“สายป่าน” ปัดดังแล้วลืมตัว สวมบทบู๊นอกจอ ผลักหน้าพนักงานโรงหนัง ก่อนฝืนขอโทษต่อหน้าสื่อ หากทำให้ใครโกรธ พร้อมโต้ใส่ชุดนักเรียนดูดบุหรี่กลางที่สาธารณะ
เจอพิษข่าวฉาวอีกแล้ว สำหรับ “สายป่าน อภิญญา สกุลเจริญสุข” ที่หลังจากแสดงพฤติกรรมไม่ดี กระชากกระเป๋า ทะเลาะ และผลักหน้าเจ้าหน้าที่ของโรงหนังสยามพารากอน ในงานเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของตัวเอง “เฟรนด์ชิพ เธอกับฉัน” ท่ามกลางสายตาคนที่มาร่วมงานวันนั้น เมื่อเจอ “สายป่าน”ในงาน แถลงข่าวเปิดตัวสวนกล้วยไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลกและงานดอกไม้ประจำปีครั้งที่ 22 ที่โรงแรมปาร์คนายเลิศ ดาราสาวบอกยอมรับว่า ทำจริง แต่ไม่รุนแรงตามที่เป็นข่าว
“อย่างที่รู้กันค่ะ ใครที่ไปวันนั้นจะรู้ว่าวุ่นวายมาก ด้วยการประสานงานของพีอาร์ด้วยการอะไรหลายๆ อย่างมันไม่ลงตัว เวลาการให้สัมภาษณ์ และเวลาหนังฉายค่อนข้างติดกัน แล้วป่านมีทั้งคุณแม่ มีทั้งเพื่อนเต็มไปหมดเลย แล้วพอป่านให้สัมภาษณ์เสร็จ ก็ต้องวิ่งจากสยามดิสคัฟเวอรี่ ไปพารากอน เหนื่อย แล้วก็ไม่รู้ว่าคุณแม่อยู่ที่ไหน เพื่อนก็ไม่รู้อยู่ตรงไหน ก็เลยโทร.หาเพราะป่านไม่มีบัตร ให้แม่กับเพื่อนไปหมดแล้ว ก็ไปยืนโทรศัพท์หน้าโรงหนัง แล้วก็มีผู้ชายเดินมาบอกปิดเครื่องด้วย เขาเป็นเจ้าหน้าที่ ป่านก็โอเคปิดเครื่อง”
“กำลังจะเดินเข้าโรงหนัง ก็มีคนมากระชากกระเป๋า ขอตรวจโน่นนี่ หนูว่าชักมากไปแล้วนะ แล้วหนูไม่ชอบมาทำแบบนี้กับหนู ก็เลยพูดเฮ้ยพี่นี่กระเป๋าของหนูนะ ช่วยเงยหน้ามาดูหน่อยได้มั้ยว่าหนูเป็นใคร หนูไม่อยากจะให้เขามาทำแบบนี้กับคนอื่น เพราะเพื่อนๆ หนูด้วยก็โดนเหมือนกัน เพื่อนไม่มีสิทธิ์พูดไง แต่หนูมีสิทธิ์พูด หนูก็เลยต้องขอพูด พี่ทำอย่างนี้ไม่ถูกนะ หนูเป็นสายป่านนะ ช่วยเงยหน้ามาดู คือ ไม่ว่าจะเป็นใครก็เถอะ ไม่ควรทำแบบนี้ ก็เลยมีโมโหนิดหน่อย แต่ไม่มีผลักเขาแน่นอนค่ะ ไม่เคยไปผลักเขา ก็อาจจะมีคนหลายคนยืนอยู่ แต่ว่าเขามากระชากกระเป๋าป่าน กระเป๋าอาจจะผ่านหน้า แต่ว่าป่านไม่มีผลักหน้า ไม่ทำอยู่แล้วค่ะ แต่ยอมรับค่ะว่าโกรธ ยอมรับว่า เป็นคนพูดเอง แต่ที่มีในข่าวที่เอามาเขียนกันค่อนข้างแรงไปนิดนึง จริงๆ ไม่ได้แรงขนาดนั้น”
ถามถึงกระแสข่าวที่เกิดขึ้นกลัวถูกมองว่าเป็นขาวีนหรือไม่ ดาราสาวบอกไม่มีใครมองว่าตนเป็นคนดีอยู่แล้ว ก่อนจำใจขอโทษต่อหน้าสื่อหากทำให้ใครไม่พอใจ
“ก็ไม่มีใครมองว่าป่านดีอยู่แล้วนะ ถ้าป่านไม่ชอบป่านก็บอก คือ เราไม่รู้ว่าพ่อป่านแม่ป่านที่เข้าไปก่อนหน้านี้ เขาโดนแบบป่านรึเปล่า เลยคิดว่าทำไมต้องทำขนาดนี้ด้วย แรงจัง หนูรู้พี่ก็ยุ่ง หนูก็ยุ่งเหมือนกัน พี่เจอคนหลายคน หนูก็เจอคนหลายคนเหมือนกัน หนูมีคนพิเศษต้องดูแลคุณพ่อคุณแม่ ทำไมต้องขนาดนี้ด้วยไม่เข้าใจ”
“แต่ป่านไม่เคยก้าวร้าวสื่อมวลชนนะคะ แต่ว่าป่านจะทำกับคนที่มาทำป่านก่อนเท่านั้น แล้วพี่คนนั้นมีหน้าที่บริการ เขาก็ต้องบริการให้ดี แล้วทางบริษัทต้นสังกัดหนังก็ไม่ได้จ่ายเงินให้โรงหนังน้อยเลย อยากให้แยกแยะนิดนึงว่าป่านทำใส่ใคร”
“ก็ถ้าป่านทำให้ใครไม่พอใจ ก็ขอโทษพี่ๆ ทุกคนนะคะ ที่วันนั้นป่านรู้ตัวว่าป่านทำกิริยาไม่ค่อยดี เพราะว่าก็อยากให้เข้าใจว่าป่านมีหลายคนที่ดูแล คุณพ่อคุณแม่ก็สำคัญมากสำหรับป่าน ก็ไม่อยากให้เขาโดนแบบนี้ ก็ฝากขอโทษทุกคนด้วยแล้วกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นพี่ๆ สื่อมวลชนทุกคนหรือว่าจะเป็นแฟนคลับ รวมถึงทุกคนที่ไปดูหนังเรื่องเฟรนด์ชิพรอบเพรสด้วย”
ส่วนกระแสข่าวที่แสดงถึงพฤติกรรมในแง่ลบของ “สายป่าน” อีกประเด็น คือ มีข่าวอักษรย่อเขียนว่านักแสดงสาวหน้าตาเหมือนอดีตนักร้องสาว นุก-สุทธิดา ใส่ชุดนักเรียนเดินสูบบุหรี่ ซึ่งโดนเหมารวมว่าคือตนเอง ต่อข้อซักถามนี้ ดาราสาวปัดอยู่ติดกับแม่ตลอด ไม่มีทางทำแบบนั้นแน่นอน ยันไม่กระทบพรีเซ็นเตอร์รณรงค์สูบบุหรี่
“โรงเรียนเลิก 3 โมงค่ะ ตอนนี้เลิกเรียนก็ไปอยู่แต่สนามบีบีกัน คุณแม่จะไปรับที่โรงเรียนแล้วก็จะไปส่งทำงานแล้วก็อยู่ด้วยตลอดค่ะ ไม่ได้ไปไหนเลย”
“ข่าวอย่างนี้มันมีตั้งนานแล้วค่ะ ป่านเองทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว ก็ได้แต่ทำหน้าที่เราให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ คือ เรามายืนอยู่ตรงนี้เรารู้ว่าอะไรควรทำอะไรไม่ควรทำ แล้วก็ได้แต่รณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้เท่านั้น ส่วนใครจะบอกต่อหรือใครจะไปเขียนอะไรยังไง ไม่รู้”
“แต่ตอนนี้งงกับข่าวค่ะ เซ็งจนไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว ท้อจนเหนื่อย ปลงค่ะ คือ หนูพยายามปรับตัวแล้วนะ ปรับเยอะด้วย แต่ว่าหนูก็อยากให้คนหลายๆ คนยอมรับในสิ่งที่หนูเป็นอยู่มากกว่า หนูไม่อยากเปลี่ยนอะไร หนูไม่อยากเปลี่ยนหน้ากาก หนูไม่อยากทำต่อหน้าอย่างลับหลังอย่าง หนูอยากให้เปิดใจให้กว้างสำหรับหนู ยอมรับว่า ตัวเองเป็นคนแปลก แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง หนูก็อยากทำงานของหนูนะ อยากเป็นตัวของตัวเอง อยากให้พี่ๆ รับในตัวหนูได้ หนูเป็นคนตรง พูดไม่รู้เรื่อง พูดจาห้าวๆ โวยวายแต่ไม่ได้เหวี่ยงนะ (หัวเราะ) หนูมีเหตุมีผลค่ะ”
เผยแม้ข่าวจะบั่นทอนจิตใจ แต่ไม่ได้ทำให้งานแย่ลง
“งานกับข่าวป่านจะแยกกัน เวลาทำงานเราร่วมงานกับผู้ใหญ่กับทางบริษัทเรามีความสุข เราทำงานสบายใจ ผู้ใหญ่รักเรา ทุกวันนี้สิ่งที่ทำให้ป่านอยู่ได้คือ เรื่องข่าวบั่นทอนป่านมากนะ แต่เวลาป่านไปทำงานแล้วมีคนพูดถึงป่าน ผู้ใหญ่รักป่าน ป่านขยันมาทำงาน ส่วนข่าวป่านพยายามปลง ไม่สนใจแล้วค่ะ ข่าวก็คือข่าว”