ้ำยังเป็นคนบ้านนอกไม่กล้าจีบตั๊ก
ออกมาให้สัมภาษณ์ทีไรมันหยดติ๋งทุกครั้งเลยทีเดียวสำหรับ "ธนาภา ชีพนุรัตน์” แม่ของดาราสาว “ตั๊ก บงกช คงมาลัย” ที่ผ่านมานอกจากแม่จะเปิดปากจวกผู้ชายที่เป็นข่าวกับลูกสาวแบบตรงไปตรงมาชนิดคนฟังอึ้งกิมกี่แล้ว ล่าสุดตั๊กตกเป็นข่าวว่ากำลังกิ๊กอยู่กับ “จา พนม ยีรัมย์” งานนี้แม่ก็เลยออกมาฟันธงแทนว่าไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะฝ่ายชายมีความคิดแบบดารารุ่นเก่า ซ้ำยังเป็นคนบ้านนอกไม่กล้าจีบตั๊ก เนื่องจากตั๊กมีคนมาชอบเยอะ
เท่านั้นไม่พอคุณแม่ยังแฉแหลกหลังพ้นชายคาสหมงคลฟิล์มว่า ที่ผ่านมาไม่ได้เงินค่าเซ็นสัญญา 10 ล้านเหมือนที่เป็นข่าว บ่นอึดอัดรับงานอื่นไม่ได้ ถามกลับแล้วจะเอาอะไรแดก ลั่นที่ผ่านมาเป็นฝ่ายไม่ต่อสัญญากับสหมงคล ไม่ใช่สหมงคลไม่เอาตั๊ก
“ตั๊กกับจาเขาไม่เคยคบกันเลย ไม่เคยไปไหนด้วยกัน เพียงแต่โทรศัพท์ปรึกษากันเรื่องงาน การคบกันแม่ไม่เคยห้ามเพราะเขาไม่ได้คบกันแบบแฟน ไม่ใช่เรื่องนั้นเด็ดขาด อีกอย่างเขาก็ไม่เคยมาหาเลย แค่โทรศัพท์ว่าเนี่ยพี่จะมีหนังอีกเรื่องหนึ่งก็อยากให้ตั๊กมาร่วมเล่นด้วย หรือว่าตอนนี้ข้างนอกเป็นไงมั่งเพราะเขาไม่ค่อยได้ออกมา ก็จะคุยกันแบบนี้แหละ”
“เขาคบกันในฐานะเพื่อนร่วมงาน เพราะจาก็เป็นคนดี และที่ตั๊กบอกว่า อยากได้คนแบบนี้มาเป็นแฟน ก็คือการอยากได้แบบนี้ ไม่ใช่อยากได้พี่จา อยากได้แบบนี้มาเป็นแฟนเพราะจาเป็นคนธรรมะธัมโม และอีกอย่างจาเป็นคนที่แบบว่าพูดอะไรมีหลักการ พี่ผ่านมาเยอะแล้วพี่เจออะไรมามากแล้ว พี่ก็อยากจะบอกตั๊ก เขาแลกความคิดกัน”
“ถามว่าเป็นคนธรรมะธัมโมแล้วถูกใจไหม บอกตรงๆ ว่าแม่ไม่เคยถูกใจใคร ตอนนี้นะแต่ต่อไปแม่ไม่รู้ จาเขาก็เป็นคนดีแต่เป็นแฟนตั๊กมันเป็นไปไม่ได้ แม่รู้นิสัยตั๊ก ถ้าตั๊กไม่ชอบก็คือไม่ชอบ ถ้าแม่ห้ามยังไงแต่ตั๊กชอบมันก็ไม่สำเร็จหรอก ที่ผ่านมาแม่ไม่เคยชอบใครซักคน แม่ห้ามมันได้ไหมล่ะ”
“จาเขาไม่ได้มีท่าทีมาจีบตั๊กนะ เขาคุยกันน้อยมาก เขาไม่มีทางมาจีบตั๊กเพราะอะไรรู้เปล่า เพราะว่าเขาไม่อยากจะเอาชื่อเขามายุ่งกับพวกดารา เขาเหมือนดาราสมัยก่อน ไม่โชว์ตัว ไม่ไปรายการ ไม่ไปโน่นไม่ไปนี่ เขาต้องอยู่ของเขาอะไรอย่างนี้”
“เวลาเขาไปสร้างสรรค์อะไรเขาจะมีห้องส่วนตัว ไปคาราโอเกะก็ไม่ไปสังสรรค์กับใคร เวลาปิดกล้องเขาจะอยู่คนเดียว แล้วมันเป็นไปได้ไหมว่าเขาจะมาจีบตั๊กมันไม่มีทาง แล้วเขาเป็นคนบ้านนอกขนาดนั้น เขาจะมาจีบอะไร เขารู้ว่าตั๊กมีคนมาจีบเยอะแยะ จริงเปล่า...ไม่เอาหรอก มีคนมาจีบน้องเยอะมีทั้งนอกวงการทั้งนักธุรกิจ ตำรวจ ทหารก็มีทั้งนั้นเยอะแยะ”
“คนมาจีบเยอะแต่เขายังไม่เลือกใคร เพราะเขายังเจ็บ ไม่ได้เจ็บกับคนฝรั่งเศสแต่เจ็บเพราะคนแก่ ขนาดคนแก่ยังแคนเซิ่ลแล้วคนหนุ่มจะมาชอบมันเหรอ แต่แม่เป็นคนที่แบบว่า ไอ้ตั๊กชีวิตแกจะมานั่งจมอยู่กับคนมีอายุขนาดนั้น ต่อไปแกจะต้องมานั่งเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวให้มันเหรอวะ”
“เขาค่อนข้างเฮิร์ตกับคนนี้มากเพราะพูดไม่เป็นคำพูด ที่บอกว่าตั๊กโกรธไปขอเงินคนๆ นี้ไม่ได้ อันนี้ไม่จริง จะบอกให้ว่า ตั๊กนะขนาดมีเบอร์แปลกๆ โทรมายังกดทิ้งเลย แล้วผู้ชายคนนี้ไม่มีทางให้เงินใครง่ายๆ ตอนแรกตกลงกันทำหนัง 20 ล้าน ได้เปอร์เซ็นต์เท่าไหร่คุณเอาไป เงินตรงนี้เป็นการยืม ถ้าได้เท่าทุน 20 ล้านคุณก็เอาคืนไป ถ้าขาดทุน 20 ล้านต้องหาตรงนี้มาให้ ตั๊กก็ยอมเพราะตั๊กหวังจะต้องได้ แต่ไปๆ มาไม่ได้อย่างที่คิด”
“แหม...จะไปขอเหรอ คนอย่างไอ้ตั๊กจำไว้เลย แม้แต่แม่มันยังไม่ขอเลย แล้วมันจะไปขอคนอื่นเหรอ นี่ขนาดมันโดนตัดโทรศัพท์หมื่นหกมันจะเอาที่เราก็ได้ มันก็ยังไม่เอา มันบอกเดี๋ยวตั๊กไปทำงานได้เงินมาแล้วจะไปเสียเอง ใจมันเรื่องเงินนี่....มันไม่เอาของใคร ไปถามคนที่ตั๊กเคยคบๆ สิ ตั๊กเคยได้จากใครบ้าง ตั๊กไม่เอาเงินใคร”
“แม่เคยสอนไว้ว่า การเอาจมูกคนอื่นมาหายใจ เวลาเลิกกันเขาต้องพูดเลยคนนี้ให้เงินมึง ถ้าเราใช้เงินเราก็ยังเอาไปพูดได้อย่างภูมิใจว่า ตั๊กไม่เคยเอาเงินผม ขนาดไปกินกับใครที่ผ่านๆ มามันยังต้องแชร์เลย แม่บอกไอ้ตั๊กเป็นผู้หญิงจะไปแชร์ทำไม มึงบ้าเปล่า”
“ตั๊กบอกแม่หนูไม่อยากกินของใคร เมื่อวานยืมเงินแม่ไป 3 พันถามใช้หมดแล้วเหรอ ตั๊กบอกอ้าว...หนูไปกินกับเดย์(เดย์ ไทเทเนี่ยม) แชร์ไป 3 พัน โอ้โห....ไปกินกับไอ้เดย์นี่นะมึงแชร์ มึงบ้าเหรอเปล่า กูเป็นผู้หญิงแก่ๆ ใครให้เลี้ยงกูยังไม่ยอมแชร์เลย แต่ตั๊กก็บอกว่า ใครจะได้ไม่ว่าตั๊กได้”
“ไอ้เรื่องแชร์ออกนี่โคตรสงสารตั๊กเลย มันไม่รู้หรอกว่าผู้ชายควรที่จะออก ตั๊กจะแบบไม่ๆ ไม่เป็นไร ไม่เอาๆ แชร์กันดีกว่าสบายใจ แม่อึ้ง...อึ้งทุกอย่าง บางคนแม่ต้องไปทวงเงินเลยนะเพราะมายืมเงินตั๊กแล้วไม่คืน เป็นดารานี่แหละ ตั๊กบอกยืมไปไม่กล้าทวง มึงบ้าเปล่าไม่กล้าทวง แม่ทวงเอง ได้คืนด้วยนะถ้าไม่คืนแม่กะประกาศเลย ถ้าไม่คืนซวย”
“มีเพื่อนคนหนึ่งมาจากเยอรมันไปกินเลี้ยงแล้วไปนอนด้วยกันกับเพื่อน ปรากฏว่าเพื่อนหยิบเงินในกระเป๋า ตั๊กก็มาเล่าให้แม่ฟังว่า แม่มันหยิบเงินหนู แม่ถามทำไมไม่โวยวาย หนูกลัวมันอายหนู บ้าเปล่า แม่เลยด่าแทนลูกเลย มึงไม่ต้องมาคบลูกกูนะถ้าทำตัวแบบนี้ เพื่อนมันหนีเลย”
“แม่สงสารตั๊กเรื่องนี้มากชอบมาเอาเปรียบ เพื่อนนอกวงการเห็นว่าเป็นดารามีตังค์ ออกสิออกตั๊กก็ออกให้หมด ตั๊กเป็นแบบนี้แหละ ขนาดคนที่ไม่ใช่เพื่อนแต่เป็นคนในวงการที่มาจีบๆ ก็ยังมายืมเงิน แม่ไปทวงเลย 3-4 ราย คือตั๊กจะหลงคนพูดดี พอเลิกกันปุ๊บค่อยมาบอกแม่ แม่ก็จะปรี่ไปทวงเลย 2-3 ราย ก็ไม่เข้าใจทำไมต้อง 2-3 รายก็ไม่รู้ พอทวงเขาก็ให้หมดนะ แล้วแม่ขู่ด้วยนะ ถ้าไม่ให้พรุ่งนี้นะ คุณก็ดูหนังสือพิมพ์ก็แล้วกัน เพราะนักข่าวซี้กับฉันหมด ไม่ถึงพรุ่งนี้พออีกสองชั่วโมงก็โอนมาแล้ว”(หัวเราะ)
“เพราะฉะนั้นจำไว้อย่างตั๊กไม่เอาเงินใคร คำว่าไปขอเป็นไปไม่ได้ แม่กล้าสาบานเลยว่าลูกแม่ไม่เป็นแบบนั้นแน่ แต่อาจจะมียืมเพื่อนนักแสดงที่อยู่ด้วยกันบ้างว่า เราไม่มีตังค์นะขอยืม 500 ซื้อขนม 1000 ซื้อขนม เพราะแม่จะยึดบัตรเอทีเอ็มไว้ เพราะเพื่อนมันเอาไปไม่รู้เท่าไหร่ เมื่อก่อนมันให้เพื่อนมันไปกดหายหมดเลย แม่ก็เลยยึดบัตรไว้หมดเลย ตั๊กก็ยอมให้ยึดนะเพราะมันหมดมาแล้วนี่”
“เมื่อก่อนจะแบบ ใครเอามันไม่รู้ อุ้ย...ทำไมเงินหนูเหลือแค่นี้ร้องไห้ ถ้าคบตั๊กจะรู้เลยว่าเด็กคนนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่นักข่าวคิด”
ส่วนเรื่องที่ “เสี่ยเจียง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ” ประกาศไม่ต่อสัญญากับ “ตั๊ก” นั้น คุณแม่บอกว่า จริงๆ แล้วตั๊กต่างหากที่ไม่เซ็นสัญญากับสหมงคล
“เชื่อแม่อย่างหนึ่ง ไม่ว่าตั๊กจะถูกแค่ไหนก็ถูกมองว่าผิด ตั๊กเขาไม่เซ็นอยู่แล้ว แม่เคยพูดกับนักข่าวครั้งหนึ่งว่า ยังไงแม่กับตั๊กก็ไม่เซ็นต์ อยู่แบบนี้สบายจะตายทุกบริษัทมาติดต่อ กับอยู่บริษัทเดียวอันไหนมันดีกว่ากัน ปีหนึ่งมีหนังสองเรื่อง แต่ถ้าเราอยู่อย่างนี้ปีหนึ่งมีกี่เรื่อง ต้องมองแม่และมองน้องอย่ามองเขาอย่างเดียว”
“ถามหน่อยว่าของเขามีคุณภาพไหม มีดาราคนไหนที่ดังบ้าง ทุกวันนี้เขาก็ยังเอาตั๊กไปออกนะ ตั๊กไปช่วยตรงนี้หน่อยมีอยู่ตลอด ข่าวว่าทางนั้นเคืองที่ตั๊กจะสร้างหนังกับคนอื่น อันนั้นก็เรื่องของเขา ตอนนี้ตั๊กมันโตจนไม่อยากอาศัยบารมีของใครแล้ว โตด้วยตัวของเขาเองแล้วอยากทำเอง ลองคิดดูสิว่า ถ้าเรามีความสามารถกับมีเส้นอันไหนมันภูมิใจกว่ากัน”
“คนอย่างตั๊กอยู่ที่ไหนก็ได้ เรื่องความสามารถการแสดง เขาไม่ใช่ว่าขี้เหร่ ตอนนี้มีบริษัทมายืนเยอะแยะเลย แต่แม่ไม่เอา คุณก็มาเอาตั๊กไปเล่นหนัง อีกคนก็มาเอาตั๊กไปเล่นหนังได้ ถ้าตั๊กอยู่กับอีกคนคนนี้ก็ไม่กล้า คนนั้นก็ไม่กล้า แต่ถ้าตั๊กยืนพื้นแบบนี้ทุกคนก็สามารถเดินเข้ามาได้”
“คือมันเข็ดมากๆ บางอย่างเราก็อึดอัด ใครให้ไปโปรโมทโฆษณาอะไรก็ยกเลิกหมดเลย แล้วลูกเราจะเอาอะไรแดก จะกินอะไรล่ะ ถ่ายอะไรก็แล้วแต่จะโดนด่า เขาไม่ได้มีรายเดือนให้”
เผยเซ็นสัญญาไม่ได้เงิน 10 ล้านเหมือนที่เคยเป็นข่าว
“ตอนเซ็นสัญญาไม่ได้เงิน 10 ล้านเหมือนทีเป็นข่าว ได้แค่ 1 ล้านค่าเซ็นสัญญาแต่ก็ยังมาหัก ถามว่าหักอะไร ก็ไอ้ที่มึงเอามาก่อนหน้านี้ ถ้าเซ็นแล้วได้เงินก้อน 10 ล้านจริงก็คงไม่มานั่งก้มหน้าก้มตาทำน้ำพริกหรอก จะขายทำไมต้องมานั่งสับปลาร้าทั้งวัน แต่เดี๋ยวนี้ก็ดีมีโรงงานเขาติดต่อมาตั้ง 30 ประเทศ ตั๊กมันก็บอกว่า แม่สงสัยจะรวยเพราะแม่แล้ว ตั๊กไม่ได้รวยเพราะการเล่นหนังหรอก”
“ถ้าได้เงินเยอะนะป่านนี้แม่ทำเรือนไทยไปแล้ว เพราะแม่อยากได้เรือนไทยราคาล้านหก จริงๆ แล้วระดับไอ้ตั๊กเงินล้านหกควรมีปัญญาซื้อไหมล่ะ แต่นี่ไม่มีซื้อบีเอ็มยังเงินแม่ขายน้ำพริกเลย แม่จะเก็บเงินตรงนี้ไว้ ตั๊กไปโชว์ตัวก็เอามาใช้ แต่เงินน้ำพริกแม่ไม่เคยเอาออกมาเลย เอาออกมาอีกทีออกบีเอ็มให้มันเลยนะ คือสงสารมัน”
“ที่ผ่านมามันไม่เหลือเพราะจ่ายค่าบ้านค่ารถ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเด็กที่บ้านอีก 3 คนเพราะแม่ต้องทำน้ำพริก ค่าตั๊กแต่งตัวอีกจะไม่ให้มันแต่งตัวเลยเหรอเป็นดารา เดือนหนึ่งนะจะต้องจ่ายแสนกว่าแน่นอน คือเราอาจจะมีเงินหลายล้านก็จริงแต่มันเป็นข้าวของ แต่เงินเรามีพอใช้”
“อยู่มา 8 ปีในวงการเราไม่ได้ใช้เงินฟุ่มเฟือย เพราะเราเคยไม่มีเงินมาก่อนแล้วเราจะมาใช้แบบฟุ่มเฟือยเหรอ ถามว่าจะได้อลังการเหรอมันไม่ใช่ เขาไม่ให้โชว์ตัว แล้วก็ไม่ให้โฆษณาในทีวีไม่มีเลย ทั้งที่มีติดต่อเข้ามาเยอะมาก ติดต่อเข้ามาทุกอย่างเลย ถามว่าที่ผ่านมาเราอยู่ยังไง อยู่ได้เพราะเราไม่ได้เวอร์ไง แต่ถามว่าจ่ายไหมมันก็จ่ายเพราะของทุกอย่างมันผ่อนหมด ทุกวันนี้ก็ยังต้องผ่อนโน่นผ่อนนี่อยู่”
