"ต๋อย" คุยรายการคลับ 7 เรตติ้งกระเตื้องเรื่อยๆ บอกแทรกช่วงลูกทุ่งเพราะอยากให้คนนอนฝันดี โต้กระแสวิจารณ์ทำรายการสู้ "ตีสิบ" ไม่ได้ เปรียบม้าคนละสนามแข่งกันไม่ได้ ก่อนเผยไม่สามารถทำรายการให้ฮิตแบบ "ทไวไลท์โชว์" ได้อีก เนื่องจากการบริโภคข่าวสารของคนไทยเปลี่ยนไปชอบเนื้อหาแรงและเร็ว
ออกอากาศมาได้ระยะหนึ่งแล้วสำหรับรายการของ "ต๋อย ไตรภพ ลิมปพัทธ์" ย้ายข้ามวิกมาอยู่ช่อง 7 ได้ช่วงเวลาคืนวันอังคารปะทะ "ตีสิบ" ช่อง 3 แต่ดูเหมือนความนิยมในรายการจะยังไม่ฟู่ฟ่าสมราคาคุยที่หลายคนตั้งตารอ จนต้องเพิ่มส่วนรายการลูกทุ่งเข้าไป อีก เหมือนรายการ "ทไวไลท์โชว์" สมัยก่อน ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่ารายการน่าจะมีเรตติ้งดีขึ้น ยอมรับที่ผ่านมารายการเรตติ้งดี พออยู่ได้เพราะไม่เคยเทียบกับใครโดยเฉพาะรายการตีสิบที่โดนจับตามอง บอกม้าคนละสนามเปรียบเทียบกันไม่ได้
"ไตรภพ ลิมปพัทธ์" พิธีกรชื่อดัง และกรรมการผู้จัดการ บริษัท บอร์น แอนด์ แอสโซซิเอท จำกัด เปิดเผยกลางสตูดิโอกันตนาหลังมีการปรับปรุงรายการใหม่ว่าตอนนี้ตนอยากเพิ่มส่วนลูกทุ่งเข้าไป บอกแฟนรายการจะได้ฟังเพลงลูกทุ่งก่อนเข้านอน คุยเรตติ้งรายการยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
"รายการคลับ 7 ของเราได้เพิ่มช่วงมา 1 ช่วงเป็นช่วงเพลงลูกทุ่งเพื่อให้ทุกคนที่ได้รับชมรายการได้ฟังเพลงที่ท่านชื่นชอบก่อนเข้านอน และการที่เราจะทำนั้นจะเป็นการเชิญแขกรับเชิญ นักร้องลูกทุ่งสมัยก่อนที่เป็นที่นิยมมากๆมาร่วมรายการ และเราจะทำให้ท่านได้รู้ว่าเมื่อเขาผู้นั้นไม่ได้อยู่ในวงการเพลงแล้วเขาไปประกอบอาชีพ มีอาชีพอะไรและก็จะมีภาพให้ดูด้วยว่า ตอนที่เขาพวกนั้นกำลังดังเป็นอย่างไร เพราะโดยส่วนตัวผมชอบเพลงลูกทุ่งอยู่แล้ว"
"ผมคิดว่าเรตติ้งน่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะตอนนี้จากเรตติ้งที่ 1 ตอนนี้ 3 กว่าแล้ว และแขกรับเชิญที่เชิญมาท่านจะไม่เคยเห็นอิริยาบถการตอบแบบนี้ที่ไหน และยังขอการันตีด้วยว่าคำตอบที่พวกเขามาตอบท่านจะไม่เคยได้ยินที่ไหน เพราะเขาคิดว่าเขาคุยกับคนในครอบครัว และทุกคนก็มาด้วยใจ"
พิธีกรชื่อดังโต้กระแสวิจารณ์รายการสู้ "ตีสิบ" ของ "วิทวัส สุนทรวิเนตร์" ไม่ได้ บอกม้าคนละสนามเปรียบเทียบไม่ได้อยู่แล้ว
"รายการของผมไม่ได้แข่งขันกับรายการใดๆทั้งนั้น ผมไม่ได้ตั้งใจจะแข่งกับใครหรอกนะครับ รายการทุกรายการเหมือนกันหมดแต่มันจะไม่เหมือนกันอยู่ตรงที่ใครจะนำเสนอตรงจุดไหนแค่นั้นเอง มันเป็นการเขียนข่าว มันเป็นวิธีทำให้เรื่องราวน่าสนใจ ผมคิดว่าการที่คนจะมา เปรียบเทียบกับรายการตี 10 มันเหมือนกับการแข่งม้า คือให้มีม้า 2 ตัว แล้วมีผู้ชมมาชมว่าตัวไหนจะชนะ แต่เขาลืมไปว่ามันเป็นม้าป่า ไม่ใช่ม้าแข่ง เพราะว่ามันจะวิ่งไป คนละทางอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นคงดูยากว่าใครจะชนะ เพราะเส้นชัยที่เราจะไปมันไม่ได้เป็นเส้นเดียวกันเราก็จะวิ่งเตลิดของเราไปเอง"
บอกรายการยังพออยู่ได้แม้ว่าค่าโฆษณาของช่อง 7 สูงลิ่ว ก่อนเผยไม่มีรายการในตำนานอีกต่อไป เนื่องจากคนไทยบริโภครายการฉาบฉวยมากกว่าแต่ก่อน เน้นเร็วและแรงเป็นหลัก
"ตอนนี้บอกได้เลยว่าอยู่ได้ แต่ไมได้ถึงขนาดว่าดีเลิศประเสริฐ ศรีอะไรใช้คำว่าอยู่ได้ครับ เพราะค่าโฆษณา ของทางช่อง 7 ค่าโฆษณาก็เป็นล้านอยู่แล้ว"
"ส่วนรายการในตำนานมันเป็นไปได้ยากครับ เพราะคนไทยในทุกวันนี้ ฉาบฉวยมาก ชอบอะไรที่เร็ว แรง และต้องการอะไรที่ผ่านไปเท่านั้น ไม่ได้ต้องการตำนาน ไม่ได้ต้องการการอ้างอิง ไม่อยากจะ เชื่อถืออะไรทั้งสิ้น อยากจะทำอะไรแต่ที่สนุกสนาน หรือว่าอะไรก็แล้วแต่ที่ผ่านไปวันๆ ฉะนั้นการที่จะทำรายการสักรายการให้เป็นตำนานเป็นเรื่องที่ยากมาก แล้วรายการที่จะเป็นตำนานได้ต้องได้รับการยอมจากสัง มันเป็นเรื่องยากที่จะทำ อย่างทไวไลท์โชว์ อยู่มา 15 ปี เพราะฉะนั้นผมคิดว่ารายการนั้นมันพอที่จะอยู่ในใจหรือไม่ และมันต้องขึ้นอยู่กับเวลาครับ