"เหลียงเฉาเหว่ย-หลิวเจียหลิง" แวะไทยก่อนไปแต่งที่ภูฏานจันทร์นี้

งานแต่งของคู่รักสุดดังแห่งเกาะฮ่องกงอย่าง "เหลียงเฉาเหว่ย" และ "หลิวเจียหลิง" อาจจะจัดขึ้นเร็วกว่าที่หลายๆ คนคาด เมื่อสื่อที่ฮ่องกงและจีนต่างพร้อมใจกันลงข่าวว่าทั้งคู่เตรียมจะจัดงานแต่งอย่างเงียบๆ ที่มีแขกเพื่อนสนิททั้งในและนอกวงการจำนวน 80 คนในวันจันทร์นี้ ที่ดินแดนที่ไม่มีใครคาดคิดอย่างบริเวณแถบเทือกเขาหิมาลัยของประเทศภูฏาน

หลังจากประกาศแต่งงานให้วงการลื่อลั่นไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา แต่สุดท้ายทุกอย่างก็ยังคงเป็นความลับว่างานแต่งจะจัดขึ้นที่ไหน ไม่ว่าจะเป็นจัดขึ้นที่ฮ่องกง, บาหลี, ภูเก็ต รวมทั้งต่างคาดเดากันไปว่าจะจัดกันในเดือนต.ค.หรือเร็วกว่านั้น

ล่าสุดทางหนังสือพิมพ์ Shanghai Daily ของจีน และ Sing Tao Daily ของฮ่องกง ต่างพร้อมใจกันรายงานว่า เหลียงเฉาเหว่ย วัย 46 และ หลิวเจียหลิง วัย 42 สองดาราคู่รักที่คบหากันมากว่า 19 ปี จะลั่นระฆังวิวาห์กันในวันจันทร์ที่ 21 ก.ค.นี้แล้ว โดยเลือกสถานที่แต่งงานไม่เหมือนใครอย่างประเทศภูฏาน ในโรงแรมระดับ 5 ดาวที่ชื่อว่า Uma Paro

ซึ่งเหตุผลที่ทั้งคู่เลือกไปแต่งกันที่นั่นเพราะต้องการให้วันสำคัญวันนั้นเป็นเขตปลอดปาปาราซซี เนื่องจากภูฏานมีนโยบายจำกัดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศและไม่ออกวีซ่าให้ใครเข้าประเทศง่ายๆ

โดยแขกที่จะบินไปสมทบจะมีด้วยกัน 80 รายที่นอกจากสมาชิกในครอบครัวและเพื่อนสนิทแล้ว ยังมีเพื่อนในวงการมากมาย ทั้งนักร้องสาว เฟย์ หวองและสามี, สแตนลีย์ กวาน และผู้กำกับ หว่องกาไว ที่รายงานเผยว่าได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ออกแบบพิธีการแต่งงานครั้งนี้ ส่วนชุดแต่งงานของเจ้าสาวออกแบบโดย William Chang ที่จะมีใช้ในงานด้วยกัน 5 ชุด

แขกของเฮียเหลียงในวันนั้นได้แก่ Lui Fong (สามีของเจิ้งอวี้หลิง) และ Ng Ting Yip (ร่วมงานใน 2 คน 2 คม) ที่จะทำหน้าที่เป็นเพื่อนเจ้าบ่าว รวมกับคนอื่นๆ ได้ 10 คน ส่วนที่เหลือเป็นเพื่อนๆ ของเจ๊หลิวทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น เฟย์ หวอง, เจิ้นจื่อเหว่ย, ฮูจุน ฯลฯ แต่ที่น่าแปลกใจก็คือเพื่อนซี้ในวงการอย่างสาว อู๋จวินหยู กลับไม่ได้รับบัตรเชิญไปร่วมงาน ซึ่งฝ่ายเพื่อนสาวก็เผยว่าไม่ได้คิดมากเพราะรู้ว่าเป็นเรื่องยากที่จะทำทุกอย่างให้สมบูรณ์แบบในงานที่จัดขึ้นอย่างกะทันหันเช่นนี้

บรรดาแขกที่เดินทางจากเมืองจีน, ไต้หวัน และฮ่องกงจะเดินทางมาถึงกรุงเทพฯ ในวันเสาร์นี้ ก่อนที่จะบินไปยังภูฏานในวันถัดไป ซึ่งค่าใช้จ่ายในการเดินทางของแขกทั้งหมดทั้งคู่ต้องควักกระเป๋าไปอย่างน้อย 3 ล้านเหรียญฮ่องกง

การเดินทางของแขกทั้งหมดจะไปถึงที่หมายด้วยเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว 2 ลำที่หยิบยืมมาจาก ปีเตอร์ แลม บิ๊กบอสแห่ง Media Asia และเพื่อนดาราสาวอย่าง หลินชิงเสีย

โดยเจ๊หลิวยังย้ำกับบรรดาแขกคนดังที่จะไปถึงที่นั่นว่าให้เตรียมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาในงานด้วย เนื่องจากคาดว่ามันจะเป็นสิ่งที่หาไม่ง่ายนักในภูฏาน

ซึ่งแขกพิเศษจากเมืองไทยได้แก่ หลวงปู่มังกรขาว (ไป๋หลงกง) ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของคนบันเทิงฝั่งฮ่องกง ที่มีลูกศิษย์อย่างเฉินหลง, หลิวเต๋อหัว รวมทั้งตัวเฮียเหลียงเองด้วยที่จะร่วมไปเป็นสักขีพยานในวันนั้นด้วย

จริงๆ แล้วสถานที่ในการจัดงานต่างถูกเก็บเป็นความลับสุดยอด ขนาดบรรดาแขกที่จะไปร่วมงานจะรู้เพียงวันที่จะออกเดินทางเท่านั้น โดยขอร้องให้ส่งสำเนาพาสปอร์ตของพวกเขามาเพื่อทำเรื่องขอวีซ่าให้ โดยผู้ที่อยู่เบื้องหลังการขอวีซ่าเข้าประเทศภูฏานให้กับแขกทุกคนได้แก่ Cheng Yu Tung กงสุลกิตติมศักดิ์ประจำภูฏานของฮ่องกง

ในวันที่เธอให้สัมภาษณ์ต่อหนังสือพิมพ์ Nanfang Daily เกี่ยวกับการเปิดใจเรื่องอื้อฉาวในอดีตของเธอเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เธอยังได้พูดถึงเรื่องแต่งงานของเธอด้วย ที่บอกว่ามันจะเป็นงานแต่งเล็กๆ ที่จัดขึ้นในต่างประเทศ

"งานแต่งจะจัดขึ้นระหว่างที่เราเดินทาง แม่ของเหว่ยไช่(ชื่อเล่นของเฮียเหลียง)กับแม่ของฉันไม่ได้บังคับให้เราต้องจัดพิธีแต่ง แต่เราคงจะเชิญเพื่อนเก่าๆ ในร่วมงานด้วย"

แต่ในบรรดาแขกอันน้อยนิดในโควตาของฝ่ายชาย มีอยู่ผู้หนึ่งที่เขาอยากจะเชิญมาร่วมงานด้วย นั่นก็คือ จางม่านอวี้ นั่นเอง แต่มีข่าวลือออกมาว่าว่าที่เจ้าสาวอย่างเจ๊หลิวที่ดูแลรายละเอียดเกี่ยวกับงานทั้งหมดได้คัดชื่อเธอออกไปจากรายชื่อแขก เนื่องจากสองคนนั้นเคยมีข่าวกุ๊กกิ๊กกันช่วงที่ร่วมงานกันใน In The Mood For Love เมื่อปี 1999 และมาเจอกันอีกครั้งใน Hero เมื่อปี 2001 นั่นเอง