จากไปอย่างไม่มีวันกลับสำหรับนักร้องลูกทุ่งดัง “ยอดรัก สลักใจ” เจ้าของฉายา “พระเอกลูกทุ่งตลอดกาล” หลังเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งในช่วงตี 1 ของคืนวันศุกร์ที่ 8 สิงหาคม ที่ผ่านมา
หลังการเสียชีวิตของยอดรัก ชื่อหนึ่งที่แม้ใครหลายคนจะไม่อยากเอ่ยถึง แต่ชื่อหนึ่งที่ว่าย่อมต้องผุดขึ้นมาในหัวของใครหลายคนอย่างแน่นอน ชื่อนั้นก็คือ “เป้า สายัณห์ สัญญา”
ย้อนกลับไปภายหลังจากอาการเจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็งในระยะสุดท้ายของยอดรักชนิดที่เจ้าตัวรู้ดีว่าอาจจะมีชีวิตอยู่ไม่ถึง 6 เดือน ได้ปรากฏเป็นข่าวช็อกความรู้สึกของแฟนเพลงออกมา ได้ปรากฏข่าวที่ชวนช็อกยิ่งกว่าตามออกมาชิ้นหนึ่งจากการให้สัมภาษณ์ของ เป้า สายัณห์ ผ่านหนังสือพิมพ์บันเทิง “สยามดารา” ต่อการที่ตนจะไม่ขึ้นเวทีคอนเสิร์ตเพื่อหารายได้ช่วยเหลือยอดรัก
โดยเจ้าตัวระบุถึงเหตุผลที่ไม่ยอมขึ้นเล่นคอนเสิร์ต ว่า เป็นเพราะเพื่อนนักร้องลูกทุ่งไม่ได้เป็นโรคร้ายจริง หากแต่ถูกใช้เป็นเครื่องมือแสวงหาผลประโยชน์ของกลุ่มคนบางกลุ่ม ซึ่งขณะนี้ก็เริ่มมีการแบ่งพรรคแบ่งพวกจัดงานตัดหน้ากันเองแล้ว
พร้อมกันนี้ เจ้าตัวยังระบุด้วยว่า การออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้ หาใช่เพราะความอิจฉาแต่อย่างใด หากแต่เป็นเพราะความห่วงใยชื่อเสียงของเพื่อนร่วมวงการด้วยกัน และอยากให้อีกฝ่ายออกมายืนยันว่า ป่วยจริงๆ หรือไม่ โดยตนไม่อยากจะเอาชื่อเสียงของตนเข้าไปมีเอี่ยวกับการกระทำที่เป็นเหมือนการเล่นละครเช่นนี้
นอกจากนี้ ในคำให้สัมภาษณ์ “สายัณห์” ยังบอกด้วยว่า ตนเชื่อว่าทาง “ยอดรัก” เองก็รู้ว่าความจริงเป็นอย่างไร มีใครอยู่เบื้องบ้างหลังบ้าง ก่อนจะฟันธงโดยบอกว่าในท้ายที่สุดเรื่องจะจบลงที่ว่า “ยอดรัก” ออกมาประกาศกับสังคมว่า หายแล้วจากการทานยาสมุนไพร และก็จะกลายเป็นพรีเซ็นเตอร์ขายยาสมุนไพรที่ว่าต่อไป
ผลการสัมภาษณ์ดังกล่าวทำให้หลายๆ ฝ่าย และแฟนเพลงจำนวนมากไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง ถึงขนาดประกาศไม่ขอเผาผีซึ่งกันและกัน กระทั่งนักร้องเคราแพะต้องออกมาแถลงข่าว โดยชี้แจงว่าตนไม่ได้พูดว่ายอดรักเป็นมะเร็งลวงโลกตามที่พาดหัวข่าว แต่นักข่าวเขียนไปเอง
แต่ถึงกระนั้นเจ้าตัวก็ยังไม่วายท้าทายให้อีกฝ่ายนำเอาใบตรวจจากแพทย์ออกมายืนยันว่าป่วยจริงหรือไม่?
“ก็อยากให้แอ๊วออกมาพูดว่ามันเป็นอย่างไร อยากให้เอามาพิสูจน์ เชิญนักข่าวมา ให้แพทย์มาเจาะมาว่าเลือดมาเป็นมะเร็งหรือเปล่า มีคำสั่งแพทย์ออกมาเป็นจริง ไม่อยากให้เสียวงการลูกทุ่ง...”
“สายัณห์เป็นคนมีจรรยาบรรณนะ พูดแต่ความเป็นจริง สิ่งที่ชั่วร้ายผมก็บอกกับสังคม อะไรที่ผมกล้าทำผมกล้ารับ กับคนอื่นที่จะมาพูดว่าผม แล้วมันไม่จริง ผมไม่ยอมนะ อย่ามาซี้ซั้ว”
อย่างไรก็ตาม เมื่อทางแพทย์ได้ออกมาแถลงข่าวยืนยันพร้อมหลักฐานทางเอกสารว่า ทางยอดรักป่วยเป็นมะเร็งจริง ทาง สายัณห์ สัญญา ก็เงียบไปโดยไม่ได้ออกปากรับผิดชอบในสิ่งที่ตนได้พูดไปสักนิดเดียว
มิหนำซ้ำในช่วงระยะเวลาวันสองวันที่ทางยอดรักมีอาการทรุดหนัก ก่อนจะเสียชีวิต เป้า สายัณห์ สัญญา กลับออกมาให้สัมภาษณ์ในทำนองที่ว่าตนอโหสิกรรมให้ยอดรักแล้ว ไม่ถือโกรธ แต่กลับสงสารมากกว่า แต่ที่ไม่ไปเยี่ยม เพราะหวั่นจะเกิดภาพลบกับตนเองไม่ใช่ใจดำ ซึ่งคำพูดที่ว่านี้ทำเอาคนในวงการเพลงลูกทุ่งหลายคนรับไม่ได้ต่อพฤติกรรมของอดีตนักร้องลูกทุ่งชื่อดังคนนี้
“วันนั้นได้ยินข่าวพี่เป้าได้ยินข่าวอโหสิกรรมให้ พูดได้ไง อยากให้แสดงน้ำใจที่ดี การยอมไม่ใช่ความน่ากลัว ไม่ใช่การเสียศักดิ์ศรี...ไม่ชอบที่ออกมาพูดว่าอโหสิกรรมให้ยอดรัก คำพูดนี้ต้องพี่แอ๊วพูด...“ “แน้ต ปฐมพงศ์ วงศ์ยาธรจิต” ศิลปินรุ่นน้องของ “สายัณห์ สัญญา” ในศิลปินช้างเผือกเผยความรู้สึกกับผู้สื่อข่าวระหว่างมาร่วมงานศพของอดีตลูกทุ่งดัง
คงต้องจับตาดูว่าเรื่องจะเป็นอย่างไรต่อไป? เป้า สายัณห์ จะออกมาพูดอะไรอีกหรือไม่หรือจะปล่อยให้เรื่องเงียบไปเฉยๆ?
ชีวิตหนึ่งได้ดับไปและกลายเป็นดาวบนท้องฟ้าไปแล้ว ทว่าดาวดับดวงหนึ่งกำลังมีชีวิตอยู่แบบตายทั้งเป็น
.....
ฤๅเกิดมาเพื่อฆ่า “สายัณห์”?
“แอ๊ว ยอดรัก สลักใจ” มีชื่อจริงว่า “นิพนธ์ ไพรวัลย์” เกิดเมื่อวันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2499 ที่บ้าน ต.งิ้วราย อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร เป็นบุตรของ นายบุญธรรม ไพรวัลย์ และ นางบ่าย ไพรวัลย์ มีพี่น้องทั้งหมด 8 คน (ผู้ชาย 7 และผู้หญิงคนสุดท้อง) จบการศึกษา ป.4 จากโรงเรียนบ้านหาดแตงโม เพราะทางบ้านไม่มีเงินส่ง ทั้งที่เจ้าตัวต้องการจะศึกษาต่อเนื่องจากฝันไว้ว่าโตขึ้นตนจะเป็นหมอ
เริ่มเข้าสู่วงการเสียงเพลงด้วยการสมัครร้องเพลงกับคณะ “เกตุน้อยวัฒนา” ที่มาเปิดการแสดงใน จ.พิจิตร ก่อนจะผันตัวเองไปร้องเพลงในห้องอาหารย่าน ตาคลี จ.นครสวรรค์ โดยใช้เพลงของ ไพรวัลย์ ลูกเพชร ชาย เมืองสิงห์ สุรพล สมบัติเจริญ ไวพจน์ เพชรสุพรรณ ในการร้อง
กระทั่งวันหนึ่ง เด็ดดวง ดอกรัก นักจัดรายการของสถานีวิทยุ ท.อ.04 ตาคลี ได้มาที่ห้องอาหารดังกล่าวและรู้สึกประทับใจในเสียงร้องในเพลงใต้เงาโศก จึงได้ชักชวนให้เข้าสู่วงการพร้อมตั้งชื่อให้ว่า “ยอดรัก ลูกพิจิตร” ก่อนจะนำไปฝากตัวกับ อ.ชลธี ธารทอง
ในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงเวลาที่ สายัณห์ สัญญา กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากเพลง ลูกสาวผู้การ รักเธอเท่าฟ้า อ.ชลธี จึงพยายามหาแนวทางให้กับยอดรัก ก่อนจะได้ไอเดียมาจากการที่ได้รับฟังคำพูดทางทีวีของทหารที่รอดตายจากสงครามในทำนองที่ว่าทางแนวหน้านั้นลำบากมากอยากให้คนที่อยู่ด้านหลังเป็นกำลังใจให้ และนั่นเองก็คือที่มาของเพลง “จดหมายจากแนวหน้า” ในราวปลายปี 2518
พร้อมๆ กับที่ อ.ชวนชัย ฉิมพะวงศ์ ได้เปลี่ยนนามสกุลจาก ยอดรัก ลูกพิจิตร มาเป็น ยอดรัก สลักใจ ซึ่ง ณ ช่วงเวลาดังกล่าวแทบจะไม่มีใครคาดคิดเลยว่าเด็กหนุ่มจากจังหวัดพิจิตรคนนี้จะสามารถสร้างชื่อเสียงโด่งดังกระทั่งกลบราชาเพลงลูกทุ่งในยุคนั้นอย่างสายัณห์ สัญญาได้
ตลอดระยะเวลาในชีวิตของการเป็นนักร้อง 30 กว่าปี ยอดรัก ได้ฝากผลงานเพลงไว้เป็นจำนวนเที่มากเกือบจะ 2,500 เพลง และมีบทเพลงที่กลายป็นอมตะมากมาย ขณะที่ผลงานด้านอื่นๆ ทั้งการแสดงภาพยนตร์ เช่น สาวนาสั่งแฟน, เรือเพลง, สาริกาลิ้นทอง รวมถึงงานละคร ทั้งหมดต่างก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี อันเป็นที่มาของฉายา “พระเอกลูกทุ่งตลอดกาล”