เหลืออด "นุก" เผยเตรียมฟ้องหย่า "ป้อ" ปลายเดือนนี้ บอกแค่ขอค่าเลี้ยงดูลูกยันสินสมรสไม่มี ลั่นเคยเจอนอนกับผู้หญิงคาตาเรื่องนอกใจไม่ใช่เหตุเลิกรา โพล่งไม่อยากเผยความจริงหวั่นคนไทยแอนตี้ผัว ฟุ้งไม่โกรธอีกฝ่ายตามก้นถือกระเป๋านางแบบแต่รับน้อยใจอดีตสามีเดินตัวปลิวส่วนตนปากคาบตะกร้านมสองมือจูงลูก
ตั้งแต่ประกาศแยกเตียงกับสามีหนุ่ม "ป้อ บุญสิทธิ์ ธรรมโรจน์พินิจ" ลูกชาย "ปอ ประตูน้ำ" พร้อมทั้งน้ำตาต่อหน้าสาธารณชนไม่นานดูเหมือนคุณแม่ลูกสอง "นุก สุทธิดา" จะสลัดคราบแม่บ้านได้อย่างหมดจดและหันกลับเข้าสู่วงการบันเทิงได้อย่างเต็มภาคภูมิอีกครั้งด้วยรูปลักษณ์ที่สวยเปรี้ยวมีทั้งงานโชว์ตัว งานเพลงล่าสุดกำลังมีผลงานภาพยนตร์ที่เพิ่งเปิดกล้องเมื่อเร็วๆ นี้อีกด้วย
งานนี้พอเจอตัวนักแสดงหน้าเด็ก สอบถามความคืบหน้าถึงเรื่องสถานภาพซึ่งเจ้าตัวเคยเกริ่นไว้ก่อนหน้านี้ว่ากำลังเดินเรื่องขอเซ็นใบหย่าจากสามีหนุ่มแต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ เสียที ซึ่งล่าสุดเจ้าตัวบอกหากอีกฝ่ายไม่ยอมจับปากกาเซ็นให้แต่โดยดีเตรียมดำเนินการฟ้องหย่าทันที
"กำลังเตรียมตัวว่าปลายเดือนนี้ว่าไปถึงไหน ตอนนี้ไม่คุยแล้วคุณแม่บอกไม่จำเป็นต้องคุยใดๆ ทั้งนั้น ต้นเดือนหน้าน่าจะรู้ผลว่าผลยังไงต่อไป นุกอยากให้คุยกันดีๆ ได้แต่ถ้าไม่ได้ก็คือไม่ได้ตอนนี้ทำใจแล้ว ที่ผ่านมาเราก็พยายามแล้วแต่ว่าไม่รู้เหตุผลเขาคืออะไร บางทีโทรไปก็จะอยู่ห้องแต่ไม่อยากอะไรมันหมายความว่ายังไง"
"ถ้าคุยกันไม่ได้ก็คงต้องฟ้องหย่า เรียกค่าเลี้ยงดูลูกก็เรียกตามจริงค่ะแต่ไม่มีค่าสินสมรสค่ะ เพราะไม่มีทรัพย์สินทำร่วมกันระหว่างสมรสค่ะถ้าจะมีก็คือก่อน เราอยากจะหย่าตั้งแต่ออกจากบ้านแล้วค่ะ ถามว่ามั่นใจเขามีคนอื่นไหม เขาก็มีคนอื่นมาตลอด ก็เคยเจอนอนอยู่ในห้องด้วยกัน ก็พยายามให้ดีที่สุดแต่ทั้งนี้ไม่ได้ขึ้นอยูที่เราคนเดียว ขึ้นอยู่ที่ตัวเขาด้วยว่าถ้าอยากจบดีก็ดีเองแต่ตามประวัติดูก็รู้ว่าจบดีหรือไม่ดี"
ต่อข้อถามถึงกรณีที่สามีหนุ่มเข้าไปมีชื่อพัวพันทะเลาะกับเจ้าของผับแห่งหนึ่งเหตุเพราะหึงหวงภรรยาหน้าเด็ก หวั่นทำให้คนมองภาพทั้งคู่จบแบบไม่แฮปปี้หรือไม่ เจ้าตัวสวนทันควันยันจบด้วยดี เผยที่ผ่านมาสามีหนุ่มมีผู้หญิงเป็นเงาตามตัวตลอด เหน็บล่าสุดเพื่อนโทรมาฟ้องเห็นคาตาถือกระเป๋าตามก้นนางแบบชื่อดังควงกันช้อปปิ้ง บ่นน้อยใจอดีตสามีเดินตัวปลิว ส่วนตนมือจูงลูกทั้งสองส่วนปากคาบตะกร้าขวดนม ย้ำสาเหตุที่เร่งขอเซ็นใบหย่าเปล่าทนพฤติกรรมเจ้าชู้ไม่ไหว
"จบปกตินะคะไม่ได้ทะเลาะ ล่าสุดเคยโทรไปที่ห้องเขาแล้วมีผู้หญิงรับสายแต่เราก็พูดดีแต่ไม่ได้รู้สึกอะไรไม่ดีเลยแต่ว่าน้องผู้หญิงคนนั้นเขาวางหูใส่ก็อยากจะฝากบอกไปทั้งคุณป้อและผู้หญิงทุกคนว่าเราไม่เกี่ยวกันนะคะ ไม่ใช่คนอย่างนั้นอยู่แล้วเป็นเรื่องที่จบไปนานแล้วสำหรับนุก จบไปก่อนที่นุกจะออกมาจากบ้านหลังนั้นด้วยซ้ำ"
"โห...ไอ้เรื่องนอกใจคงไม่ใช่ประเด็นเลิกหรอกค่ะแต่ถ้าถามว่ามีไหมเนี่ยเรียกว่าบ่อยพอๆ กับหายใจเลยค่ะ ก็ถึงบอกว่าเรื่องที่แย่กว่านั้นมันยังมี เรื่องที่ทำให้เลิกกันมันแย่กว่านั้นนะคะ ถ้านอกใจคงเด็กๆ มากไม่คุยกันแล้วเราคุยกันระดับปริญญาเอกแล้วค่ะ"
"เราจับได้ตลอดแต่ถ้าแยกกันอยู่ตอนนี้รับทราบมาตลอดว่าไปควงใครอยู่ที่ไหน ช่วยถือกระเป๋าให้ใครบ้างก็มีคนโทรมาบอก ดาราบางคนก็เดินควงกับป้อแต่สำหรับนุกเฉยๆ จริงๆ ไม่ได้รู้สึกอะไรด้วยเลยไม่ทั้งบวกทั้งลบนะคะ ไม่โกรธทั้งสองคนด้วยค่ะ คนที่เดินกับป้อต้องไปถามป้อเองค่ะ ดาราเซ็กซี่นะคะไม่รู้รุ่นอะไร (หัวเราะ) คนที่เห็นคือเพื่อนสนิทก็โทรมาบอกว่าเฮ้ยช่วยถือกระเป๋าให้กันด้วย ไม่ได้รู้สึกโกรธอะไรคะแต่แค่รู้สึกเหมือนกันว่าตอนสมัยเราเลี้ยงลูกมือซ้ายจูงลูกมือขวาก็จูงอีกคนนึง ปากก็คาบตะกร้าขวดนมไม่เห็นมีใครมาถืออะไรให้เลย ไม่โกรธแต่รู้สึกว่าดีใจส่วนนึงที่เขาเทคแคร์คนรอบข้างมากขึ้น"
ซึ่งหลังจากที่นักแสดงหน้าเด็กออกมาเปิดเผยต่อสาธารณชนว่าตนเตรียมเซ็นใบหย่ากับสามีหนุ่ม เจ้าตัวยอมรับสื่อมีส่วนช่วยได้กลับเข้ามายังวงการบันเทิงอีกครั้ง บอกไม่แคร์หากคนมองของานทำหาเงินเลี้ยงลูก
"ไม่แคร์ค่ะ คนจะมองว่าเราของานเลี้ยงลูกแคร์ลูกมากกว่าค่ะ ก็มีพ่อแม่ป้อและพ่อแม่ของเราก็ช่วยเราถ้าไม่ได้ปู่ยาตายายเราก็ตายแน่ นักข่าวก็ช่วยเรื่องงาน ถ้าไม่ได้พ่อแม่ของฝ่ายป้อคงไม่สามารถเลี้ยงได้คงตายแน่ต้องขอขอบคุณทุกคนเลยค่ะเราก็ต้องทำงานมากขึ้น เราอยากให้อะไรกับลูกเราได้ แม่จะอยู่ยังไงก็ได้แต่ลูกต้องอยู่ดีกินดีค่ะ"
ยันตั้งแต่แยกบ้านกับอีกฝ่าย ชีวิตสุขสบายมากขึ้น บอกพ่อของลูกไม่เคยส่งเสียค่าเลี้ยงดู
"(ยิ้ม) สบายขึ้นเยอะเลยทุกอย่างค่ะ เพราะว่าอยู่กับป้อมีเท่าไรก็ให้เขาแต่ตอนนี้มีเท่าไรก็ให้ลูก เราเลี้ยงลูกอย่างเดียวไม่ต้องเลี้ยงคนอื่น ตอนนี้ไม่ได้คุยกันเลยค่ะ ค่าใช้จ่ายต่อเดือนไม่ค่อยมีปัญหาแค่อยากให้ลูกเท่าไรก็ให้ได้ค่ะ น้องมีสองคน มีพี่เลี้ยงสองคน ทั้งค่าอาหารพี่เลี้ยงทั้งน้องก็เยอะอยู่ มีคนขับรถไปส่งโรงเรียนค่าทางด่วนเดือนนึงเกือบแปดพันแล้ว เช้าไปกลับ เย็นอีกหนึ่งรอบวันนึงสี่รอบ รวมค่าน้ำมันก็เยอะถึงบอกว่าขอบคุณทั้งคุณพ่อคุณแม่ของตัวเองและพ่อแม่ของฝ่ายชาย เขาไม่ได้ช่วยอะไรค่ะแต่เป็นคุณพ่อคุณแม่แต่ถ้าจะคิดว่าเป็นเขาก็ได้ค่ะ พ่อแม่นุกก็เลี้ยงหลานด้วยเวลานุกมาทำงานให้ที่อยู่ให้ที่กินให้คนขับรถแต่ว่าไม่ใช่พ่อแม่ให้แล้วเราจะมานั่งงอมืองอเท้าไม่ได้"
"เราไม่ได้ถึงขั้นเดือดร้อนเรื่องเงิน ถ้าเราอยู่คนเดียวเราไม่มีลูกก็คือสบายอยากกินก็กินไม่มีกินก็ต้องหา แต่พอมีลูกรู้สึกพันนึงก็ไม่พอ ล้านนึงก็ไม่พอ สำหรับอนาคตของลูกอยากเก็บให้ได้เยอะที่สุดความสุขไม่อยากใช้อะไรเลยอยากให้ลูกหมด"
จากนั้นผู้สื่อข่าวถามย้ำกลับไปว่า สาเหตุที่เลิกรากันจริงๆ นั้นไม่ใช่เรื่องของผู้หญิงอย่างนั้นเหรอ "นุก" รับคำอย่างไม่รีรอ เปรยไม่กล้าบอกเหตุผลที่แท้จริงหวั่นสามีไม่มีที่ให้อยู่ในประเทศไทยได้อีกต่อไป
"เปล่าค่ะไม่อยากกลับมาตั้งนานแล้วค่ะ เพราะว่าที่เขาทำมันเกินที่คนธรรมดาจะรับได้แล้วนุกก็ว่านุกก็ไม่ได้ธรรมดาแล้วรับได้เยอะแล้วแต่ก็ได้เท่านี้ละค่ะ สิ่งที่เขาทำมันเยอะไป เรื่องเจ้าชู้เป็นขั้นอนุบาลค่ะเราไม่คุยกันแล้ว ผู้ชายเจ้าชู้นุกว่าไม่แปลกหรอกค่ะเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ไม่เกี่ยวกับผู้หญิงแน่นอนขอให้ผู้หญิงทุกคนที่เข้ามาข้องเกี่ยวกับป้อในอดีตจนถึงปัจจุบันสบายใจได้ไม่ได้ทำบาปอะไร แต่สิ่งที่เขาทำเป็นขั้นปริญญาเอกมากกว่า ไม่สามารถตอบได้อย่าเลยค่ะ ถ้าบอกไปแล้วรับรองเดินในประเทศไทยไม่ได้ (ยิ้ม)"