“ยู่ยี่” เผยอยู่ในช่วงปรับความเข้าใจกับ “แฟรงค์” รับการหย่าที่ผ่านมาเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบ แต่ถือเป็นเรื่องดี เพราะทำให้ตนได้คิดและมีสติมากขึ้น ก่อนย้ำไม่คิดจะจดทะเบียนสมรสใหม่ เพราะถือเป็นเพียงกระดาษแผ่นเดียว แต่หวังแค่อยากกลับมาใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันเหมือนเดิมก็พอ
หลังจากที่ออกมาแถลงข่าว “เตียงหัก-ร้กร้าว” ไปแล้ว สำหรับครอบครัวแสนสุขของนางแบบสาวหุ่นเคยเซ็กซี่อย่าง “ยู่ยี่-อลิสา อินทุสมิต” หรือ “อลิสา เกวสต้า” กับสามี “แฟรงค์ เกวสต้า” โค้ชเทนนิสชื่อดัง ที่อยู่กินกันมากว่า 5 ปี มีทายาท 2 คน
แต่ล่าสุดผู้สื่อข่าวมีโอกาสเจอ “ยู่ยี่-อลิสา” พร้อมลูก 2 คนใส่ชุดอวดอึ๋มมาร่วมเดินแบบในงาน “เปิดตัว CW MAGAZINE” ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งในงานก็ยังแอบเห็นอดีตสามี “แฟรงค์ เกวสต้า” มาให้กำลังใจ เดินตามถ่ายภาพตลอดทั้งงาน ทำให้ผู้สื่อข่าวสงสัยว่า “ยู่ยี่-แฟรงค์” กลับมารีเทิร์นกันแล้ว พอหลังจากงานเสร็จสิ้นลงผู้สื่อข่าวเลยเข้าไปสอบถามยังนางแบบสาว “ยู่ยี่-อลิสา” เธอเลยเปิดใจว่าตอนนี้หันหน้าคุยกันอีกครั้งด้วยความเข้าใจ
“คือ ตอนนี้เราเริ่มหันหน้าเข้ามาคุยกันใหม่แล้ว แต่จริงๆ เราก็ดีกันมาตลอด แต่ช่วงนี้ดีขึ้นมาก เพราะเราไม่ได้ทะเลาะกันเท่านั้นเอง แต่ตอนนี้ยี่กับเขาก็เริ่มเข้าใจกันมากขึ้น เราเข้าใจว่าเราสองคนมีข้อบกพร่องกันตรงไหน”
“ตอนนี้เขาก็ให้เวลาเรามากขึ้น แต่เราก็เข้าใจเขานะว่าเขาต้องตื่นตั้งแต่ตีห้า กลับมาอีกครั้งก็หนึ่งทุ่ม เราเองก็ยอมรับนะว่าที่ผ่านมายี่ต้องเลี้ยงลูกคนเดียว คือเราก็อยากที่จะออกไปทำงานเหมือนกัน จนบางทีก็มีวีนบ้างเหมือนกัน แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ที่เราจะออกไปทำงานนอกบ้านทั้งหมด เพราะงานหลักเราคือการเลี้ยงลูกอย่างเดียว มันเหนื่อยนะคือเรื่องพวกนี้มันปรับกันได้ แต่แค่ตอนนั้นมันเป็นอารมณ์ชั่ววูบเท่านั้นเอง”
เผยหากย้อนเวลากลับไปได้ก็จะหย่าแบบนี้ เพราะถือเป็นเรื่องดีทำให้ตนคิดอะไรได้มากขึ้น บอกตอนนี้มีความสุขดี ก่อนย้ำหวังอยากจะกลับมาใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันเหมือนที่ผ่านมา...
“แต่ถ้าถามว่าย้อนเวลากลับไปได้เราจะหย่ากันไหม ก็คงต้องหย่าเพราะถ้าหากไม่มีการหย่าอย่างที่เป็นมาชีวิตเราอาจจะไม่เป็นอย่างนี้ก็ได้ เป็นแบบตอนนี้มันดีอยู่แล้ว เห็นไหมล่ะว่าตอนนี้ชีวิตยี่ดูมีความสุข สดใสมากขึ้น ตอนนี้น้ำหนักขึ้นมา 5 กิโลแล้ว อ้วนขึ้น (หัวเราะ) ตอนนี้ทบทวนกันมากขึ้น เพราะยี่รู้สึกว่าเราอยู่เป็นครอบครัวแล้วมันดูแข็งแรงเหมือนไม้ เพราะถ้าเราแตกแยกกันมันก็เหมือนชีวิตไม่มีอะไร หน้าเศร้าหมอง ทำอะไรก็ไม่สนุกกับงาน”
“ต่อจากนี้ก็คงจะใช้เวลาดูๆ กันไป แต่ว่าตอนนี้มันก็ดีอยู่แล้ว คืออนาคตจะเป็นอย่างไรตอนนี้จิตใจเราดีต่อกันก็พอ อย่างตอนนั้นที่เราหย่ากันไปมันก็เหมือนจะทำให้เรากลับมาดีกัน ซึ่งยี่ก็คิดเสมอว่าเราอยากที่จะกลับมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน อยู่บ้านเดียวกันเหมือนเดิม คือ ตอนนี้เขาก็ไปๆ มาๆ ก็มีกินข้าวกันทั้งครอบครัวอาทิตย์ละหนึ่งวัน”
ต่อข้อถามถึงเรื่องของการที่ทั้งคู่กลับมารีเทิร์นด้วยกันอีกครั้ง เป็นเพราะเหตุการณ์รถชนของสาวยี่ครั้งที่ผ่านมาหรือไม่ เพราะหลังจากเกิดเหตุการณ์ครั้งนั้น คนแรกที่ไปเฝ้าถึงโรงพยาบาล ก็คือ อดีตสามี นางแบบสาวเผยว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นมีส่วนอย่างมากในการปรับตัวเข้าหากันอีกครั้ง
“มันก็มีส่วนมากเลยค่ะ ยี่โทร.หาเขาเป็นคนแรก ยี่ไม่มีใครจริงๆ โทรหาเขาก็มาเร็วมากเขามาถึงโรงพยาบาลภายใน 15 นาทีเอง มันทำให้เราเห็นว่าเวลาที่เราลำบากเรามีใคร นี่แหละยี่ก็เลยอยากกลับมาใช้ชีวิตเป็นครอบครัวเหมือนเดิม”
“ยี่ เชื่อว่า ทุกคนก็คงอยากให้ครอบครัวสมบูรณ์อยู่แล้ว เพียงแค่อย่าไปฝืนอะไรมันก็พอ ปล่อยมันไปเป็นตามธรรมชาติดีกว่า แล้วเราก็ต้องรู้ตัวด้วยว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ อนาคตถ้าหากมันจะพัฒนาหรือเปลี่ยนแปลงมาเหมือนเดิมมันก็จะต้องเป็นไปในทางที่ดีเอง อย่างช่วงนี้ที่เรากับมาคุยกันมากขึ้นลูกๆ ก็โอเคนะ มีความสุขดีเราเองก็มีความสุขขึ้นเยอะ”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่าแล้ว “ยู่ยี่” ออกมารับงานในวงการบันเทิงแบบนี้อดีตสามีหนุ่มว่าอย่างไรบ้าง เพราะที่ผ่านมาฝ่ายชายไม่อยกาให้กลับเข้าวงการบันเทิง ยู่ยี่ เผยเศรษฐกิจไม่ดีอยากช่วยสามีทำงาน ซึ่งอีกฝ่ายก็เข้าใจดี
“เขาโอเคค่ะ เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร อย่างวันนี้เขาก็มาด้วย เขาก็เต็มใจก็มาเดินตามถ่ายวิดีโอแล้วทำเป็นแผ่นซีดีส่งไปที่สเปนให้ครอบครัวเขาดู แต่การกลับมารับงานในวงการครั้งนี้ยี่ก็ได้คุยกับเขาแล้วนะว่า ตอนนนี้เศรษฐกิจก็ไม่ค่อยดี มีอะไรทำได้ก็อยากทำ”
“คือ เขาก็รู้ว่ายี่ทำงานตรงนี้ ยี่ชอบ ยี่รัก นอกจากจะได้เงินแล้วยี่ยังมีความสุขเขาก็เลยโอเค เพราะเขาก็เข้าใจว่ายี่ก็ไม่ได้อยากที่จะเข้ามาเต็มตัวเลยทีเดียวและจะมาปล่อยลูกไว้กับพี่เลี้ยงอย่างเดียวมันก็ไม่ใช้ เพราะยี่ไม่ได้เป็นคนแบบนั้นอยู่แล้ว”
ต่อข้อถามที่ว่าช่วงนี้ “ยู่ยี่-แฟรงค์” ก็กลับมาคบหาดูใจกันใหม่แล้ว คิดจะกลับมาจดทะเบียนสมรสด้วยกันอีกครั้งไหม นางแบบชื่อดังเผยว่ายังตอบไม่ได้เพราะแค่เรื่องกระดาษแผ่นเดียว ขออยู่ด้วยความเข้าใจ
“อันนี้มันยังตอบไม่ได้ คือ จริงๆ แล้วจะให้ยี่ไปจดทะเบียนใหม่ก็ได้ เพราะมันก็แค่กระดาษแผ่นเดียว อย่างที่เราหย่ากันมันก็แค่กระดาษแผ่นหนึ่งเหมือนกัน เราก็ยังรักเขาอยู่และเขาก็ยังรักยี่อยู่และเราสองคนก็รักลูกด้วย มันก็เหมือนแค่การใช้นางกลับนางสาวเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นมันไม่จำเป็น มันไม่ใช่ชื่อเรา แต่ตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้นนะ คือ ตรงนี้มันต้องเป็นเรื่องของในอนาคตแล้วกัน”
เผยการหย่าที่ผ่านมามันเหมือนเป็นการหย่าที่ช่วยชีวิต ย้ำความรักและความสุขครั้งนี้ไม่จำเป็นต้องมีทะเบียนสมรสมาการันตีก็ตาม...
“อีกอย่างการหย่าครั้งที่ผ่านมายี่ยอมรับว่ามันช่วยชีวิตยี่ได้เยอะมาก คือตอนนี้ที่เราหย่าเราคาดหวังด้วยน้ำตา เราไม่คิดว่ามันจะกลับมาดีแบบนี้ ยี่คิดเสมอว่าหย่าแล้วเขาก็คงจะไปจากชีวิตเรา แต่ตอนนี้เขาก็ได้พิสูจน์แล้วว่าเขารักเรา ยี่ถือว่าการหย่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับเรา ถึงแม้ว่ามันไม่ได้มีทะเบียนอยู่กับเราตอนนี้ก็ตาม”
เผยหลังจากหันหน้ากลับมาปรับความเข้าใจกับอดีตสามีทำให้โรคซึมเศร้าอย่างที่ผ่านมาหายเป็นปกติ บอกชีวิตมีความสุขทำอะไรอย่างที่อยากทำได้เต็มที่ ไม่ต้องมีกฎเกณฑ์เหมือนที่ผ่านมา...
“ตอนนี้โรคซึมเศร้าที่ยี่เคยเป็นหายดีแล้ว หายไปเลย อาจจะเป็นเพราะว่าเรามีความสุขขึ้น ได้ออกกำลังกาย ได้เล่นกีฬาและก็กินอย่างที่เราอยากกิน คือ ไม่ต้องอด คือตอนนี้ได้กินแล้วเรามีความสุข อีกอย่างช่วงที่ผ่านมาเราก็ใช้ธรรมะเข้าช่วยด้วย เพราะมันจะทำให้จิตใจเราสงบ มันทำให้สบายขึ้น คือมีเวลาว่างเราก็จะนั่งสมาธิให้จิตใจเราโปร่งขึ้น จะได้ไม่ต้องคิดอะไรมาก”
