"หนิง" ฟันธงเลิก "บิ๊ก" ตั้งแต่รู้ข่าวมีมือที่สาม ปัดให้ไปถามฝ่ายชายว่านางแบบสาว "การ์ตูน" เคยตามาราวีหรือไม่ เผยอีกฝ่ายพยายามโทรคุยตลอดแต่ตนไม่รับสาย บอกชีวิตจริงเป็นนางเอกไม่อยากพูดอะไรมากหวั่นซ้ำภาพนางร้าย แจงนักแสดงหนุ่มเคยบอกมีสาวๆ ติดพันเยอะ สุดท้ายเกินขีดรับได้จนแตกหัก เปรยไม่อยากให้มองอดีตแฟนหนุ่มผิดคนเดียว ย้ำตนไม่ใช่คนโง่
หลังจากที่นางแบบสาว "การ์ตูน กฤติยา" ออกมาแฉความสัมพันธ์ลึกซึ้งมากเกินคำว่าแฟนกับนักแสดงหนุ่ม "บิ๊ก ศรุต วิจิตรานนท์" ว่าคบหากันได้เกือบสองปีแต่จำใจต้องเลิกราเนื่องจากเห็นใจหัวอกลูกผู้หญิงด้วยกัน ซึ่งเป็นสาเหตุให้นางร้ายขายดี "หนิง ภารดา พัฒนาหิรัญ" ยอมเลิกราหลังรู้ถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ได้หลายเดือน
โดยงานนี้พอเจอตัวสาว "หนิง" ถามถึงความสัมพันธ์กับอดีตแฟนหนุ่มเป็นอย่างไรบ้าง เพราะก่อนหน้านี้ฝ่ายชายให้สัมภาษณ์ว่าเธอได้ให้โอกาสแล้ว..."เรื่องนี้จริงๆ ก็จบไปแล้วหนิงไม่ขอพูดเรื่องนี้ดีกว่า ก็คุยกันปกติเป็นพี่เป็นน้องกันยังไม่มีอะไรคืบหน้าไปกว่านั้นคะ หนิงขอเวลาที่อยู่อย่างนี้ดีกว่า"
ถามว่าสาว "การ์ตูน" เคยมาราวีบ้างหรือไม่ เจ้าตัวปัดให้ไปถามอีกฝ่าย
"มันเป็นเรื่องที่หนิงอยู่เฉยๆ หนิงไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย ควรจะถามพี่บิ๊กมากกว่า หนิงไม่รู้จะตอบยังไง หนิงอยู่เฉยๆ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้ เขาก็พยายามโทร พยามจะคุยด้วย หนิงไม่ต้องการจะคุยกับใคร ใครจะคุยกับใครก็คุยกันเอง นี่ก็เลิกแล้วก็น่าจะโอเค"
"ถามว่าเขาพูดจาดีไหม ตรงนั้นอย่าไปพูดถึงเลยดีกว่าคะ พูดกันไปก็เหมือนเป็นการต่อความยาวสาวความยืดกัน หนิงเลือกที่จะอยู่เงียบๆ ดีกว่า หนิงเสียใจจนไม่รู้จะเสียใจยังไงแล้ว หนิงขออยู่อย่างนี้ดีกว่าค่ะ"
ต่อข้อถามว่ารู้สึกอย่างไรที่ในที่สุดฝ่ายชายก็เลือกเธอ ส่วนการที่อีกฝ่ายออกมาแฉความสัมพันธ์ของทั้งคู่หวังเพื่อสร้างกระแสให้ตัวเองดังด้วยนั้น นางร้ายช่างจ้อบอกตนไม่อยากพูดอะไรมาก เปรยชีวิตจริงเป็นนางเอก
"อันนี้หนิงไม่ทราบถ้าพูดอะไรไปด้วยความที่หนิงเป็นนางร้ายหนิงพูดลำบากกว่านางเอก พูดอะไรไปคนอาจจะมองเป็นนางร้ายแต่ในชีวิตจริงนางร้ายอาจจะเป็นนางเอกก็ได้ จริงๆ เรื่องนี้ทั้งหมดหนิงรู้มาตั้งแต่ตอนที่พี่ๆ รู้ข่าวว่าหนิงเลิกกันรู้มานานพอสมควร ถึงบอกว่าโอเคเป็นอย่างนี้ก็เลิก เคยพูดมาตลอดว่าระหว่างหนิงถ้ามีเรื่องผู้หญิงหนิงก็จบ หนิงก็จบมาตั้งนานแล้ว เอาเป็นว่าสิ่งที่หนิงไม่เข้าใจอยู่อย่างเดียวคือเรื่องต้องลามปาม เลิกกันมา 3-4 เดือนยังมีข่าวหนิงไปกินข้าวกันบ้าง หนิงคบกันมา 7-8 ปีเลิกกันมันไม่ใช่ต้องสาดโคลนใส่กันและมองหน้ากันไม่ติดเลย มันก็ยังมีความดีเป็นพี่เป็นน้องกันได้ไม่จำเป็นต้องเป็นแฟน เรื่องมันจบนานแล้วแต่ไม่เข้าใจว่าทำไมเรื่องเพิ่งมีข่าว"
ถามกลับว่าหากเป็นตัวเองจะสามารถทำใจได้หรือยัง แจงทุกวันนี้มองเป็นเรื่องขำแม้ฝ่ายชายจะคอยบอกตลอดว่ามีสาวๆ มาติดพันจนในที่สุดก็เกินขีดที่จะรับได้
"ถามตัวคนที่อ่านข่าวคุณจะรู้สึกยังไงเพราะหนิงเป็นคนไม่รู้อะไรเลยค่ะ เรื่องนี้สุดท้ายมองเป็นเรื่องขำๆ คนก็เข้ามาหาพี่บิ๊กเยอะแยะหนิงก็รู้ตลอด พี่บิ๊กจะพูดให้ฟังตลอดแต่อะไรที่หนิงเกินขีดที่จะรับไม่ได้หนิงก็บอกแล้วว่าจบ"
"ทุกวันนี้ก็ยังดูว่ามีอะไรบางอย่างก็เข้าใจหนิงแม้จะพัฒนาเป็นแฟนกันใหม่ไม่ได้ เรื่องบางเรื่องไม่อยากให้มองพี่บิ๊กผิดฝ่ายเดียว หนิงพูดไปเดี๋ยวคนจะหาว่าเข้าข้างคนของเราเอง ทุกคนก็หาว่าหนิงโง่ หนิงไม่ใช่คนโง่คะ ไม่โกรธค่ะ เครียดไหมอาจจะนิดหน่อย คนเราเจอเรื่องอะไรแบบนี้ต้องรู้สึกได้ธรรมดาเพราะเราไม่ได้ทำอะไร คนก็รู้ว่าเราคบกันเราไม่ได้ทำอะไรคะ"
"ตอนนี้ก็มีคนเข้ามาเรื่อยๆ คะ ให้มันเรื่อยๆ ดีกว่าคะ หนิงมองเป็นเรื่องตลกไปแล้วไม่ได้มองเป็นเรื่องซีเรียสอะไร โดยปัจจัยอะไรหลายๆอย่าง มีเราเท่านั้นรู้ว่าเรื่องจริงคืออะไรแต่จะมาให้นั่งพูดรายละเอียดตั้งแต่ต้นจนจบ เพราะส่วนหนึ่งก็ต้องมีความเป็นส่วนตัวพอสมควรเหมือนกัน พูดได้เท่าที่พูดได้และไม่กระทบกับใคร หนิงเป็นของหนิงอย่างนี้ดีกว่าคะ มาม๊าบอกเป็นเรื่องธรรมาดาบอกสมัยก่อนพ่อแกก็เป็นอยางนี้เหมือนกัน คนรอบข้างเพื่อนๆ ผู้ชายก็เป็นอย่างนี้เหมือนกันแต่เพียงว่าคนที่คบอยู่จับได้หรือเปล่าเท่านั้นเอง แต่นี่อาจจะใช่เป็นสิ่งที่หนิงรับไม่ได้ด้วยคะ"